พรรคร่วมรัฐบาลจัดสัมมนา สู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

โรงแรมมาริออท 13 ก.พ.- พรรคร่วมรัฐบาลจัดสัมมนาสามัคคีรวมใจ เตรียมพร้อมสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ “อนุชา-สุชาติ” ยืนยันไม่มีประเด็นใดน่ากังวล ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มีความเป็นเอกภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้นัดสัมมนา ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่จะมีขึ้นในวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่โรงแรมมาริออท สุขุมวิท โดยงานสัมมนาจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์นี้ โดยใช้ชื่องานว่า “สามัคคีรวมใจ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” ซึ่งได้มีการเชิญรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี หารือ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองขนาดเล็ก เข้าร่วม อาทิ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายสิระ เจนจาคะ และได้มีการเชิญนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นวิทยากรพิเศษให้ความรู้ตอบข้อซักถาม ส.ส.


นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวก่อนสัมมนา ว่า เป็นเรื่องปกติของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะมีการหารือถึงประเด็นต่างๆ ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ไม่ได้ห่วงหรือกังวลในเรื่องใดเป็นพิเศษ และไม่ได้มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะยังไม่พบว่ามีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและเป็นปัญหาที่ฝ่ายค้านจะนำหยิบยกไปโจมตีได้ ส่วนกระแสข่าวที่จะมี ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ โหวตลงมติให้กับรัฐมนตรีบางคนนั้น มั่นใจ พักเป็นเอกภาพ การลงมติจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเชื่อว่าทุกคนจะได้คะแนนเท่ากัน รวมถึงไม่มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่บรรยากาศการประชุมที่ ส.ส. บางคนประกาศตัวจะประท้วงหากมีการพาดพิงถึงสถาบัน ถือว่าเป็นเรื่องของ ส.ส. แต่ละคนที่รู้หน้าที่รู้กฎเกณฑ์กติกา เนื้อหาของการประชุมสภา สิ่งใดทำได้หรือไม่ได้ หรือหากอภิปรายในประเด็นใดแล้ว อาจทำให้การประชุมต้องสะดุดลง ซึ่งทั้งหมดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน และหากเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านไม่พอเนื่องจากมีการประท้วงกันก็เป็นเรื่องที่จะต้องมาหารือกันในภายหลังอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มียังไม่มีสัญญาณใดๆ จากนายกรัฐมนตรี ที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไว้วางใจเสร็จสิ้น

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มั่นใจว่า จะสามารถตอบข้อซักถามและข้อกล่าวหาของพรรคฝ่ายค้านที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ และส่วนตัวไม่มีประเด็นใดที่ต้องวิตกกังวล โดยเฉพาะข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยกกับผู้เห็นต่างทางการเมือง ซึ่งประเด็นนี้ตนขอชี้แจงว่าเกิดเป็นคนไทยได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่าให้รักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ เชื่อว่าคนไทยหลายคนก็คิดเหมือนตน ดังนั้นแม้จะมีการชุมนุมของกลุ่มคนที่เห็นต่างแต่ก็ควรที่จะต้องรับฟังเสียงของคนไทยในประเทศด้วย และที่มีกระแสข่าวว่ามีข้อสอบของฝ่ายค้านรั่ว ยืนยันตั้งแต่มีเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนไม่ได้พบหรือพูดคุยกับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน แม้จะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ดังนั้นอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายอย่างเต็มที่และขอให้นำความจริงมาพูดในสภา


ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าวอร์รูมนอกสภาของตนจะใช้ห้องกรรมาธิการการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร เป็นที่ทำการ เพื่อติดตามการทำงานและการอภิปรายในสภา ย้ำว่าหากมีการอภิปรายพาดพิงสถาบันไม่ว่าประเด็นใด ทีมกฎหมายจะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทันที ไม่ต้องรอให้การอภิปรายเสร็จสิ้น

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานครพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า หากมีการอภิปรายที่พาดพิงสถาบัน ตนจะลุกขึ้นประท้วงจนทำให้ฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายต่อได้ ดังนั้นตนขอเตือนผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านทุกคน อย่าพูดในเรื่องไม่เหมาะสม ส่วนการยื่นตรวจสอบคุณสมบัติและสถานะของนายการุณ โหสกุล ส.ส. พรรคเพื่อไทย นายสิระ มั่นใจว่า จากข้อมูลที่ได้รับนายการุณ เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้มีความผิดจากการทุจริตเลือกตั้ง และนายการุณ ได้รับโทษไปแล้ว แต่รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 98 ได้กำหนดคุณสมบัติต้องห้ามผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งจะต้องไม่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง ดังนั้นจึงมั่นใจว่านายการุณ ขาดคุณสมบัติแน่นอน ซึ่งตนจะไปพูดคุยกับกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อส่งภรรยาลงเลือกตั้งซ่อมในเขตของนายการุณ และขณะนี้เริ่มหาเสียงแล้ว

ขณะที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรีพรรคประชาธิปัตย์ และรองโฆษกพรรค กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมที่จะทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลในการให้ข้อมูลกับรัฐมนตรีชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านแต่มีความเป็นห่วงเช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ ว่า ฝ่ายค้านจะมีการหยิบยกนำประเด็นมาตรา 112 มาอภิปรายซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องสะดุดลง เนื่องจากมีผู้ประท้วง จึงขอให้ ส.ส.ทุกคนยึดการทำงานระเบียบข้อบังคับการประชุมเป็นสำคัญ เพื่อให้การอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนการลงมติ มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นเอกภาพ การลงมติจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันและไม่เกิดปัญหา .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย