พรรคร่วมรัฐบาลจัดสัมมนา สู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

โรงแรมมาริออท 13 ก.พ.- พรรคร่วมรัฐบาลจัดสัมมนาสามัคคีรวมใจ เตรียมพร้อมสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ “อนุชา-สุชาติ” ยืนยันไม่มีประเด็นใดน่ากังวล ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มีความเป็นเอกภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้นัดสัมมนา ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่จะมีขึ้นในวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่โรงแรมมาริออท สุขุมวิท โดยงานสัมมนาจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์นี้ โดยใช้ชื่องานว่า “สามัคคีรวมใจ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” ซึ่งได้มีการเชิญรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี หารือ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองขนาดเล็ก เข้าร่วม อาทิ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายสิระ เจนจาคะ และได้มีการเชิญนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นวิทยากรพิเศษให้ความรู้ตอบข้อซักถาม ส.ส.


นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวก่อนสัมมนา ว่า เป็นเรื่องปกติของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะมีการหารือถึงประเด็นต่างๆ ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ไม่ได้ห่วงหรือกังวลในเรื่องใดเป็นพิเศษ และไม่ได้มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะยังไม่พบว่ามีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและเป็นปัญหาที่ฝ่ายค้านจะนำหยิบยกไปโจมตีได้ ส่วนกระแสข่าวที่จะมี ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ โหวตลงมติให้กับรัฐมนตรีบางคนนั้น มั่นใจ พักเป็นเอกภาพ การลงมติจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเชื่อว่าทุกคนจะได้คะแนนเท่ากัน รวมถึงไม่มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่บรรยากาศการประชุมที่ ส.ส. บางคนประกาศตัวจะประท้วงหากมีการพาดพิงถึงสถาบัน ถือว่าเป็นเรื่องของ ส.ส. แต่ละคนที่รู้หน้าที่รู้กฎเกณฑ์กติกา เนื้อหาของการประชุมสภา สิ่งใดทำได้หรือไม่ได้ หรือหากอภิปรายในประเด็นใดแล้ว อาจทำให้การประชุมต้องสะดุดลง ซึ่งทั้งหมดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน และหากเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านไม่พอเนื่องจากมีการประท้วงกันก็เป็นเรื่องที่จะต้องมาหารือกันในภายหลังอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มียังไม่มีสัญญาณใดๆ จากนายกรัฐมนตรี ที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไว้วางใจเสร็จสิ้น

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มั่นใจว่า จะสามารถตอบข้อซักถามและข้อกล่าวหาของพรรคฝ่ายค้านที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ และส่วนตัวไม่มีประเด็นใดที่ต้องวิตกกังวล โดยเฉพาะข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยกกับผู้เห็นต่างทางการเมือง ซึ่งประเด็นนี้ตนขอชี้แจงว่าเกิดเป็นคนไทยได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่าให้รักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ เชื่อว่าคนไทยหลายคนก็คิดเหมือนตน ดังนั้นแม้จะมีการชุมนุมของกลุ่มคนที่เห็นต่างแต่ก็ควรที่จะต้องรับฟังเสียงของคนไทยในประเทศด้วย และที่มีกระแสข่าวว่ามีข้อสอบของฝ่ายค้านรั่ว ยืนยันตั้งแต่มีเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนไม่ได้พบหรือพูดคุยกับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน แม้จะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ดังนั้นอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายอย่างเต็มที่และขอให้นำความจริงมาพูดในสภา


ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าวอร์รูมนอกสภาของตนจะใช้ห้องกรรมาธิการการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร เป็นที่ทำการ เพื่อติดตามการทำงานและการอภิปรายในสภา ย้ำว่าหากมีการอภิปรายพาดพิงสถาบันไม่ว่าประเด็นใด ทีมกฎหมายจะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทันที ไม่ต้องรอให้การอภิปรายเสร็จสิ้น

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานครพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า หากมีการอภิปรายที่พาดพิงสถาบัน ตนจะลุกขึ้นประท้วงจนทำให้ฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายต่อได้ ดังนั้นตนขอเตือนผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านทุกคน อย่าพูดในเรื่องไม่เหมาะสม ส่วนการยื่นตรวจสอบคุณสมบัติและสถานะของนายการุณ โหสกุล ส.ส. พรรคเพื่อไทย นายสิระ มั่นใจว่า จากข้อมูลที่ได้รับนายการุณ เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้มีความผิดจากการทุจริตเลือกตั้ง และนายการุณ ได้รับโทษไปแล้ว แต่รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 98 ได้กำหนดคุณสมบัติต้องห้ามผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งจะต้องไม่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง ดังนั้นจึงมั่นใจว่านายการุณ ขาดคุณสมบัติแน่นอน ซึ่งตนจะไปพูดคุยกับกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อส่งภรรยาลงเลือกตั้งซ่อมในเขตของนายการุณ และขณะนี้เริ่มหาเสียงแล้ว

ขณะที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรีพรรคประชาธิปัตย์ และรองโฆษกพรรค กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมที่จะทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลในการให้ข้อมูลกับรัฐมนตรีชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านแต่มีความเป็นห่วงเช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ ว่า ฝ่ายค้านจะมีการหยิบยกนำประเด็นมาตรา 112 มาอภิปรายซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องสะดุดลง เนื่องจากมีผู้ประท้วง จึงขอให้ ส.ส.ทุกคนยึดการทำงานระเบียบข้อบังคับการประชุมเป็นสำคัญ เพื่อให้การอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนการลงมติ มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นเอกภาพ การลงมติจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันและไม่เกิดปัญหา .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]