นายกฯ ย้ำยังไม่ประกาศแจกเงินเยียวยา รอพิจารณารอบด้าน

กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-นายกรัฐมนตรี ย้ำยังไม่ประกาศแจกเงินเยียวยาประชาชน วอนอย่าเชื่อข่าวลวง ขอให้รอรัฐบาลต้องพิจารณารอบด้านครอบคลุม ยันเงินพอแต่ต้องใช้ให้รอบคอบ วอนประชาชนอย่าต่อต้านโรงพยาบาลสนาม แจงไม่โหลดแอปฯ ไม่ผิดกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 16.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พูดคุยกับประชาชนผ่านเสียงในรูปแบบออนไลน์ (PODCAST)โดยหยิบยกประเด็นสำคัญมาพูดคุย 3 เรื่องที่อยู่ในความสนใจ คือ สถานการณ์โรคโควิด-19, ปัญหาบ่อนการพนันและแรงงานผิดกฎหมายและสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ผ่านเฟซบุ๊กเพจไทยคู่ฟ้า โดยนายกรัฐมนตรี เริ่มต้นทักทายพร้อมกล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาในบ้านเมืองมีมาก ต้องดูและประชาชนทั้งหมด จึงยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในการบริหารราชการให้เกิดผลดีกับทุกคน ทุกฝ่าย จะแก้ปัญหาต่างๆที่เป็นอุปสรรค ปัญหาเรื่องการทุจริตปัญหาการละเมิดกฎหมาย เพราะกฎหมายจะเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองสงบหากไม่ช่วยกันก็แก้ปัญหาไม่ได้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องปัญหาโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ขอให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาลดูแลตัวเองครอบครัวชุมชน ประเทศชาติ หากร่วมมือกัน ลักษณะรวมไทยสร้างชาติร่วมต้านโควิด-19 โดยเริ่มจากตัวเองก่อน เลี่ยงการเดินทางไปจุดเสี่ยง อย่าเดินทางเข้าไปอย่าสนุกสนานในพื้นที่อโคจร ถ้าไปสงสัยให้ชี้แจงให้ข้อมูลกับหน่วยแพทย์ที่คัดกรองด้วย นายกกล่าวว่าการประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด คือ สมุทรสาคร จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ตราด หากใครเดินทางจะต้องมีเอกสารรับรอง เรื่องนี้ไม่อยากลงโทษใครแต่กฎหมายระบุไว้ว่าถ้าฝ่าฝืนต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ รวมถึงผู้ที่ปกปิดการเดินทางด้วย ทั้งนี้ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กกหมายควบคุมโรคและต้องไม่ละเลยการใช้ชีวิตตามปกติและปัญหาปากท้องของทุกคน ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ขอความร่วมมืออีกครั้งเพราะที่ผ่านมาเราเคยทำได้ดีและผ่านมาได้


นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวต่อถึงเรื่องวัคซีนที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คาดว่าในปีนี้จะได้รับวัคซีนระยะแรกประมาณ 200,000 โดส ต่อเดือน เริ่มจากเดือนกุมภาพันธุ์ จะได้รับ 200,000 โดส เดือนมีนาคม 800,000 โดส เดือนเมษายน 1 ล้านโดส และเดือนพฤษภาคมอีก 26 ล้านโดส นอกจากนั้นได้จองเพิ่มเติมไปอีก 35 ล้านโดส เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งระยะแรกอาจจะฉีดไม่ครบ แต่เรามีบริษัทสยามไบโอไซด์ ที่จะผลิตวัคซีนของเราเองเพื่อ ฉีดให้ประชาชนได้ทั้งประเทศ และระยะต่อไปจะดูแลอาเซียนด้วย นี่คือความคาดหวังของไทย ขอทุกคนได้เชื่อมั่นศรัทธารัฐบาลจะดูแลให้ดีที่สุด

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า คนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนฟรี ทั้งประเทศ โดยจะเริ่มฉีดให้กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงที่อยู่หน้างานก่อน จะเริ่มฉีดให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่งานด้านความมั่นคง อสม. คนสูงอายุ ซึ่งก็ต้องระวังผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น ขณะนี้กำลังติดตามจากต่างประเทศถึงผลการฉีดวัคซีน เพราะทุกอย่างต้องตรวจสอบ ให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับคนไทยทุกคน

ส่วนมาตรการการเยียวยา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้ว่าทุกคนลำบาก ในช่วงที่ผ่านมามีการแชร์ข้อมูลทางโซเชียล แสดงความเห็นขอให้ช่วยเยียวยา โดยใช้เงินกู้ และมีการแชร์ว่ารัฐบาลจะช่วยเงิน 4,000 บาท นายกรัฐมนตรียืนยันว่ายังไม่มีการประกาศออกไปเช่นนั้น วอนอย่าเชื่อข่าวลวง ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง ทุกท่านทราบดีว่าเรามีงบประมาณที่เพียงพอ มีงบรายจ่าย ที่เตรียมไว้ในกรณีทุกเฉินทั้งเงินกู้ที่เตรียมไว้สำหรับผู้ได้รับผลกระทบเพียงพออยู่ แต่ขณะนี้กระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ กำลังพิจารณาภาพรวมอยู่ ทั้งประชาชนและภาคส่วนอื่นๆ ที่มีปัญหา ได้รับผลกระทบ ขอให้รออีกสักนิด


นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึง เรื่องของการจัดหาสถานที่ตั้งโรงบาลสนาม มีความจำเป็นเพราะในบางพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ที่ติดเชื้อจำนวนมาก หากจะเคลื่อนย้ายไปที่อื่นจังหวัดอื่น ก็จะเกิดความไม่พอใจกัน ดังนั้นทุกจังหวัดจะต้องเตรียมพื้นที่สำหรับจัดโรงพยาบาลสนาม โดยจะต้องมีมาตรการทั่วไป ทั้งควบคุมการเดินทางเข้าออก ความปลอดภัย นายกกล่าวว่า หากสามารถคัดแยกผู้ที่มีความเสี่ยงมาอยู่ในโรงพยาบาลสนามหรือพื้นที่ที่สามารถควบคุมได้ก็จะช่วยลดการแพร่กระจาย กระจายโรคไปในพื้นที่ส่วนรวมได้ จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนให้เข้าใจ อย่างไรก็ตามขอชื่นชมหลายท่านที่ได้บริจาคสถานที่ โกดังในการที่จะทำโรงพยาบาลสนาม พร้อมขอร้องอย่ารังเกียจกัน ต้องเข้าใจกันบ้างไม่เช่นนั้นจะทำอะไรต่อไม่ได้ เดือดร้อนกันหมด

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่อยากให้ประชาชนวิตก เรื่องการตรวจเชื้อโควิด-19 หากไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ไปกลุ่มเสี่ยง ไม่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรือเคยเดินทางไปพื้นที่ระบาด แนะนำให้กักตัวที่บ้าน 14 วัน ถ้าผิดปกติก็ไปพบแพทย์ เพราะในการตรวจแต่ละครั้งนั้นก็ต้องใช้น้ำยาที่มีราคาสูง จำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญให้กลุ่มเสี่ยงได้ตรวจก่อนเพื่อควบคุมโรคได้ถูกจุด ขออย่าปกปิดข้อมูลกับเจ้าหน้าที่

ส่วนประเด็นที่หลายคนบอกว่าโทรศัพท์ตัวเองไม่สามารถโหลดแอปพลิเคชัน จะมีความผิด สอบถามไปยังกระทรวงดีอีเอส แล้วว่าไม่มีความผิดอะไร หากโหลดแอปฯ ไม่ได้ ก็ต้องลงทะเบียน เพื่อควบคุมได้ เขียนแผนว่าไปไหน ใครโหลดได้ก็ช่วยกันโหลด ขออย่าไปฟังหรืออ่านข่าวลวงที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ไม่เช่นนั้นจะตกใจไปหมด

พล.อ.ประยุทธ์ ​ยังได้กล่าวถึงปัญหาบ่อนการพนันกฏหมายและแรงงานผิดกฎหมาย ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว และเมื่อสถานการณ์บานปลายก็จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด คิดว่ารัฐบาล ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ไม่ต้องการให้เกิด แต่อาจจะมีเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดี เมื่อมีคนไปเสนอผลประโยชน์ให้ ดังนั้นต้องช่วยกัน ขจัดคนไม่ดีเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดีออกไป ผมจะทำเต็มที่ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์กับใคร

