ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศเปิดตัวหนังสือในวาระ 50 ปีทองแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ (ISC) จัดงานเปิดตัวหนังสือ 2 เล่มสำคัญต่อประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-จีน ในวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน


ดร.อนุสนธิ์ ชินวรรโณ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ (ISC) กล่าวในพิธีเปิดงานว่า ในวาระที่ไทยและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 50 ปี ถือเป็นโอกาสเหมาะสมที่จะจัดทำและเผยแพร่หนังสือ ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเล่มแรก คือ หนังสือเรื่อง “การเจรจาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน 2516-2518: ร่างรายงาน โดย เตช บุนนาค” และเล่มที่ 2 คือ “ไทยมองจีน”

ทั้งนี้ ดร.เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย และประธานกรรมการที่ปรึกษา ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ ผู้เขียนบันทึกต้นเรื่องอันเป็นที่มาของหนังสือ “การเจรจาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน 2516-2518: ร่างรายงาน โดย เตช บุนนาค” เปิดเผยว่า หนังสือเล่มดังกล่าวเป็นการรวบรวมบันทึกที่ได้เคยจดไว้ รวมถึงข้อความในหนังสือราชการ สมัยดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2515 ซึ่งขณะนั้นได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการประสานการเจรจาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น จนนำไปสู่วันที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีไทย นำคณะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อลงนามในแถลงการณ์ร่วมสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับนายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 โดยหนังสือเล่มนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับลำดับเหตุการณ์ รวมทั้งรายละเอียดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างฝ่ายไทยกับฝ่ายจีน โดยเฉพาะการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง ดร.เตช บุนนาค หัวหน้ากองเอเชียตะวันออกสมัยนั้น กับนาย Cheng Jui-Sheng ผู้อำนวยการกองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่กรุงโตเกียว อันเป็นที่มาของคำว่า “การทูตริมระเบียงหรือ Corridor Diplomacy” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเจรจาเพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไทย – จีน ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศทั้งสอง


ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.สิทธิพล เครือรัฐติกาล ประธานสภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้กล่าวแนะนำหนังสือ “ไทยมองจีน” ว่า ในฐานะที่เป็นบรรณาธิการหนังสือ “ไทยมองจีน” ได้เห็นถึงแนวคิด 2 ประเด็นหลักจากหนังสือเล่มดังกล่าว คือ ภูมิหลังของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนรวมทั้งบางประเด็นที่ถูกมองข้าม กับ โอกาสและความท้าทายของไทย ในความสัมพันธ์ไทย – จีน ในช่วง 50 ปีนับจากนี้ไป

ในโอกาสนี้ ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ (ISC) ยังได้จัดการเสวนาในหัวข้อ “มองไปข้างหน้า: อนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับทิศทาง โอกาส และความท้าทายในการดำเนินความสัมพันธ์ไทย-จีน จากมุมมองของภาควิชาการ ภาคธุรกิจ และสื่อมวลชน โดยคณะผู้อภิปรายประกอบด้วย รศ.ดร.กรพนัช ตั้งเขื่อนขันธ์ อาจารย์ประจำหน่วยวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์จีน นางสาวกุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และนางสาววัชรินทร์ เศรษฐกุดั่น ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

รศ.ดร.กรพนัช ตั้งเขื่อนขันธ์ ได้ให้ข้อมูลด้านการเผยแพร่ Soft Power ของจีน ตั้งแต่ยุคก่อนซึ่งดำเนินการผ่านกลไกองค์กรของรัฐ เช่น สถาบันขงจื๊อ และโครงการให้ความช่วยเหลือการให้ทุนการศึกษา มาจนถึงยุคปัจจุบันที่จีนพยายามเผยแพร่วัฒนธรรมจีน ด้วยการสร้างเรื่องเล่าของจีน และผลิตเนื้อหาวัฒนธรรมร่วมสมัย (Pop Culture) เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าถึงได้ผ่านการเสพสื่อดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เป็นของจีน เช่น ซีรีส์จีน ละครแนวซีรีส์วาย ละครแนวรักโรแมนติก นิยายจีนแฟนตาซี ฯลฯ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะใช้ประโยชน์จากความร่วมมือกับแพลตฟอร์มของจีน และผู้ผลิตจีน ในการผลิตและส่งออกคอนเทนท์ของไทยผ่านแพลตฟอร์มจีนไปยังทั่วโลกได้ ทั้งยังจะมีผลพลอยได้ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และแฟนคลับชาวจีนให้เข้ามาไทย กรณีที่ผู้ประกอบการบันเทิงของจีน ใช้ไทยเป็นสถานจัดงานบันเทิงใหญ่ ๆ ได้


ด้าน นางสาวกุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ได้ให้คำแนะนำผู้ประกอบการไทยว่า ยังมีโอกาสอีกมากในตลาดสินค้าออนไลน์ของจีน ขอเพียงสินค้าที่จะนำไปจำหน่าย ต้องเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญยังแนะนำว่า ผู้ประกอบการไทยไม่ควรกังวลเรื่องการสื่อสารด้วยภาษาจีนจนไม่กล้าก้าวเข้าไปลงทุนในจีน เนื่องจากปัจจุบันมีหลายตัวช่วยที่จะอำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับผู้ค้าและผู้บริโภคชาวจีนได้ เช่น ล่าม และแอปพลิเคชันแปลภาษา นอกจากนี้ ยังชี้ข้อดีของการค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์มจีนว่า บางแพลตฟอร์ม เช่น TikTok หรือ Douyin มีนโยบายลดภาษีให้สินค้าจากประเทศไทย ขณะที่หน่วยงานของรัฐบาลไทย ก็กำลังดำเนินนโยบายกรอบความร่วมมือต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าออนไลน์กับจีนให้มากขึ้น

ขณะที่นางสาววัชรินทร์ เศรษฐกุดั่น ผู้อำนวยฝ่ายข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย บมจ.อสมท ให้ความเห็นในฐานะสื่อที่มีความร่วมมือกับองค์กรสื่อ และหน่วยงานของทางการจีน ว่า ท่ามกลางปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สื่อควรทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ไม่เฉพาะแต่ความสัมพันธ์ไทย-จีน แต่รวมถึงไทยกับประเทศอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ ควรถึงเวลาแล้วที่สื่อไทย กับหน่วยงานของทางการไทย ภาครัฐและเอกชน จะต้องร่วมมือกันเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับไทย-จีน และประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มของจีน เพื่อส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องไปยังผู้รับสารชาวจีน เพื่อคลายความวิตกกังวลที่จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย.-810.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]