นายกฯ กำชับเร่งจับกุมคนมั่วสุมผิด กม. เสี่ยงโควิดระบาด

กรุงเทพฯ 6 ก.พ.-นายกรัฐมนตรี กำชับ ก.กลาโหม-ตำรวจ เร่งจับกุมคนมั่วสุมผิดกฎหมายเสี่ยงโควิดแพร่ระบาด ย้ำต้องดำเนินคดี-ส่งฟ้อง ยันปิดตลาดไม่ได้เอื้อเจ้าสัว ชี้การตรวจหาเชื้อเชิงรุกไม่ใช่การตีรังแตน แต่เป็นการดับไฟต้นลม วอนทุกคนช่วยเป็นยามเฝ้าแผ่นดิน อย่ามัวโทษกันไปมา ขอคนไทยไม่ดูแคลนคนไทยด้วยกัน


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมพูดคุยถึงสถานการณ์โควิด-19 ผ่าน PM PODCAST เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า การบริหารจัดการใหม่ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นการระบาดใหม่ในประเทศที่ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับการระบาดรอบแรก ซึ่งประเทศไทยใช้เวลาการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ภายใน 2 เดือนในช่วงมีนาคมและเมษายน 2563 ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 101 วัน ซึ่งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ ล้วนเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน และทุกคนก็เริ่มจะปรับตัวได้เป็นอย่างดีกับชีวิตวิถีใหม่ นอกจากนี้ อยากให้ทุกคนตั้งข้อสังเกตร่วมกันว่า ปีที่แล้ว ประเทศไทยเลือกการล็อกดาวน์ เพราะชาวโลกต่างก็ไม่รู้จักโรคระบาดใหม่ แต่ย้ำว่าเป็นการล็อกดาวน์แบบค่อยเป็นค่อยไปตามจังหวะและเวลาที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงความสมดุลย์ของสุขภาพและปากท้องของประชาชน ซึ่งไทยก็ประสบความสำเร็จ ในขณะที่หลายประเทศไม่กล้าและตัดสินใจเมื่อสายไป จนสุดท้ายก็ต้องล็อกดาวน์อยู่ดี และทำให้ไม่สามารถควบคุมโรคได้ จนถึงทุกวันนี้ ก็เกิดการระบาดรอบที่สองและรอบที่สาม ซึ่งสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

“เราคนไทยมีคติว่าเจ็บแล้วต้องจำ จะบันทึกทุกอย่างไว้เป็นสถิติ แล้วปรับการใช้มาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยตั้งอยู่บนบริบทของประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น หากจะพิจารณาปิดสถานประกอบการใดก็ต้องคำนึงจากตัวเลขสถิติ ซึ่งสถิติจะสะท้อนการแพร่ระบาดของโรค และตัวเลขเหล่านี้จะสะท้อนออกมาเป็นข้อกำหนดและมาตรการของ ศบค. หลายคนอ้างว่า ปิดตลาด แต่ไม่ปิดห้าง เพราะเอื้อเจ้าสัวนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไร้ตรรกะและหลายข้อมูลโดยสิ้นเชิง” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า จะเห็นว่าครั้งนี้รัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ทั้งประเทศได้ และหันมาใช้การแบ่งเป็นโซนพื้นที่ พร้อมกำหนดมาตรการควบคุมในแต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสม รวมถึงกระจายอำนาจในการตัดสินใจกำหนดมาตรการในแต่ละจังหวัดให้กับคณะกรรมการควบคุมโรคของจังหวัดที่มองเห็นปัญหาสอดคล้องกับความเป็นจริงในแต่ละพื้นที่ วิธีนี้ช่วยลดผลกระทบกับวิถีชีวิตของชาวชุมชนและลดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ แต่แม้ว่าในอนาคตจะเริ่มมีการฉีดวัคซีน ก็ยังต้องมีมาตรการเสริมในการป้องกันและควบคุมโรคเช่นเคย ขณะที่งานรื่นเริงที่มีของมึนเมา ก็ได้ติดตามการสอบสวนโรคทุกคน ปฏิบัติเชิงรุกมากขึ้นในสถานที่เสี่ยง โดยเฉพาะโรงงานในสมุทรสาคร ทั้งนี้ เมื่อยอดผู้ติดเชื้อลดลง มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมให้สอดคล้องกับความเป็นจริง นอกจากนี้ ยังได้กำชับหน่วยมั่นคงให้เฝ้าระวังตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด และดำเนินการโดยตลอด แต่จะเห็นว่า ผู้กระทำผิดจะหาช่องทางใหม่เสมอ แต่ก็เฝ้าตรวจอย่างเข้มข้นทั้งช่องทางธรรมชาติและด่านตรวจคนเข้าเมือง

“หากเราช่วยกันเป็นยามเฝ้าแผ่นดิน จะแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน อย่ามัวแต่โทษกันไปกันมา เราต้องร่วมมือ อย่าปล่อยให้คนไม่ดี คนชั่ว เข้ามาอยู่ในพื้นที่ของเรา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมและตำรวจ ยังจัดชุดตรวจดูแลสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการเร่งค้นหาจับกุมกลุ่มที่มั่วสุมผิดกฎหมาย ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดด้วยการดำเนินคดีและส่งฟ้อง ส่วนวัคซีน ไทยจะไม่ใช่ผู้ซื้อตลอดไป ต้องแสวงหาโอกาส ช่องทางที่จะเป็นผู้ผลิตและสร้างนวัตกรรมด้วยตัวเองให้ได้ ไม่วันนี้ก็วันข้างหน้า สำหรับกรณีการตรวจหาเชื้อโควิดเชิงรุกที่มีการมองว่า เป็นการตีรังแตน แล้วทำให้เกิดความตระหนกหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า เป็นการดับไฟที่ต้นตอ ซึ่งช่วงแรกของการระบาดใหม่ มุ้งเน้นการทำงานเชิงรุกมาตลอด เพื่อปิดโอกาสซูเปอร์สเปรดเดอร์


“การทำงานแบบไทยๆ เป็นจุดแข็งของคนไทย เมื่อมีภัย เราก็ร่วมมือกัน คนไทยไม่ควรมาดูแคลนคนไทยด้วยกัน ส่วนใครที่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วสื่อสารออกไปไม่ตรง ผมเชื่อว่า ความจริงเหล่านี้ จะทำให้ท่านสบายใจ และหันมาร่วมมือกับเรา และคนส่วนใหญ่ของประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงการตั้งโรงพยาบาลสนามว่า เพื่อสร้างความสบายใจว่า ผู้ป่วยโรคอื่นจะไม่ปะปนกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยอมรับว่า ระยะแรกบางชุมชนไม่เข้าใจ แต่ภายหลังก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีใครต่อต้านแล้ว ยืนยันไม่มีการปกปิดข้อมูล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย