กรุงเทพฯ 19 พ.ค.- ส.ส.ก้าวไกล เตือนรัฐบาลออกร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท อาจสูญเปล่า หากยังบริหารแบบเดิม จี้ เปลี่ยนตัวนายกฯ ที่มีศักยภาพมาบริหารงบฯประเทศ
นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.ก. กู้เงิน 7 แสนล้านบาท วานนี้ (18 พ.ค.) ว่า ช่วงนี้ของปีที่แล้ว รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท แต่หนึ่งปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เห็นผลลัพธ์อะไรจากการกู้เงินของรัฐบาลเลย จึงอยากตั้งคำถามว่า ถ้ายังเป็นรัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศ ผลลัพธ์จากการกู้เงินรอบใหม่จะต่างไปจากเดิมหรือไม่ หากกลับไปดูการดำเนินงานที่ผ่านมา จะเห็นว่ายังไม่บรรลุเป้าหมายเลยซักแผน โดยแผนสาธารณสุข วงเงิน 45,000 ล้านบาท คงเหลือ 19,174 ล้านบาท ผ่านมา 1 ปี การเบิกจ่ายยังทำได้ต่ำมาก หลายโรงพยาบาลยังขาดความพร้อม การตรวจเชื้อยังทำได้จำกัด เตียงและเครื่องช่วยหายใจไม่พร้อมรับคนไข้โควิดรอบใหม่ โรงพยาบาลสนามที่ไม่ได้มาตรฐาน แผนเยียวยา วงเงิน 600,000 ล้านบาท รัฐบาลอนุมัติได้เกือบเต็มวงเงิน แต่ข้อสังเกต คือ เงินก้อนนี้ ไม่มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือ SMEs ทั้งที่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ส่วนแผนฟื้นฟู 355,000 ล้านบาท คงเหลือ 216,886 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายล่าช้ามาก การตั้งโครงการก็มีลักษณะอิงการเมือง ไม่มีวิสัยทัศน์ มีความเสี่ยงที่โครงการจะไม่บรรลุเป้าหมาย ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ
นายวรภพ กล่าวอีกว่า ร่าง พ.ร.ก. กู้เงินฉบับใหม่ ยังคงถูกวางกรอบไว้เหมือนเดิม คือ ด้านสาธารณสุข วงเงิน 30,000 ล้านบาท, เยียวยา วงเงิน 400,000 ล้านบาท และ ฟื้นฟู วงเงิน 270,000 ล้านบาท แต่ถ้ารัฐบาลทำเหมือนเดิม คือ การทำโครงการเบี้ยหัวแตกและรวมศูนย์อำนาจในการอนุมัติ ผลลัพธ์ย่อมไม่ต่างไปจากปีที่แล้ว
“หวังว่ารัฐบาลจะยอมรับและเรียนรู้ความผิดพลาดในการบริหารที่ผ่านมา การกู้เงิน 7 แสนล้านบาท ต้องไม่ทำแบบที่ผ่านมา อยากให้ประชาชนทุกคนที่จะต้องเป็นผู้จ่ายหนี้ในอนาคต แม้ว่าจะไม่พร้อมใจ ต้องจับตาดูว่า รัฐบาลจะยอมรับและเปลี่ยนแนวทางในการบริหารภาษีของเราหรือไม่ และถ้าเป็นไปได้ เราควรเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ผู้ที่มีวิสัยทัศน์และมีศักยภาพมากกว่านี้มาเป็นผู้บริหารงบประมาณ” วรภพ กล่าว.-สำนักข่าวไทย