ทำเนียบรัฐบาล 29 เม.ย.-ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,871 ราย เสียชีวิต 10 คน ย้ำต้อง WFH ให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หยุดวัยทำงานแพร่เชื้อจากที่ทำงาน ร้านอาหารสู่ครอบครัว

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่าสถานการณ์ในวันนี้ (29 เม.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,871ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศ 1,864 ติดเชื้อจากต่างประเทศ 7 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 63,570 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิต 10 คน เสียชีวิตสะสม 188 คน โดยผู้เสียชีวิต 10 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 2 คน แบ่งเป็น กทม. 6 คน นครสวรรค์ สมุทรปราการ ยโสธรและอยุธยาจังหวัดละ 1 คน มีสาเหตุมาจากมีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันสูง หลอดเลือดสมอง หัวใจ ปอดเรื้อรัง ไตเรื้อรัง ภาวะอ้วน ป่วยติดเตียง และไม่ทราบโรคประจำตัว มีปัจจัยเสี่ยงจากการสัมผัสญาติที่มาเยี่ยม ทานข้าวกับเพื่อนร่วมงานที่ติดเชื้อ ผู้ดูแลที่ติดเชื้อ
“ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1- 29 เมษายนมีจำนวน 34,707 ราย รักษาตัวอยู่ 27,988 ราย แบ่งเป็นรักษาตัวในโรงพยาบาล 21,306 ราย ในโรงพยาบาลสนาม 6,602 ราย อาการหนัก786 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 230 ราย เป็นสิ่งที่แพทย์ต้องทำงานอย่างหนัก ทำงานไมได้หยุดและเพิ่มปริมาณงาน โดยจำนวนบุคคลการทางการแพทย์ของเราไม่ได้มีมากกว่าประเทศอื่น ๆ ดังนั้น ต้องขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลงมา แต่การตรวจเชื้อเชิงรุกยังพบผู้ติดเชื้อร้อยละ 2 ใครที่เห็นรถพระราชทานไปตรวจที่ไหนขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และหากที่ไหนไม่สบายใจสามารถร้องขอให้ไปตรวจได้ โดยเฉพาะกทม.” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 อันดับ คือ กทม. สมุทรปราการ ชุลบุรี เชียงใหม่ และปทุมธานี ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 29 เมษายน 5 อันดับ ตามลำดับ คือ กทม. เชียงใหม่ ฃลบุรี สมุทรปราการและนนทบุรี โดยจะพบว่ากทม.และปริมณฑล ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึงปัจจุบัน 11,588 ราย ซึ่งถ้าจัดการปัญหาในกทม.ได้ก็เหมือนจัดการได้ทั้งประเทศ ดังนั้น ขอให้ร่วมมือกัน โดยเฉพาะคนทำงาน ควรต้องทำงานที่บ้านหรือ WFH ให้ได้100 เปอร์เซ็นต์
“เพราะกลุ่มคนทำงานจะเดินทางไปมา ดื่มกิน ทำให้ร้านอาหารกลายเป็นแหล่งติดเชื้อไปด้วย งดงานเลี้ยง งดพบปะสังสรรค์ ซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านและควรปรับเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่เพียงที่ร้าน รวมถึงที่บ้านด้วย ซึ่งในส่วนของวัยทำงาน อายุ 20-39 ปีจะแสดงอาการแค่ 60 เปอร์เซ็นต์ มีอาการ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก มีเสมหะ ปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ให้สงสัยไว้ก่อน โดยเฉพาะการร่วมวงชาบูหมูกะทะเป็นปัจจัยเสี่ยง” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนผู้เดินทางจากต่างประเทศ ติดเชื้อจำนวน 7 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากอินเดีย 2 ราย มาเลเซีย 2 ราย สวิสเซอร์แลนด์ 1ราย ญี่ปุ่น 1 ราย และฮังการี 1 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่าจะไม่มีเครื่องเช่าเหมาลำมาจากอินเดียแน่นอน จะไม่ปล่อยให้ใครมีอภิสิทธิ์
โฆษกศบค. กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกว่า มีจำนวน 150,216,590 ราย เพิ่มขึ้น 885,604 ราย เสียชีวิต 15,284 คน อินเดียยังคงเป็นอันดับต้น ๆของโลก ซึ่งเราและคนทั้งโลกขอเอาใจช่วยอินเดียผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน พร้อมจับตาดูทวีปเอเชียโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในวันนี้คือ มาเลเซีย 3,142 ราย กัมพูชา 698 รายและลาว 93 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงหมดไทยได้ขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากเคหสถานจำนวน 12 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยนาท นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สุราษฏร์ธานี ตรัง ยะลา บึงกาฬ นครนายก ปทุมธานี สมุทรปราการและสงขลา รวมทั้งมีบทลงโทษประชาชนที่ไม่สวมหน้ากากนอกเคหสถานจำนวน 73 จังหวัด
“มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเรื่องการรายงานตัวเพื่อเป็นทหารกองประจำการ โดยขอให้งดการเดินทางไปรายงานตัวจากเดิมที่นัดไว้วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ โดยให้ไปรายงานตัวในวันที่ 1 กรกฎาคม ขณะเดียวกันในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้เลื่อนเปิดการศึกษาเป็นวันที่ 1 มิถุนายน” โฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย