เมืองทองธานี 26 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ ระบุ หวังปี 65-66 มี แพลตฟอร์มกลางภาครัฐ ลดความซ้ำซ้อน นำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ชี้การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ หัวใจสำคัญคือประชาชนต้องเข้าถึง และได้ประโยชน์สูงสุด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงาน“Gov Cloud 2020” The Future of Digital Government ซึ่งจัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) สํานักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ร่วมกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “Gov Cloud : Digital Foundation for Government Transformation” ว่า โลกทุกวันนี้กำลังก้าวสู่เทคโนโลยีและดิจิทัล ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง และสามารถนำมาแก้ปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์โควิด หรือ สถานการณ์อื่น ๆ และเดินหน้าเข้าสู่ยุค smart Government อย่างแท้จริง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ โดยรัฐบาลได้ปรับตัวเป็น Digital Service เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากยิ่งขึ้น และวัตถุประสงค์หลักที่พัฒนาตรงจุดนี้ เพื่อเป็นการบริการให้ความสะดวกให้กับทุกภาคส่วน ทั้งประชาชนและภาคธุรกิจ รวมไปถึงการบริหารราชการแผ่นดินด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คาดหวังว่า ในปี 2565- 2566 Government as a Platform หรือแพลตฟอร์มกลางภาครัฐ จะเข้ามาช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างภาครัฐและประชาชน ลดปัญหาบริการที่ซ้ำซ้อน ประชาชนสามารถใช้บริการภาครัฐที่มีการบูรณาการข้อมูลอย่างแท้จริง เกิดการบริการที่เรียลไทม์
และสิ่งสำคัญในการก้าวสู่แพลตฟอร์มกลางภาครัฐ คือ การมีข้อมูลที่ดี เพิ่มศักยภาพและความโปร่งใสของข้อมูลภาครัฐในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านบริการประชาชน ด้านการเงิน ด้านสาธารณสุข ด้านพลังงาน ด้านการท่องเที่ยว ด้านการสื่อสาร และด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ฯลฯ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้คณะรัฐมนตรีไปหาแนวทาง การแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ หัวใจสำคัญคือประชาชนต้องเข้าถึง และได้ประโยชน์สูงสุด.-สำนักข่าวไทย