ไทย-เวียดนาม กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี

ทำเนียบฯ 6 พ.ย.-ไทย-เวียดนาม กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี พร้อมเน้นย้ำความร่วมมือในกรอบอาเซียน เดินหน้าจัดการกับสถานการณ์โควิด-19


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทางโทรศัพท์กับนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อหารือถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือในกรอบอาเซียน

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยและดินถล่มในพื้นที่ภาคกลางของเวียดนาม โดยไทยในฐานะมิตรประเทศของเวียดนามพร้อมให้การสนับสนุนเวียดนามในการฟื้นฟูความเสียหาย พร้อมกันนี้ได้หารือถึงความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยยืนยันความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งระหว่างสองประเทศ พร้อมพิจารณาจัดการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-เวียดนาม (Joint Cabinet Retreat: JCR) ครั้งที่ 4 ในปีหน้า ภายหลังจากที่สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้คลี่คลายแล้ว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน


นายอนุชา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ชื่นชมที่เวียดนามคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ระลอกสอง จนไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศต่อเนื่องกันเป็นเวลากว่า 2 เดือน และขอบคุณเวียดนามที่สนับสนุนการเคลื่อนย้ายคนไทยกลับประเทศ รวมทั้งยินดีที่ได้ทราบว่าภาคเอกชนไทยที่ลงทุนในเวียดนามจะทยอยมอบหน้ากากอนามัยจำนวน 8 ล้านชิ้นแก่เวียดนามภายในเดือนธันวาคม 2563

“โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามเห็นพ้องที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับไทย ในการจัดการกับสถานการณ์โควิด-19 พร้อมกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ กระชับความร่วมมือในธุรกิจ e-commerce และเชิญชวนภาคเอกชนของทั้งสองประเทศมาลงทุนซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะด้านพลังงาน ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังยินดีที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการประชุม Thailand-Vietnam Energy Forum ครั้งที่ 2 เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานในรายละเอียดต่อไป” นายอนุชา กล่าว

นายอนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือในภูมิภาคด้านอื่น ๆ อาทิ การร่วมมือกันบริหารจัดการแม่น้ำโขง ผ่านกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง การส่งเสริมความร่วมมือของอาเซียนเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดและผลกระทบของโควิด-19 อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ไทยยินดีที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 37 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์หน้า ซึ่งเวียดนามเป็นเจ้าภาพ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยผู้นำทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ อาทิ การจัดตั้งคลังสำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์อาเซียนสำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข การทบทวนกึ่งวาระของแผนงานประชาคมอาเซียน ค.ศ.2025 การตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันเพื่อประชาชนในภูมิภาค พร้อมกันนี้ทั้งสองฝ่ายยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีพิธีลงนามความตกลง RCEP ในการประชุมฯ ครั้งนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