“ผมยืนยันว่าผมไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเราโทษกันไปมาโดยเราไม่มองว่าจะช่วยกันอย่างไร มันก็หาทางออกไม่ได้อยู่ดี ฉะนั้นขอฝากไว้ด้วย ปัญหาเหล่านี้เหมือนหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่มีมายาวนาน ทั้งเรื่องยาเสพติด การตัดไม้ทำลายป่า และอีกเยอะแยะที่เป็นปัญหาของบ้านเรา เราต้องหาวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม ดำเนินการบนพื้นฐานของกฎหมาย และดำเนินการอย่างระมัดระวัง เรามีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ผมก็รังเกียจคนเหล่านี้ ก็ต้องช่วยกัน มีอะไรก็แจ้งมา ผมเองยืนยันว่าไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ จากใครก็ตาม ฉะนั้น ถ้าใครจะเอาไปอ้างสอบถามผมมาก่อน อย่าไปเชื่อเขา และบางอย่างผมก็แปลกใจว่าทำไมมาเกี่ยวข้องก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉะนั้น ขอฝากด้วยสำหรับผู้ที่อ้างอะไรต่างๆ เลิกได้แล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่อ้างว่าเป็นเพื่อนผม อ้างเป็นญาติผม อ้างอะไรก็แล้วแต่ ผมยืนยันว่าผมทำเพื่อประชาชน ไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัวหรือเพื่อญาติพี่น้องใดๆ ทั้งสิ้น อันนี้ขอให้ทุกคนได้เข้าใจซึ่งกันและกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรีได้ กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เกิดฝนตกมากเกินปริมาณที่รับได้แต่มีการระบายน้ำ ได้ติดตามสถานกาณ์อยู่ ขอแสดงความเป็นห่วงและให้กำลังใจประชาชน เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือกันแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด อาจต้องใช้เวลา ได้กำชับมหาดไทย กองทัพและหน่วยงานอื่นๆ นำคนอุปกรณ์มาช่วยเหลือให้ทันท่วงที ส่วนพื้นที่ไหนที่คลี่คลาย ก็สำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมการฟื้นฟูทางกายภาพและจิตใจของประชน ขอให้ช่วยกันทุกอย่างแก้ไขได้หากเราช่วยกัน ช่วงนี้เป็นช่วงแห่งความยากลำบากทุกคนก็ต้องช่วยกันเสียสละ ดูแลลูกจ้างพนักงานของท่านให้ดีนะครับแล้วก็ผมคิดว่าถ้าเราทำทุกอย่างได้ดีประเทศไทยจะมีโอกาสอีกมากในโอกาสต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

คุณหญิงกัลยา ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

กทม. 19 ก.ย.-คุณหญิงกัลยา ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ผ่านมา คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า “ข้าพเจ้า คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ขอเรียนแจ้งความประสงค์ในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาในการที่ข้าพเจ้าได้เป็นส่วนหนึ่งของพรรค ข้าพเจ้าได้รับเกียรติและประสบการณ์อันทรงคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมผลักดันนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา และการสร้างโอกาสให้เยาวชนประสบความสำเร็จ รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ เพื่อแก้จน แก้หลาก และแก้แล้ง อันช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งล้วนเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ายังคงมีความเชื่อมั่นว่า “การศึกษา คือรากฐานสำคัญที่สุดในการพัฒนาคนและชาติ” จึงตั้งใจจะอุทิศเวลาและความรู้ ความสามารถทั้งหมดต่อจากนี้ เพื่อพัฒนาการศึกษาไทย สร้างโอกาสที่เท่าเทียม และขับเคลื่อนการเรียนรู้สู่ความยั่งยืนต่อไป ขอขอบพระคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มอบโอกาสและความไว้วางใจเสมอมา ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้ประสบความสำเร็จในภารกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติสืบไป”.-315.-สำนักข่าวไทย

พายุดีเปรสชันทวีกำลังเป็นโซนร้อน “มิแทก” ส่งผลไทยฝนเพิ่ม

กรุงเทพฯ​ 19 ก.ย.​-กรมอุตุฯ เผย​พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “มิแทก” (MITAG) แล้วบ่าย​วานนี้ แม้ไม่เคลื่อนเข้าไทยโดยตรง แต่ส่งผลกระทบทางอ้อม ตอนกลางประเทศ​ฝนเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ และต้องเฝ้าระวังพายุอีกลูกช่วงปลายเดือนนี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้​พายุโซนร้อน “มิแทก” มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.3 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งทางตะวันออกของประเทศจีนตอนใต้ในวันนี้​(19 กันยายน) แม้พายุจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ไทยโดยตรง แต่ส่งผลทางอ้อม ทำให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 19–26 กันยายน 2568 พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี จันทบุรี ตราด รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เช่น […]

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]