สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 11 ม.ค.-“ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจฯ สอบ 3 กรณี มาตรการรับมือโควิดระลอกใหม่ เลือกปฎิบัติปิดตลาดนัดแต่ไม่ปิดห้าง-ร้านสะดวกซื้อ สอบโรงงานผลิดหน้ากากของซีพี เร่งอย.รับรองวัคซีนโควิด
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาการแพร่เชื้อไวรัสโควิด -19 รวม 3 กรณี คือ กรณีปิดตลาดนัดชุมนุม ภายหลังตรวจพบประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 และศบค.หรือคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัดมักใช้มาตรการปิดตลาดนัด เป็นเหตุให้พ่อค้าแม่ค้ารายเล็กเดือดร้อน ทั้งที่พื้นที่ตลาดนัดเป็นสถานที่โล่ง โอกาสแพร่ระบาดน้อยกว่าในห้องแอร์หรือในห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อ ถือเป็นการเลือกปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญและเอื้อกลุ่มทุนห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวถึงกรณีการผลิตหน้ากากอนามัยของโรงงานที่เครือเจริญโภคภัณฑ์สร้างและส่งมอบให้ทางราชการแล้ว ว่า โรงงานดังกล่าวมีกำลังการผลิต 1 แสนชิ้นต่อวัน จนถึงปัจจุบันน่าจะมีหน้ากากกว่า 30 ล้านชิ้น แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ประชาชนกลับยังต้องหาหน้ากากอนามัยอย่างยากลำบาก และไม่มีใครรู้ว่าขณะนี้หน้ากากดังกล่าวอยู่ที่ไหน หรือว่าโรงงานดังกล่าวไม่ได้ผลิตตามที่โฆษณาไว้จริง หรือลักลอบนำเอาหน้ากากไปขายในตลาดมืด นอกจากนั้นยังมีกระแสวิพากาวิจารณ์ว่าร้านสะดวกซื้อในเครือซีพี ขายหน้ากากอนามัยแพงกว่าราคาตามที่กฎหมายควบคุม
“กรณีการนำวัคซีนโควิด-19 มาฉีดให้คนไทยล่าช้า เนื่องจากปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานลงนามสัญญาจัดหาวัคซีนกับบริษัท แอสตราเซนเนก้า ซึ่งจะส่งมอบวัคซีนชุดแรกกลางปีหน้า 26 ล้านโดส ทั้งที่ประเทศอื่นในภูมิภาคฉีดวัคซีนไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การที่รัฐบาลจัดหาวัคซีนจากบริษัท ชิโนแวค ไบโอเทค จำกัดของจีน ซึ่งมีข่าวว่าบริษัทเจ้าสัวเมืองไทยเข้าไปถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวด้วย ดังนั้น กรณีดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กันหรือไม่ รวมทั้งกรณี อย.ที่ไม่รับรองวัคซีนของบริษัทต่าง ๆ ที่เริ่มใช้ไปแล้ว หากอย.รับรองวัคซีนแล้วจะทำให้โรงพยาบาลเอกชนที่มีศักยภาพ สามารถจัดซื้อจัดหาวัคซีนมาบริการประชาชนได้รวดเร็วขึ้น แม้จะมีราคาแพง แต่คนที่มีกำลังซื้อจะเข้าถึงวัคซีน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลได้” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสวุรรณ กล่าวว่า ขอให้ผู้ตรวจฯ แสวงหาข้อเท็จจริงทั้ง 3 กรณี เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลิกใช้อำนาจและเลือกปฎิบัติกรณีปิดตลาดนัด แต่ไม่ปิดห้างสรรพสินค้า และควรมีมาตรการชดเชยความเสียหายให้กับพ่อค้า แม่ค้า ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องหน้ากากของบริษัท ซีพีเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณทุกเดือนว่าหน้ากากอนามัยนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบกรณีรัฐบาลจัดหาวัคซีนล่าช้า มีอะไรซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังหรือไม่ และขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้รัฐบาลสั่งให้อย.รับรองวัคซีนเพื่อแก้ปัญหาด้วย.-สำนักข่าวไทย