ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน นาที-พิพัฒน์

สำนักงานป.ป.ช. 24 พ.ย.- ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน “ปรีดี ดาวฉาย” หลังพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง รวย 221 ล้านบาท ส่วน “นาที-พิพัฒน์” ทรัพย์สินลดกว่า 3.6 พันล้าน เหตุโอนหุ้นให้บริษัทจัดการ


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของนายปรีดี ดาวฉาย กรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกรณีพ้นจากตำแหน่งเดียวกัน นายปรีดี และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งหมด 221,173,458 บาท หนี้สิน 145,046 บาท เท่ากับว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 221,028,412 บาท

แบ่งเป็นทรัพย์สินของนายปรีดี 40,442,787 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 180,730,670 บาท ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินฝากรวม 150,348,511 บาท ที่ดินของคู่สมรส 1 แปลง ในพื้นที่ ต.โป่งตาลอง จ.นครราชสีมา มูลค่า 20,400,000 โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างของคู่สมรส 20,300,000 บาท ตั้งอยู่บนที่ดิน ต.โป่งตาลอง จ.นครราชสีมา ขณะที่เงินลงทุนรวม 15,229,945 บาท เป็นเงินลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลปี 2563 กว่า 13,000,000 บาท ส่วนยานพาหนะมูลค่ารวม 4,600,000 บาท เป็นรถยนต์ Mercedez Benz ของนายปรีดี 1 คัน และรถยนต์ Toyota Alphard ของคู่สมรส 1 คัน และทรัพย์สินอื่นรวม 10,295,000 บาท เช่น นาฬิกา 8 เรือน มูลค่า 3,300,000 บาท ทองรูปพรรณ 18 เส้น สร้อยเพชร 2 เส้น สร้อยไข่มุก 4 เส้น แหวนเพชร 6 วง จี้เพชร ต่างหูเพชร กระเป๋าถือสตรีรวม 4 ใบ


นายปรีดี ยังแจ้งว่า มีรายได้ในปี 2562 รวม 37,237,098 บาท เป็นรายได้ของนายปรีดีกว่า 34,728,294 บาท ส่วนใหญ่มาจากเงินตอบแทน เงินเดือน โบนัส ดอกเบี้ย เงินปันผล และยังมีรายได้จากการขายรถยนต์เบนซ์ 1,250,000 บาท ส่วนรายจ่ายรวม 58,649,877 บาท เป็นรายจ่ายภาษี 10,897,447 บาท ค่าใช้จ่ายในครอบครัว รวม 7,995,100 บาท นอกจากนั้นยังมีการระบุว่า ให้บุตรธิดา 36,000,000 บาท

ส่วนรายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง (12 ส.ค.-1 ก.ย.2563) รวม 228,037 บาท เป็นรายได้จากดอกเบี้ย เงินปันผล มีรายจ่าย 399,595 บาท ระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวและในครอบครัว ดังนั้นเท่ากับว่าระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง นายปรีดีและคู่สมรส มีทรัพย์สินลดลง 111,483 บาท หนี้สินลดลง 12,216 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแจ้งประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี นายปรีดีแจ้งตำแหน่งมากถึง 68 ตำแหน่ง เช่น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประธานกรรมการบริษัทลีสซิ่งกสิกรไทย กรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและและสังคมจิตวิทยา สภาความมั่นคงแห่งชาติ คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ กรรมการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) กรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย กรรมการการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ กรรมการพัฒนาและส่งเสริม ธรรมาภิบาล สำนักงาน ป.ป.ช. และ กรรมการสมาคมนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์


สำนักงาน ป.ป.ช. ยังเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของ นางนาที รัชกิจประการ กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส. โดยนางนาทีและคู่สมรส (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งหมด 1,807,125,074 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินของนางนาที 65,281,566 บาท ทรัพย์สินของคู่สมรส 1,741,843,508 บาท ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนใน 20 บริษัท เช่น บริษัท พีจีทีเอ็นเนอยี จำกัด บริษัทอาม่ามารีน จำกัด บริษัทบางจากคอร์ปอเรชั่น บริษัทรัชกิจโฮลดิ้ง จำกัด มูลค่ารวม 1,403,718,586 บาท ที่ดิน 56 รายการ ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี อ.บ้านตาก จ.ตาก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มูลค่ารวม 44,259,400 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ บ้านพักสองชั้น ตึกแถว รวม 7 รายการ มูลค่ารวม 43,679,376 บาท สิทธิและสัมปทาน รวม 31,516,027 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิทธิในการได้ผลประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันชีวิต

นอกจากนั้นยังแจ้งว่ามีสิทธิการรับโอนทรัพย์มรดกที่ดิน ใน อ.บางแก้ว จ.พัทลุง มูลค่า 4,245,340 บาท เงินฝาก 18,894,667 บาท และยังมีทรัพย์สินอื่นรวมกว่า 44,850,417 บาท ที่น่าสนใจ เช่น กระเป๋าสะพายแบรนด์แนมยี่ห้อดัง กว่า 28 รายการ ชุดเครื่องประดับทอง ชุดเครื่องประดับอัญมณี ชุดเครื่องประดับทองนพเก้า ชุดเครื่องประดับมรกต ชุดเครื่องประดับคริสตัล ต่างหูเพชร 4 คู่ ชุดเครื่องประดับขามุก กระเป๋าถือทอง แหวนเพชร 9 รายการ นาฬิกา 10 รายการ ปากกายี่ห้อดัง 3 รายการ ชุดเครื่องประดับอียิปต์ ส่วนทรัพย์สินอื่นของคู่สมรสส่วนใหญ่เป็น พระเครื่องชื่อดังกว่า 60 รายการ ปืนพก 4 กระบอก นาฬิกาชื่อดัง 5 เรือน สำหรับหนี้สิน 114,900,703 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินของคู่สมรส

นางนาทีและคู่สมรส ยังแจ้งว่ามีรายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง รวม 267,651,827 บาท แบ่งเป็นรายได้ของนางนาที จากเงินประจำตำแหน่ง ส.ส. ค่าอุปการะเลี้ยงดูจากคู่สมรส และรายได้จากการให้เช่าบ้านพัก รวม 5,816,509 บาท นอกนั้นเป็นรายได้ของคู่สมรส สูงถึง 261,835,317 บาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการขายหุ้น 235,789,237 บาท

สำหรับรายได้จากเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งรัฐมนตรี รายได้จากการดำรงตำแหน่งพิเศษ เงินปันผลจากกรมธรรม์ประกันชีวิต เงินปันผลจากการถือหุ้น เงินปันผลที่ได้รับโอนจากบริษัทจัดการ รายได้จากประกันสังคม ส่วนรายจ่าย รวม 251,649,835 บาท ส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายของคู่สมรส เช่น การให้กู้ยืม 134,900,000 บาท ค่าใช้จ่ายจากการซื้อหุ้น 40,553,265 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 58,069,237 บาท รวมทั้งค่าอุปการะที่นางนาทีได้จากสามี 3,500,000 บาท

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับกรณีนายพิพัฒน์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวมคู่สมรส (นางนาที) ทั้งสิ้น 5,436,758,409 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 225,983,525 บาท เท่ากับว่า นางนาที และนายพิพัฒน์ มีทรัพย์สินลดลง 3,629,633,335 บาท มีหนี้สินลดลง 111,082,822 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบทรัพย์สินของนางนาทีและคู่สมรส พบว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ลดลงในส่วนของเงินลงทุนของนายพิพัฒน์ จากเดิมที่แจ้งว่ามีเงินลงทุน 5,117,898,030 บาท แต่ล่าสุดแจ้งว่าเหลือเงินลงทุน 1,403,390,559 บาท อย่างไรก็ตามเงินส่วนดังกล่าวอาจจะเป็นหุ้นที่ถูกโอนให้บริษัทจัดการ ซึ่งมีการแจ้งการโอนหุ้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ภายหลังที่นายพิพัฒน์เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยในรายละเอียดการโอนหุ้นมีการแจ้งโอนหุ้นจำนวน 10 บริษัท โดยมีหลายบริษัทที่มีหุ้นมูลค่าสูง เช่น บริษัทรัชกิจโฮลดิ้งจำกัด แจ้งมูลค่า 3,626,616,126 บาท บริษัท รัชกิจคอร์โปเรชั่น จำกัด แจ้งมูลค่า 101,080,000 บาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]