พรรคร่วมรัฐบาลจัดสัมมนา สู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

โรงแรมมาริออท 13 ก.พ.- พรรคร่วมรัฐบาลจัดสัมมนาสามัคคีรวมใจ เตรียมพร้อมสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ “อนุชา-สุชาติ” ยืนยันไม่มีประเด็นใดน่ากังวล ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มีความเป็นเอกภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้นัดสัมมนา ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่จะมีขึ้นในวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่โรงแรมมาริออท สุขุมวิท โดยงานสัมมนาจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์นี้ โดยใช้ชื่องานว่า “สามัคคีรวมใจ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” ซึ่งได้มีการเชิญรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี หารือ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองขนาดเล็ก เข้าร่วม อาทิ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายสิระ เจนจาคะ และได้มีการเชิญนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นวิทยากรพิเศษให้ความรู้ตอบข้อซักถาม ส.ส.


นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวก่อนสัมมนา ว่า เป็นเรื่องปกติของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะมีการหารือถึงประเด็นต่างๆ ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ไม่ได้ห่วงหรือกังวลในเรื่องใดเป็นพิเศษ และไม่ได้มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะยังไม่พบว่ามีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและเป็นปัญหาที่ฝ่ายค้านจะนำหยิบยกไปโจมตีได้ ส่วนกระแสข่าวที่จะมี ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ โหวตลงมติให้กับรัฐมนตรีบางคนนั้น มั่นใจ พักเป็นเอกภาพ การลงมติจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเชื่อว่าทุกคนจะได้คะแนนเท่ากัน รวมถึงไม่มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่บรรยากาศการประชุมที่ ส.ส. บางคนประกาศตัวจะประท้วงหากมีการพาดพิงถึงสถาบัน ถือว่าเป็นเรื่องของ ส.ส. แต่ละคนที่รู้หน้าที่รู้กฎเกณฑ์กติกา เนื้อหาของการประชุมสภา สิ่งใดทำได้หรือไม่ได้ หรือหากอภิปรายในประเด็นใดแล้ว อาจทำให้การประชุมต้องสะดุดลง ซึ่งทั้งหมดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน และหากเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านไม่พอเนื่องจากมีการประท้วงกันก็เป็นเรื่องที่จะต้องมาหารือกันในภายหลังอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มียังไม่มีสัญญาณใดๆ จากนายกรัฐมนตรี ที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไว้วางใจเสร็จสิ้น

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มั่นใจว่า จะสามารถตอบข้อซักถามและข้อกล่าวหาของพรรคฝ่ายค้านที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ และส่วนตัวไม่มีประเด็นใดที่ต้องวิตกกังวล โดยเฉพาะข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยกกับผู้เห็นต่างทางการเมือง ซึ่งประเด็นนี้ตนขอชี้แจงว่าเกิดเป็นคนไทยได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่าให้รักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ เชื่อว่าคนไทยหลายคนก็คิดเหมือนตน ดังนั้นแม้จะมีการชุมนุมของกลุ่มคนที่เห็นต่างแต่ก็ควรที่จะต้องรับฟังเสียงของคนไทยในประเทศด้วย และที่มีกระแสข่าวว่ามีข้อสอบของฝ่ายค้านรั่ว ยืนยันตั้งแต่มีเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนไม่ได้พบหรือพูดคุยกับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน แม้จะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ดังนั้นอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายอย่างเต็มที่และขอให้นำความจริงมาพูดในสภา


ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าวอร์รูมนอกสภาของตนจะใช้ห้องกรรมาธิการการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร เป็นที่ทำการ เพื่อติดตามการทำงานและการอภิปรายในสภา ย้ำว่าหากมีการอภิปรายพาดพิงสถาบันไม่ว่าประเด็นใด ทีมกฎหมายจะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทันที ไม่ต้องรอให้การอภิปรายเสร็จสิ้น

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานครพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า หากมีการอภิปรายที่พาดพิงสถาบัน ตนจะลุกขึ้นประท้วงจนทำให้ฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายต่อได้ ดังนั้นตนขอเตือนผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านทุกคน อย่าพูดในเรื่องไม่เหมาะสม ส่วนการยื่นตรวจสอบคุณสมบัติและสถานะของนายการุณ โหสกุล ส.ส. พรรคเพื่อไทย นายสิระ มั่นใจว่า จากข้อมูลที่ได้รับนายการุณ เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้มีความผิดจากการทุจริตเลือกตั้ง และนายการุณ ได้รับโทษไปแล้ว แต่รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 98 ได้กำหนดคุณสมบัติต้องห้ามผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งจะต้องไม่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง ดังนั้นจึงมั่นใจว่านายการุณ ขาดคุณสมบัติแน่นอน ซึ่งตนจะไปพูดคุยกับกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อส่งภรรยาลงเลือกตั้งซ่อมในเขตของนายการุณ และขณะนี้เริ่มหาเสียงแล้ว

ขณะที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรีพรรคประชาธิปัตย์ และรองโฆษกพรรค กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมที่จะทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลในการให้ข้อมูลกับรัฐมนตรีชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านแต่มีความเป็นห่วงเช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ ว่า ฝ่ายค้านจะมีการหยิบยกนำประเด็นมาตรา 112 มาอภิปรายซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องสะดุดลง เนื่องจากมีผู้ประท้วง จึงขอให้ ส.ส.ทุกคนยึดการทำงานระเบียบข้อบังคับการประชุมเป็นสำคัญ เพื่อให้การอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนการลงมติ มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นเอกภาพ การลงมติจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันและไม่เกิดปัญหา .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]