กรุงเทพฯ 2 มี.ค. – รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ห่วงใยสถานการณ์ในเมียนมา และมีเสียงเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย อยากเห็นการแก้ปัญหาอย่างสันติ
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ (2 มีนาคม 2564) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (Informal ASEAN Ministerial Meeting) ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมี ดาโตะ เอรีวัน เปฮิน ยูซอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศบรูไนดารุสซาลาม คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ เป็นข้อริเริ่มของอินโดนีเซียและมาเลเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นความท้าทายร่วมต่าง ๆ ของภูมิภาค โดยเฉพาะประเด็นความร่วมมือเพื่อรับมือกับโควิด-19 และการฟื้นฟูภายหลังโควิด-19 การดำเนินความสัมพันธ์กับภาคีภายนอก และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและประชาคมระหว่างประเทศ
ที่ประชุมย้ำความสำคัญของการฟื้นฟูภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการเร่งรัดการจัดซื้อวัคซีน โดยใช้เงินจากกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 และการจัดทำ ASEAN Travel Corridor Arrangement เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างกันในอาเซียน
ที่ประชุมได้รับฟังการบรรยายสรุปจากฝ่ายเมียนมา เกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา และแผนงานเพื่อนำประเทศกลับสู่สถานการณ์ปกติ โดยแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมา และขอให้ทุกฝ่ายในเมียนมาใช้ความอดทนอดกลั้น ความยืดหยุ่น หลีกเลี่ยงดำเนินการใด ๆ ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงยิ่งขึ้น ให้การเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของทุกฝ่าย และแสวงหาทางออกโดยสันติ
โดยที่ประชุมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาทางออกที่สันติผ่านการเจรจาที่สร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวเมียนมา ในการนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียน ต่างยืนยันความพร้อมของอาเซียนในการสนับสนุนเมียนมาให้กลับสู่สถานการณ์ปกติ ด้วยวิธีการเชิงบวก สันติ และสร้างสรรค์
ประเทศสมาชิกบางประเทศได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทางการเมือง และเปิดให้ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติด้านเมียนมา มีปฏิสัมพันธ์กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนของไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ความสำคัญกับสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งมีอาเซียนเป็นแกนกลาง และเน้นย้ำว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง โดยประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของเมียนมา ต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาในเมียนมาอย่างสันติและยั่งยืน เพื่อความสุขและประโยชน์ของประชาชนเมียนมา. – สำนักข่าวไทย