เพิ่มความเข้มชายแดนป้องกันนำเชื้อเข้าประเทศ

กอ.รมน. 20 เม.ย.-ประชุมนขต.กอ.รมน.ให้ทำงานที่บ้าน ลดกำลังพลเข้าทำงานที่ออฟฟิศเหลือ 1 ใน 4 ย้ำให้ระวังตัวมากขึ้น เพราะมีโอกาสติดเชื้อได้ตลอด ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ตรวจเข้มชายแดนป้องกันนำเชื้อเข้าประเทศ


พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เปิดเผยว่า กอ.รมน.ประชุมหน่วยขึ้นตรงครั้งที่ 4/2564 โดยมีพล.อ. วรเกียรติ รัตนานนท์ เลขาธิการกอ.รมน.เป็นประธาน และมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง(นขต.) ของกอ.รมน. (ส่วนกลาง) และผู้แทนกอ.รมน.ภาค 1-4 ร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา เรื่องการให้บุคลากรปฏิบัติงานที่พักอาศัย (Work From Home) หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบันที่พบการติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มมากขึ้นจากหลายกลุ่มก้อน กระจายไปในพื้นที่ทั่วประเทศ

“เลขาธิการกอ.รมน.สั่งการให้นขต.กอ.รมน. (ส่วนกลาง) จัดบุคลากรปฏิบัติงาน ณ พื้นที่พักอาศัย (Work From Home) ให้สอดคล้องกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของศบค. โดยให้กำลังพลหมุนเวียนบุคลากร มาปฏิบัติงานณ ที่ตั้งปกติของหน่วยจำนวน 1 ใน 4 ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.เป็นต้นมา โดยให้คำนึงถึงภารกิจลักษณะงาน ประสิทธิภาพของการทำงาน และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานส่วนรวม” โฆษกกอ.รมน. กล่าว


พล.ต.ธนาธิป กล่าวว่า ส่วนผู้ที่ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัยจะแสดงตนต่อผู้บังคับบัญชาผ่านระบบ Social Network ที่หน่วยพิจารณาตามความเหมาะสมในเวลา 08.30 และ 13.00 น.ของทุกวันที่ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย กรณีที่มีการประชุมเป็นทางการจะประชุมผ่านระบบ Video Teleconference และสามารถติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลา โดยห้ามเดินทางข้ามจังหวัดในห้วงที่ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่มีคำสั่งให้หน่วยงานราชการใช้มาตรการ (Work From Home) เต็มรูปแบบอย่างน้อย 2 สัปดาห์ถึงสิ้นเดือนนี้

โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า ที่ประชุมกำชับให้กอ.รมน.บูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายประชาชน สร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น อย่างรวดเร็ว โดยกระจายไปในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ กอ.รมน.โดยศูนย์อำนวยการ รักษาความมั่นคงภายใน (ศรมน.) ได้ใช้ช่องทางของกอ.รมน.ภาคและกอ.รมน.จังหวัด สร้างความรู้ความเข้าใจ

“ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสามารถแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ ลดอาการป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิต รวมทั้งช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค ดังนี้1. การบริหารสถานการณ์ในห้วงปัจจุบัน มุ่งเน้น 3 มาตรการหลักได้แก่ การฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายที่วางแผนไว้ การปิดสถานบันเทิง ตามข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 19 และการ Work From Home จัดให้มีการเรียนการสอบแบบออนไลน์ หรือจัดการประชุมทางไกลแบบมีประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการเตียงในการรับรองผู้ป่วยอย่างเพียงพอ ทั้งในส่วนของโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม” พล.ต.ธนาธิป กล่าว


โฆษกกอ.รมน. กล่าวว่า 2. ให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศ เฝ้าระวังเชิงรุกอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ เน้นย้ำมาตรการด้านสาธารณสุขที่เน้นการคัดกรองเชิงรุก เพื่อจำกัดวง และลดการแพร่กระจายของโรค ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างทั่วถึง เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต และการฉีดวัคซีน ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดความรุนแรงของโรค 3.ในส่วนของมาตรการป้องกันทางสังคม เน้นการลดกิจกรรมชุมนุมสังสรรค์หลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัดติดตามผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง และมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ยังคงเข้มงวดตามมาตรการ D-M-H-T-T และเพิ่ม A คือ Application ไทยชนะและหมอชนะ สำหรับมาตรการองค์กรนั้น จะเน้นการใช้มาตรการ (Work From Home)

พล.ต.ธนาธิป กล่าวว่า 4. ตรวจสอบและสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง และยังคงให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศที่มีพื้นที่ติดกับชายแดน 5. ขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนบังคับใช้มาตรการที่ศบค. กำหนดอย่างเข้มงวด พิจารณาปรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดให้สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่ โดยให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนถึงแนวทางการบริหารสถานการณ์ของรัฐบาลต่อไป

“เลขาธิการกอ.รมน.เน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติในห้วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขอให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น เนื่องจากทุกคนมีโอกาสติดเชื้อได้ จากการพบปะและทำกิจกรรมต่าง ๆ จึงขอให้ข้าราชการที่สงสัยว่าตนเองเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อไปรับการตรวจ หากได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อ ขอให้แจ้งให้หัวหน้าฝ่ายทราบเพื่อบริหารจัดการต่อไป ส่วนกอ.รมน.ภาคและกอ.รมน.จังหวัดให้สนับสนุนการปฏิบัติงานของสสจ.จังหวัดเต็มที่ ทั้งเรื่องการเข้าตรวจสถานบริการต่าง ๆ การตั้งโรงพยาบาลสนาม และขอให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาในประเทศ โดยขอให้ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการป้องกันสูงสุดจนกว่าจะพ้น 14 วัน” โฆษกกอ.รมน. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อลังการเคาท์ดาวน์เชียงใหม่ดึงดูดผู้คนทั่วโลก

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่เชียงใหม่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่จะไปร่วมเฉลิมฉลองกันที่นั่นไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน ซึ่งมีการจัดกิจกรรมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ในหลายจุด โดยเฉพาะที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งเต็มไปด้วยความสวยงามของดอกไม้และแสงไฟ เรียกว่าเป็นจุดเคาท์ดาวน์ที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน

พ่อช็อก ลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์

พ่อช็อก น้ำตาคลอรู้ข่าวลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินเชจูแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ เผยเป็นลาง ลูกยื่นเงินหมื่นให้พ่อจ่ายเงินฌาปนกิจศพให้ตัวเอง

Jeju Air CEO apologises for plane crash at airport in South Korea

ซีอีโอเชจูแอร์ขอขมาผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินชน

โซล 29 ธ.ค.- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju AIr) ขอขมาต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินชนรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 124 คน จากจำนวนคนบนเครื่องบินทั้งหมด 181 คน นายคิม อีแบ ซีอีโอเชจูแอร์ แถลงต่อสื่อสั้น ๆ ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอขมาต่อผู้โดยสารที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ รวมถึงครอบครัว บริษัทจะแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็วและให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้โดยสาร นอกจากนี้จะพยายามอย่างเต็มที่ในการหาสาเหตุร่วมกับรัฐบาล นายคิม กล่าวว่า บริษัทให้บริการเครื่องบินลำนี้โดยได้มีการซ่อมบำรุงตามปกติ และไม่พบสัญญาณใด ๆ ว่าเครื่องบินมีความผิดปกติ เชจูแอร์เป็นสายการบินต้นทุนต่ำของเกาหลีใต้ที่ตั้งขึ้นในปี 2548 ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไปยังญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และไทย และมีเที่ยวบินในประเทศจำนวนมาก ด้านโบอิง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐ แถลงว่า กำลังประสานกับเชจูแอร์ กรณีเครื่องบินโบอิง 737-800 แบบ 2 เครื่องยนต์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) ชนที่ท่าอากาศยานทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ และพร้อมให้ความช่วยเหลือสายการบิน ขณะที่กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ ระบุว่า เครื่องบินลำนี้ผลิตในปี 2552 […]

ข่าวแห่งปี 2567 : สุดอาลัย…ดาวลับฟ้า ปี 2567

ตลอดปี 2567 นับเป็นปีที่สูญเสียบุคคลมีชื่อเสียง ทั้งในแวดวงบันเทิง ศิลปินแห่งชาติ และวงการสื่อสารมวลชน ที่มีคุณูปการต่อประเทศชาติ