“ยุทธพงศ์” ชำแหละมหากาพย์ ฮั้วเจ้าสัวบีทีเอส

รัฐสภา 17 ก.พ.-“ยุทธพงศ์” ชำแหละมหากาพย์ ฮั้วเจ้าสัวบีทีเอส เอื้อขยายรถไฟฟ้าสายเขียว เปรียบ นายกฯ ออก ม.44 เหมือนขืนใจหญิงสาว กล่าวหามท.1 หนี พ.ร.บ.ฮั้ว – พ.ร.บ.ร่วมทุน ฝากไปยังป.ป.ช.หวั่นโดนเป่าคดีทิ้ง บอกสถานีต่อไปของนายกฯ คือ ศาลรัฐธรรมนูญ


นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในประเด็นการใช้ ม.44 ยกสัปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับเจ้าสัวฯ ต่อสัปทานไปอีก 40 ปี

โดยนายยุทธพงศ์ ชี้ว่ามีข้อพิรุธ 1.ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2.ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ร่วมทุน ปี 2562 3.ขัดมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวานที่ 20 พ.ย.61 4.เป็นการกระทำที่ขัดแห่งผลประโยชน์ด้วยการผูกขาดตัดตอน เอื้อประโยชน์ให้เจ้าสัวฯ BTS เพียงเจ้าเดียว โดยไม่มีการประมูล ทำให้รัฐเสียหาย ซึ่งนับเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว การเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ จัดฉากสร้างหนี้เพื่อยกสัปทานให้กับเอกชน 5.สร้างความเดือดร้อนให้กับคนกรุงเทพฯ เพราะจะเป็นรถไฟฟ้าที่มีค่าโดยสารที่แพงที่สุดในโลก ถือเป็นการจับประชาชนเป็นตัวประกัน


นายยุทธพงศ์ ยังชี้ว่า ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้บอกความจริงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า กรณีการหมดสัญญาเส้นทางรถไฟฟ้าไข่แดง ในปี 2572 ได้ไปจ้างให้บริษัท BTS วิ่งรถต่อ ไปถึงปี 2585 ตนย้อนถามว่า บ้องตื้อแค่ไหน นำเส้นทางไข่แดงที่ผ่านย่านธุรกิจ ย่านที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดของไทย แทนที่รัฐบาลจะนำมาเป็นของ กทม.เมื่อหมดสัญญา เพื่อบริหารเอง และสัญญาจ้างสิ่งรถกทม.ก็ไปผ่านกรุงเทพธาคม หรือ KT และ KT ก็ไปจ้าง BTS ต่อด้วนวิธีพิเศษทำสัญญามูลค่าล่วงหน้ามูลค่า 187,800 ล้านบาท  โดยไม่ผ่านการประมูล ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมขอฝากไปยังป.ป.ช.ด้วย เพราะตนทราบมาว่าจะเป่าคดีนี้ทิ้ง มีคนไปวิ่งเต้นอยู่

นายยุทธพงษ์ ได้ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติในปี 2559  ในสมัยหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไปจ้าง BTS วิ่งรถในรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายเขียวเหนือและเขียวใต้ แต่ขณะนั้นยังขึ้นอยู่กับรฟม.ภายใต้กำกับกระทรวงคมนาคม จึงน้อนถามกทม.มีอำนาจหรือมีสิทธิ์อะไรให้บีทีเอสวิ่งรถ และยังทำสัญญาล่วงหน้าอีก 1.6 แสน ล้านบาท

ทั้งนี้ในปี 2561 มติคณะรัฐมนตรีที่มีพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็มีมติให้กู้เงินกระทรวงการคลังไปใช้หนี้รฟม.เนื่องจากได้โอนส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือและเขียวใต้ จากรฟม.ให้กทม.ซึ่งให้กทม.รับหนี้แทน ดังนั้น พลเอกอนุพงษ์จะมาบอกว่าที่ต้องยกสัมปทานให้เขา 40 ปีมีมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท เพราะกทม.เป็นหนี้ไม่ได้ และมติครม.ระบุชัดเจน ระบุชัดเจนให้ดูแลค่าโดยสารไม่ให้แพง แต่ต้องระบุตรงๆว่าโคตรจะแพง หนี้ไม่ใช้กลับใช้ ม.44 เจรจาBTS เพื่อขยายสัมปทานแรกหนี้ และอนุโลมว่าเป็นการแก้ไขตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ถือเป็นการเอื้อประโยชน์หรือไม่ โดยอาจถือเป็นนิติกรรมอำพรางโดยใช้ตัวแทนเพื่อหลีกหนีพ.ร.บ.ร่วมทุน และพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างของรัฐ ผิดกฎหมายอาญามาตรา 157


“นายกฯบอก เคารพกฎหมาย แล้วท่านไปออกม.44 ให้กับเจ้าสัวบีทีเอสอยู่เจ้าเดียว ทำไมไม่ออกให้กับคนอื่นบ้าง “

นายยุทธพงศ์ ยังถามหา นายศักดิ์สยามชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีคนกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เห็นด้วยกับการต่อสัญญา แต่ขณะนี้ไม่เห็นด้วยแล้ว หลังจากปี 2562 สภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นชอบให้ขยายสัมปทาน และได้ส่งให้ครม.พิจารณา

นอกจากนี้ นายยุทธพงศ์ ยังชี้ให้เห็นว่าในเส้นทางไข่แดง ช่วงหมอชิตถึงอ่อนนุช เป็นสัญญาร่วมทุน แต่ว่วนต่อขยายคือสัญญาจ้างสิ่งรถ การนำขบวนรถผ่านตลอดเส้นทาง จึงถือเป็นการใช้ทรัพย์สินร่วมกันระหว่างรัฐและเอกชน มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมกัน จึงต้องเป็นพ.ร.บ.ร่วมทุน จึงเป็นปัญหาที่ใช้ม.44 หนีพ.ร.บ.ร่วมทุน พต้อมกับระบุว่าเรื่องนี่นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้ชี้แจงเอง เรื่องนี้ผู้ที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดคือบริษัทบีทีเอส วิ่งรถได้ไกลขึ้นก็ไปขนคนจากสมุทรปราการมาพื้นที่ไข่แดง จากปทุมธานีมาพื้นที่ไข่แดง และยังได้ค่าจ้างวิ่งรถได้แต่กำไร แถมยังไปเอาเงินในอนาคตมาใช้ นำสัมปทานไปขายให้กับนักลงทุนเป็นหุ้น BTS GIF ได้เงินสดมา ผลประโยชน์มหาศาล

บรรยากาศการอภิปรายเริ่มตรึงเครียดหลัง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลรุมประท้วง หลังนายยุทธพงศ์ นำรูปผู้หญิงมาอภิปรายก่อนที่นายยุทธพงศ์จะชี้แจงว่า ตนจะเปรียบเทียบรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหมือนสาวสวยเพราะเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดทำกำไรดีที่สุดในประเทศไทย แต่การที่นายกรัฐมนตรีออกม.44 เหมือนผู้หญิงถูกขืนใจ ทำให้นายกรัฐมนตรีเสียขุนคลังมือดีไป 2 คน ทั้ง นายอุตตม สวนานนท์ และนายปรีดี ดาวฉาย เนื่องจากไม่กล้าเซ็น พ.ร.บ.ร่วมทุน เนื่องจากกลัวติดคุกจึงลาออก

ทั้งนี้ก่อนที่นายยุทธพงศ์ จะกล่าวปิดจบการอภิปราย กล่าวว่า Next Station ของบิ๊กตู่ต่อการใช้มาตรา 44 ในการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว คือศาลรัฐธรรมนูญ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก “เดวิด” 1 เดือน คดีทำร้ายหมอ

ภูเก็ต 23 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ภาค 8 กลับคำพิพากษา จำคุก “เดวิด” ทำร้ายร่างกายหมอ 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ชี้เป็นการกระทำร้ายแรง ส่วนจำเลย พบเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว กรณี พญ.ธารดาว หรือ หมอปาย ยื่นฟ้อง นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างในจังหวัดภูเก็ต ในคดีทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณด้านหลังของหมอปาย ขณะนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่บริเวณหน้าบันไดวิลลาหรู ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะทนายความคดีดังกล่าว เปิดเผยว่าวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษากลับ ให้นายเดวิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตามคดีนี้ […]

กสทช.สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยา เหตุสัญญาณขัดข้อง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – สำนักงาน กสทช. สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ จากเหตุสัญญาณขัดข้อง ห้ามคิดค่าบริการช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานไม่ได้-ให้เพิ่มดาต้ามากกว่า 10 GB-โทรฟรีมากกว่า 100 นาที ไม่จำกัด ภายใน 24 ชม. แยกเยียวยาลูกค้ารายเดือน-เติมเงิน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เชิญบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าร่วมประชุมด่วนในวันนี้ โดยสำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้บริษัท ทรูฯ ทบทวนมาตรการเยียวยาชดเชยผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ตขัดข้อง ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบริษัท ทรูฯ […]

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]