คุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่จตุจักร รับฟังผู้ค้า

กทม. 15 พ.ย.-คุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร รับฟังความเห็นผู้ค้า มองรัฐบาลมีงบกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่รู้จะใช้อย่างไร ด้านผู้ค้าร้องคมนาคมขอลดค่าเช่า เรียกร้องนายกฯ ลงพื้นที่ดูปัญหา

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พร้อมด้วยนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ และนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.ของพรรค ลงพื้นที่ตลาดจตุจักร เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาความเดือดร้อน จากกลุ่มสหกรณ์ผู้ค้า และผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร ซึ่งมีผู้เช่าอยู่ประมาณ 10,300 แผง ขณะที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. มีแผนพัฒนาและลงทุนในพื้นที่และให้ กทม.เป็นผู้บริหารจัดการแผงค้าขาย ต้องส่งเงินให้ รฟท. ราว 169 ล้านบาทต่อปี โดยให้ กทม.คิดค่าเช่า 900 บาท, 1,400 บาท และ-1,800 บาท ต่อแผงต่อเดือน ตามแต่ละโครงการ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยผู้ค้าบางส่วนได้จ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไปแล้ว แต่บางส่วนยังไม่ได้ดำเนินการ และมีการเข้ายื่นเรื่องต่อ กมธ.ตรวจสอบเงินกู้ 1.9 ล้านบาท ฟื้นฟูผลกระทบโควิด-19 เกี่ยวกับผลกระทบโควิด-19 ก่อนหน้านี้ด้วย


โดยกลุ่มผู้ค้า ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กทม.และ รฟท.ช่วยลดค่าเช่าแผง รวมถึงดอกเบี้ยและค่าปรับที่ผู้ค้าติดค้างด้วย ส่วนตัวแทนผู้บริหารตลาดจตุจักร กล่าวถึงรายได้ของตลาดจตุจักร ที่หดหายไป นอกจากเก็บค่าเช่าไม่ได้เเล้ว ยังมีผู้ยกเลิกสัญญาเช่าหลายราย พร้อมอธิบายเงื่อนไขทั้งตามมติ ครม.และ MOU ระหว่าง รฟท.กับ กทม. เกี่ยวกับการบริหารจัดการตลาดจตุจักร ซึ่งเฉลี่ยแล้ว ตลาดจตุจักรต้องส่งเงินให้ กทม.เพื่อจ่ายให้ รฟท.เดือนละ 14 ล้านบาทเศษ โดยยกตัวอย่างค่าแผงที่แพงที่สุดคือ 1,800 แบ่งไว้บริหารจัดการในตลาด 450 บาท ส่งให้ รฟท. 1,350 บาท แทบไม่เหลือกำไร บาวเดือนตลาดจตุจัดรมีกำไรเพียง 20,000 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากกับการบริหารพื้นที่กว่า 70 ไร่

นายเผดิมชัย ในฐานะ กมธ.ติดตามเงินกู้ ทบทวนกรณีกลุ่มผู้ค้าจตุจักรไปยื่น กมธ.ติดตามเงินกู้ฯ ว่า ได้ร้องเรียนไว้ใน 3 ประเด็น คือ
1.) ยุติฟ้องร้องผู้ค้าที่ติดค่าเช่าแผง
2.) ยกเว้นดอกเบี้ยและขอผ่อนชำระเงินต้น หลัง รฟท.ยอมยกเว้นดอกเบี้ย แต่ให้จ่ายเลินต้นในคราวเดียว
3.) ผู้ค้าที่จ่ายทั้งต้นและดอกแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยา หรือให้ กทม.ลดเงินต้นให้จากยอดดอกเบี้ยที่จ่ายไป


พร้อมรับปากว่า จะนำขอเสนอเพิ่มเติมในวันนี้ เข้าที่ประชุม กมธ.ติดตามเงินกู้ฯ ในวันอังคารนี้

ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ ระบุถึงวิสัยทัศน์ผู้บริหาร ที่ต้องเน้นดูแลประชาชน ไม่มุ่งแสวงหากำไรอย่างเดียว พร้อมเน้นย้ำถึงจุดเด่นของตลาดจตุจักรที่มีความแตกต่างจากตลาดอื่นๆ เพราะเป็นที่รวมของสินค้าชุมชนทั้งจากวิสาหกิจชุมชนและชาวบ้านมากระจายที่นี่ ดังนั้นการดูแลเชิงการค้าอย่างเดียวไม่เพียงพอต้องส่งเสริมหรือมีหน้าที่ดึงผลิตภัณฑ์จากชุมชนมาขายด้วยซ้ำ และเห็นว่า ผู้ที่รับสินค้าเหล่านี้มาขาย ควรได้รับสิทธิพิเศษจากภาครัฐ อย่างน้อยก็จากเงินกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ “4 แสนล้านบาท” ด้วย

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือมี 2 ระดับคือ ในชั้นกรรมาธิการ อย่างที่นายเผดิมชัย นำเสนอและจะดำเนินการ อีกระดับคือ คุณหญิงสุดารัตน์ จะประสานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและผู้ว่าการรถไฟฯ เพื่อนำสู่การนัดประชุมร่วมกัน 3 ฝ่ายกับกลุ่มผู้ค้า จะได้นำสู่การคลี่คลายปัญหา คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวด้วยว่า แต่ถ้าผู้มีอำนาจไม่ยอมมาประชุม กลุ่มผู้ค้าอาจจะ “พาม็อบไปเยี่ยม” ก็ได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย