ทำเนียบรัฐบาล 16 พ.ย.-“นายกฯ” ชี้ประชุมอาเชียน ทำให้ัลงนามข้อตกลง RCEP สำเร็จ ย้ำไทยมีบทบาทสำคัญในการร่วมผลักดันตั้งแต่เป็นประธานอาเชียนครั้งที่แล้ว ยืนยัน เป็นโอกาสให้ไทยส่งออกไปยังประเทศปลายทาง เตรียมมาตรการดูแล ไม่ให้กระทบประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมสุดอาเชียน ครั้งที่ 37 และการประชุมที่เกี่ยวข้องว่า เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกอาเชียน ซึ่งถือว่าเป็นภูมิภาคสำคัญของโลก เห็นได้จากตัวเลข GDP รวมกันสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก อยู่ที่ประมาณลำดับที่ 5 อีกทั้งยังมีทรัพยากรมนุษย์และศักยภาพต่าง ๆ ในระดับสูง ซึ่งการประชุมครั้งนี้สมาชิกประเทศอาเชียนได้ประชุมร่วมกับพันธมิตรในลักษณะของอาเชียน +3 และ +6 ที่มีนับหลายสิบเวทีการประชุม
“สิ่งที่น่ายินดีคือการเจราจาข้อตกลง RCEP สามารถลงนามได้ในการประชุมวานนี้(15 พ.ย.) ซึ่งกรอบความร่วมมือดังกล่าวริเริ่มมาไม่น้อยกว่า 8 ปี และการเจราจามีความคืบหน้าไม่มากนัก ในขณะที่ผมพยายามผลักดันให้ความร่วมมือนี้มีความคืบหน้าจากการประชุมครั้งที่แล้ว ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ในส่วนของอินเดียที่ระบุว่ายังไม่พร้อมในขณะนี้ ถือว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะในวันข้างหน้าจะมาเข้าร่วมด้วย อย่างน้อยวันนี้ สมาชิกอื่นสมารถเข้าร่วมกันได้ ถือเป็นร่วมมือกันได้แล้วในระยะแรก ถือว่าดีใจที่สามารถร่วมมือกันได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความร่วมมือ RCEP เป็นกรอบความร่วมมือการค้าในภูมิภาคที่จะเป็นผลดีต่อไทยเรื่องการส่งออกสินค้าที่ผลิตในไทยไปทั่วภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ออสเตรีย นิวซีแลนด์ รวมถึงอาเชียน ซึ่งจะสามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประเทศ ขณะนี้ความร่วมมือในเวทีโลกจะเน้นการร่วมกลุ่มประเทศ เพื่อให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน ขณะเดียวกันรัฐบาลจะดูแลประชาชน ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากกรอบความร่วมมือและข้อตกลงต่าง ๆ โดยจะวางมาตรการต่าง ๆ เพื่อดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
“ข้อตกลงนี้จะทำให้เกิดการยกเว้นภาษีที่ประเทศปลายทางจัดเก็บจากสินค้าต่าง ๆ ที่คนไทยส่งออกไป รวมถึงการขจัดขั้นตอนอุปสรรคต่าง ๆ ให้ผู้ส่งออก ซึ่งส่วนนี้มองว่าจะช่วยให้ไทยมีความพร้อมที่จะฟื้นฟูและเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วเมื่อวิกฤตโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายลง ดังนั้น การเข้าร่วมข้อตกลงนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับไทยในข้อตกลงประวัติศาสตร์ ของอาเชียน เป็นข้อตกลงทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งต้องขอบคุณทีมงานทุกคนที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ จนทำให้บรรลุเป้าหมายและเป็นผลสำเร็จของคนไทยทุกคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย