กองทัพบก 18 ธ.ค.-“พล.อ.ณรงค์พันธ์“ ประชุมหน่วยขึ้นตรง ระบุปีนี้ประชุมเร็วกว่าปกติเพื่อให้สอดคล้องสถานการณ์โควิด ย้ำกำลังพลระวังช่วงปีใหม่ เกรงมีลอบเข้าประเทศเพื่อร่วมเคาท์ดาวน์ในไทย
พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บังคับบัญชาการทหารบก แถลงภายหลังประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกวาระพิเศษ ระดับผู้บังคับหน่วยจากทั่วประเทศ จนถึงระดับผู้บังคับกองพัน รวม 731 นาย ว่า เพื่อรับทราบแนวทางของกองทัพบก เพราะผู้บังคับกองพันบางส่วนเพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ เมื่อเดือนตุลาคม และเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เนื่องจากขณะนี้ตามข่าวโควิดมีโอกาสเพิ่มการระบาด โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้เพิ่มกำลังในการสกัดกั้นทั่วประเทศ เฉพาะ กองกำลังผาเมือง ได้สั่งเพิ่มเติม 2 กองร้อย นอกจากเพิ่มกำพลแล้ว ยังมอบสิ่งอุปกรณ์สำหรับให้กำลังพลใช้ป้องกันโควิด ควบคู่กับการให้กรมแพทย์ชี้แจงกำลังพลว่าการจับกุม หรือการคัดกรองจะต้องดำเนินการอย่างไร
“จากนี้ไปจะต้องดำเนินการเน้นย้ำทุกเดือน เพราะยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรและจะสิ้นสุดเมื่อใด แต่ในฐานะการป้องกันชายแดนที่ป้องกันการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งในการทำหน้าที่นอกจากทหารแล้ว ยังร่วมกับหน่วยอื่น เช่น ทหารเรือ ตำรวจตระเวนชายแดน รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนตามหมู่บ้าน” พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว
พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้เน้นย้ำในช่วงปีใหม่ ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกับมาตรการต่าง ๆ ต้องสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ขณะนี้ไม่ได้กำหนดล็อคดาวน์ ยังมีการจัดงานได้ตามปกติภายใต้มาตรการโควิดที่เหมาะสม จึงทำให้ไม่สามารถประกันได้ว่าประเทศรอบข้างไม่สามารถจัดงานได้ ก็อาจจะอยากเดินทางเข้ามา ดังนั้นวันนี้ต้องประชุมทุกหน่วยเร็วขึ้น เพื่อให้ไปเร่งดำเนินการป้องกัน
ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึงสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนว่า ขณะนี้มีการสกัดกั้นทุกวัน เช่น เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) ที่ทัพภาค 4 จับได้กว่า 10 คนเป็นชาวเวียดนาม ซึ่งในแต่ละวันมีเข้ามาต่อเนื่อง เช่น ลาว พม่า รวมแล้วอยู่ประมาณหลักร้อย แต่เมื่อจับได้ก็นำไปเข้าระบบ พบว่าส่วนใหญ่ไม่พบเชื้อ ส่วนที่กังวลเรื่องของพม่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เป็นการระบาดในฝั่งพม่า ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มความเข้มข้นไม่ให้มีการลักลอบเข้ามา และส่วนตัวเห็นว่าไม่น่ากลัว แต่สิ่งที่กลัวที่สุด คือ คนไทยที่ลักลอบออกไปแล้วกลับเข้ามาโดยไม่บอก
พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากสถานการณ์โควิดช่วงปีใหม่ ยังเน้นย้ำเรื่องการตั้งจุดตรวจป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งได้ร่วมกับจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจต่าง ๆ ในการร่วมป้องกันอุบัติเหตุ เพราะในข้อเท็จจริงตัวเลขการเสียชีวิตมาจากอุบัติเหตุมากกว่าโควิด แต่คนกลับกลัวโรคโควิดมากกว่า
ส่วนกรณีผู้ไม่หวังดีเคยอาศัยช่วงหยุดยาวสร้างสถานการณ์ช่วงปีใหม่ ขณะนี้มีการข่าวหรือไม่อย่างไร ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า เป็นปกติทุกปีที่ทำอยู่แล้ว โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งย้ำว่าเป็นการเสียสละของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวกับความมั่นคง ทำอยู่ตลอด แต่ประชาชนอาจไม่ทราบ และเป็นสิ่งที่ตนย้ำมาตลอดว่าบ้านเมืองสงบสุข ไม่มีอันตราย ไม่มีคุกคาม ก็ต้องให้ทุกฝ่ายช่วยกัน โดยเฉพาะสื่อ ขอย้ำว่ามีความสำคัญ เพราะบางครั้งผู้บัญชาการทหารบกพูด คนไม่เชื่อ แต่เมื่อสื่อพูด หรือเขียนให้ทุกคนรักกัน สื่อเขียนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ชื่นชมกองกำลังในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่มีผลงานการป้องกันและปราบปรามสูงขึ้น ถึง 15 ล้านเม็ด และการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับความชื่นชมในภารกิจต่าง ๆ รวมถึงด้านการกีฬาที่สร้างชื่อเสียงแก่กองทัพด้วย และอยากให้กำลังพลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพราะนอกจากจะเป็นแบบอย่าง ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพกองทัพด้วย
ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึงภาพรวมการช่วยเหลือประชาชน ว่า ได้สั่งกำลังพลให้ดำเนินการต่อเนื่อง เช่น ภาคใต้ช่วยสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งที่ผ่านมา เช่น นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง พัทลุง ขณะที่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในภาคอีสานได้ให้กำลังพลช่วยเหลือชาวบ้านขณะนี้ที่อยู่ในช่วงฤดูเกี่ยวข้าว ส่วนภาคเหนือกำลังมีสถานการณ์หมอกควัน ได้ตั้งจุดเฝ้าระวังความร้อนแล้ว และให้เตรียมพร้อมยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชน.-สำนักข่าวไทย