ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศเปิดตัวหนังสือในวาระ 50 ปีทองแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ (ISC) จัดงานเปิดตัวหนังสือ 2 เล่มสำคัญต่อประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-จีน ในวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน


ดร.อนุสนธิ์ ชินวรรโณ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ (ISC) กล่าวในพิธีเปิดงานว่า ในวาระที่ไทยและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 50 ปี ถือเป็นโอกาสเหมาะสมที่จะจัดทำและเผยแพร่หนังสือ ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเล่มแรก คือ หนังสือเรื่อง “การเจรจาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน 2516-2518: ร่างรายงาน โดย เตช บุนนาค” และเล่มที่ 2 คือ “ไทยมองจีน”

ทั้งนี้ ดร.เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย และประธานกรรมการที่ปรึกษา ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ ผู้เขียนบันทึกต้นเรื่องอันเป็นที่มาของหนังสือ “การเจรจาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน 2516-2518: ร่างรายงาน โดย เตช บุนนาค” เปิดเผยว่า หนังสือเล่มดังกล่าวเป็นการรวบรวมบันทึกที่ได้เคยจดไว้ รวมถึงข้อความในหนังสือราชการ สมัยดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2515 ซึ่งขณะนั้นได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการประสานการเจรจาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น จนนำไปสู่วันที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีไทย นำคณะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อลงนามในแถลงการณ์ร่วมสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับนายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 โดยหนังสือเล่มนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับลำดับเหตุการณ์ รวมทั้งรายละเอียดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างฝ่ายไทยกับฝ่ายจีน โดยเฉพาะการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง ดร.เตช บุนนาค หัวหน้ากองเอเชียตะวันออกสมัยนั้น กับนาย Cheng Jui-Sheng ผู้อำนวยการกองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่กรุงโตเกียว อันเป็นที่มาของคำว่า “การทูตริมระเบียงหรือ Corridor Diplomacy” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเจรจาเพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไทย – จีน ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศทั้งสอง


ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.สิทธิพล เครือรัฐติกาล ประธานสภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้กล่าวแนะนำหนังสือ “ไทยมองจีน” ว่า ในฐานะที่เป็นบรรณาธิการหนังสือ “ไทยมองจีน” ได้เห็นถึงแนวคิด 2 ประเด็นหลักจากหนังสือเล่มดังกล่าว คือ ภูมิหลังของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนรวมทั้งบางประเด็นที่ถูกมองข้าม กับ โอกาสและความท้าทายของไทย ในความสัมพันธ์ไทย – จีน ในช่วง 50 ปีนับจากนี้ไป

ในโอกาสนี้ ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ (ISC) ยังได้จัดการเสวนาในหัวข้อ “มองไปข้างหน้า: อนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับทิศทาง โอกาส และความท้าทายในการดำเนินความสัมพันธ์ไทย-จีน จากมุมมองของภาควิชาการ ภาคธุรกิจ และสื่อมวลชน โดยคณะผู้อภิปรายประกอบด้วย รศ.ดร.กรพนัช ตั้งเขื่อนขันธ์ อาจารย์ประจำหน่วยวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์จีน นางสาวกุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และนางสาววัชรินทร์ เศรษฐกุดั่น ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

รศ.ดร.กรพนัช ตั้งเขื่อนขันธ์ ได้ให้ข้อมูลด้านการเผยแพร่ Soft Power ของจีน ตั้งแต่ยุคก่อนซึ่งดำเนินการผ่านกลไกองค์กรของรัฐ เช่น สถาบันขงจื๊อ และโครงการให้ความช่วยเหลือการให้ทุนการศึกษา มาจนถึงยุคปัจจุบันที่จีนพยายามเผยแพร่วัฒนธรรมจีน ด้วยการสร้างเรื่องเล่าของจีน และผลิตเนื้อหาวัฒนธรรมร่วมสมัย (Pop Culture) เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าถึงได้ผ่านการเสพสื่อดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เป็นของจีน เช่น ซีรีส์จีน ละครแนวซีรีส์วาย ละครแนวรักโรแมนติก นิยายจีนแฟนตาซี ฯลฯ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะใช้ประโยชน์จากความร่วมมือกับแพลตฟอร์มของจีน และผู้ผลิตจีน ในการผลิตและส่งออกคอนเทนท์ของไทยผ่านแพลตฟอร์มจีนไปยังทั่วโลกได้ ทั้งยังจะมีผลพลอยได้ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และแฟนคลับชาวจีนให้เข้ามาไทย กรณีที่ผู้ประกอบการบันเทิงของจีน ใช้ไทยเป็นสถานจัดงานบันเทิงใหญ่ ๆ ได้


ด้าน นางสาวกุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ได้ให้คำแนะนำผู้ประกอบการไทยว่า ยังมีโอกาสอีกมากในตลาดสินค้าออนไลน์ของจีน ขอเพียงสินค้าที่จะนำไปจำหน่าย ต้องเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญยังแนะนำว่า ผู้ประกอบการไทยไม่ควรกังวลเรื่องการสื่อสารด้วยภาษาจีนจนไม่กล้าก้าวเข้าไปลงทุนในจีน เนื่องจากปัจจุบันมีหลายตัวช่วยที่จะอำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับผู้ค้าและผู้บริโภคชาวจีนได้ เช่น ล่าม และแอปพลิเคชันแปลภาษา นอกจากนี้ ยังชี้ข้อดีของการค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์มจีนว่า บางแพลตฟอร์ม เช่น TikTok หรือ Douyin มีนโยบายลดภาษีให้สินค้าจากประเทศไทย ขณะที่หน่วยงานของรัฐบาลไทย ก็กำลังดำเนินนโยบายกรอบความร่วมมือต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าออนไลน์กับจีนให้มากขึ้น

ขณะที่นางสาววัชรินทร์ เศรษฐกุดั่น ผู้อำนวยฝ่ายข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย บมจ.อสมท ให้ความเห็นในฐานะสื่อที่มีความร่วมมือกับองค์กรสื่อ และหน่วยงานของทางการจีน ว่า ท่ามกลางปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สื่อควรทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ไม่เฉพาะแต่ความสัมพันธ์ไทย-จีน แต่รวมถึงไทยกับประเทศอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ ควรถึงเวลาแล้วที่สื่อไทย กับหน่วยงานของทางการไทย ภาครัฐและเอกชน จะต้องร่วมมือกันเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับไทย-จีน และประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มของจีน เพื่อส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องไปยังผู้รับสารชาวจีน เพื่อคลายความวิตกกังวลที่จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย.-810.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีวอร์รูมแถลงนโยบาย ยัน “คนละครึ่ง” เริ่ม ต.ค.นี้

ทำเนียบ 26 ก.ย.-นายกฯ ร้องโหย ไม่มีวอร์รูมแถลงนโยบาย มีแต่เลิฟรูม ยัน “คนละครึ่ง” เริ่มทันที ต.ค.นี้ โยน รมว.คลัง แจงรายละเอียด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่าง 29-30 กันยายนนี้ ว่า ร่างสุดท้ายมา 100% แล้ว เมื่อถามว่า จะมีการตั้งวอร์รูมหรือไม่ นายอนุทิน ร้องโหย ก่อนจะบอกว่า “ไม่มีหรอกวอร์รูม มีแต่เลิฟรูม” เมื่อถามถึงนโยบายโครงการ “คนละครึ่ง” จะสามารถเริ่มได้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี พยักหน้ารับ พร้อมระบุว่า ภายในเดือนตุลาคม แต่ขอให้ไปถามรายละเอียดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง.-319.-สำนักข่าวไทย

เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล-สน.สามเสน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน คาดวันนี้ต้องเทอีกประมาณ 200 คันรถโม่ปูน จึงจะได้ความสูงของปูนในหลุมตามแผนที่วางไว้ .-สำนักข่าวไทย

จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]