แนะรัฐเร่งเยียวยาท่องเที่ยว-แรงงาน

กรุงเทพฯ 14 พ.ค.-“เพื่อไทย” ชี้นายกฯ รวบอำนาจคุมโควิด แต่ยังล้มเหลว ประชาชนไม่เชื่อมั่นวัคซีน ธุรกิจท่องเที่ยว แรงงานกระทบหนัก แนะเร่งเยียวยา


ายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะประธานอนุกรรมการนโยบายท่องเที่ยว และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิดยังขยายต่อวงกว้าง น่ากังวลว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่รวบอำนาจการจัดการการระบาดครั้งที่ 3 นี้ ไว้กับตนเอง จะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ ปริมาณการระบาดกลับเพิ่มมากขึ้น ทั้งคนติดเชื้อและคนเสียชีวิต ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก แสดงถึงความล้มเหลวในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด

“การที่พล.อ.ประยุทธ์รวบอำนาจบริหารจัดการไวรัสโควิดจากครม. ทั้งหมด เท่ากับพล.อ.ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบความล้มเหลวนี้แบบเต็ม ๆ คนเดียว ไม่ต่างอะไรจากการที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้ง แต่เศรษฐกิจกลับย่ำแย่มาตลอดตั้งแต่ก่อนมีวิกฤติการณ์ไวรัสโควิดจนกระทั่งมาถึงการระบาดครั้งที่ 3 นี้ แสดงถึงความล้มเหลวซ้ำซ้อนของพล.อ.ประยุทธ์ในการบริหารจัดการทุกด้าน แม้กระทั่งเรื่องวัคซีนที่ผมและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเตือนมาตลอด” นายจัรพล กล่าว


นายจักรพล กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งจะประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ประชาชนยังไม่มั่นใจในคุณภาพวัคซีนและไม่สามารถเลือกวัคซีนที่ตัวเองมั่นใจได้ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าไทยจะมีวัคซีนเข้ามาให้ฉีดในจำนวน 150-200 ล้านโดสได้เมื่อใด และการจะด้องกระจายการฉีดวันละ 500,000 -1.000,000 โดส เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่จะทำได้อย่างไรอย่างมีประสิทธิภาพ การจะกระจายการฉีดวัคซีนได้มากขนาดนั้นต้องวางแผนและการจัดระบบที่ดี ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าไม่มีความมั่นใจเลยว่าพล.อ.เอกประยุทธ์จะมีความสามารถพอที่จะบริหารจัดการเรื่องนี้ได้ และมีโอกาสสูงที่จะล้มเหลวในการการจายการฉีดวัคซีน

“การฟื้นของเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับสัดส่วนจำนวนประชาชนที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ถ้ากระจายการฉีดได้มากและกระจายการฉีดได้เร็ว ก็จะสามารถเปิดประเทศ เปิดธุรกิจได้เร็ว เศรษฐกิจก็จะฟื้นเร็ว ตามการคาดประมาณของแบงก์ชาติที่คาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจผกผันตามจำนวนสัดส่วนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งเรื่องนี้ตอกย้ำความผิดพลาดและการขาดวิสัยทัศน์ของพลเอกประยุทธ์ที่ยอมรับเองว่าที่สั่งวัคซีนน้อยเพราะเห็นคนติดเชื้อน้อยในช่วงแรก ซึ่งแสดงถึงการขาดความรู้และไม่เข้าใจเลยว่าวัคซีนจะต้องฉีดให้มากที่สุดเพื่อเปิดประเทศและฟื้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะมีการติดเชื้อมากหรือน้อยเท่าไหร่ไม่เกี่ยวกันเลย ความผิดพลาดนี้ทำให้ประเทศเสียหายอยากมากทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังทำให้คนต้องเจ็บและตายกันเป็นจำนวนมากจนไม่อาจจะให้อภัยได้ เพราะถ้าสั่งวัคซีนมาจำนวนมากและกระจายฉีดได้มากแต่แรกประชาชนจะไม่เจ็บและจะไม่ล้มตายมากเท่านี้ อีกทั้งเศรษฐกิจจะฟื้นเร็วกว่านี้มาก” นายจักรพล กล่าว

นายจักรพล กล่าวว่าการระบาดอย่างรุนแรงในรอบที่ 3 นี้ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรงโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบมานานกว่า 1 ปีแล้วที่นักท่องเที่ยวหายไปหมด ความคาดหวังที่จะได้คนไทยเที่ยวก็พลอยพังทลายไปด้วย การเดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศลดลงถึง 38% นอกจากนี้ บริษัททัวร์นำเที่ยวต้องปิดตัวเองแล้วกว่า 2 หมื่นแห่งเพราะลูกค้าหายกว่า 95% โรงแรมต่าง ๆ ขาดทุนกันหมด หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวของระบบธนาคารได้เพิ่มสูงขึ้นมากและยังมีแนวโน้มที่จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก


“ขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์เร่งช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวโดยด่วน อย่าปล่อยให้เจ๊งกันหมด เพราะปัจจุบันดอกเบี้ยทบเงินต้นและเงินต้นทบดอกเบี้ย จะทำให้มีปริมาณหนี้ในระดับที่สูง และจะไม่สามารถชำระหนี้ได้แม้การท่องเที่ยวจะกลับมาสู่ปกติ พล.อ.ประยุทธ์ต้องคิดล่วงหน้าและหาทางช่วยลดภาระหนี้สินของธุรกิจท่องเที่ยวตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนจะต้องปิดกิจการกันหมด รวมถึงสนับสนุนการจ้างงานด้วย เพราะปัจจุบันมีคนตกงานจากภาคธุรกิจท่องเที่ยวเป็นล้านคนแล้ว คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเสนอซอฟท์โลนดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจทั้งหมด รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวด้วย ซึ่งแม้รัฐบาลจะเริ่มทำบ้างแล้ว แต่ยังล่าช้าและยังติดกฏเกณฑ์จำนวนมาก ซึ่งทำให้การช่วยเหลือล่าช้า และอาจช่วยไม่ได้เลย จึงอยากให้มีความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือนี้ โดยอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ศึกษาแนวทางการปฏิบัติในประเทศอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จ” นายจกรพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย