ย้ำพิทักษ์กษัตริย์ ยึดนโยบายรัฐบาล กลาโหม

กองบัญชาการกองทัพไทย 5 ต.ค.-ผู้บัญชาการทหารสูงสุดประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพนัดแรก หลังรับตำแหน่ง พร้อมมอบนโยบายการทำงาน พิทักษ์รักษา เทิดทูนสถาบันกษัตริย์ น้อมนำแนวทางพระราชทานมาดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชาติ ประชาชน ยึดถือนโยบายรัฐบาล กลาโหม


พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 5 กองบัญชาการกองทัพไทย โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวแสดงความยินดีกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายทหารและนายตำรวจที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ รวมทั้งผู้ที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มอบนโยบายแก่เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ยึดถือกรอบแนวทางตามนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงกลาโหม เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมยึดหลัก “กองทัพไทยพิทักษ์รักษา ปกป้อง เทิดทูนพระมหากษัตริย์องค์จอมทัพไทย และน้อมนำแนวทางพระราชทานมาดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน” โดยให้ดำเนินงาน 6 ด้าน ได้แก่ การพิทักษ์รักษา ปกป้อง เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า การดำเนินการตามแนวทางพระราชทาน “สืบสาน รักษาต่อยอด” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


“การป้องกันประเทศ การรักษาผลประโยชน์ของชาติในทุกมิติ การรักษาความมั่นคงของรัฐ สนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปประเทศโดยภายใต้นโยบายรวมไทยสร้างชาติ การสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศ ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน มิตรประเทศ นานาชาติ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศอย่างสมดุล การพัฒนาประเทศ ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ช่วยเหลือประชาชน ดูแล สร้างโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ยากลำบากและทุรกันดารให้มีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้เป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง มีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศต่อไป การบริหารจัดการกองทัพ ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรม ยึดมั่นตามสายการบังคับบัญชาเพื่อความเป็นปึกแผ่นของกองทัพไทย ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง ใช้แนวทางการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และหลักธรรมาภิบาล ให้เป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน” พล.อ.เฉลิมพล กล่าว

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า สำหรับการจัดส่งกำลังทหารไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ในสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน ถือเป็นภารกิจสำคัญของกองทัพไทย อันเป็นไปตามพันธกรณีที่มีต่อสหประชาชาติ กองทัพไทยได้กำหนดมาตรการป้องกันและให้ความรู้แก่กำลังพลทุกนายให้มีความระมัดระวังในการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้เพิ่มความเข้มงวดในด้านมาตรการสุขอนามัยในการป้องกันตนเอง หากต้องปฏิบัติงานนอกค่าย เช่น ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติงานนอกพื้นที่ จัดระบบพื้นที่กันชนเพื่อไม่ให้ประชาชนเข้ามาปฏิสัมพันธ์ในพื้นที่ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตนเองทั้ง Face Shield และหน้ากากอนามัยอย่างเพียงพอ

พล.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า ส่วนการส่งกำลังพลของกองทัพบกไปร่วมการประเมินผลการฝึก ณ ศูนย์การเตรียมความพร้อมร่วม (Joint Readiness Training Center : JRTC) Fort Polk รัฐหลุยเซียนน่า สหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 3 ตุลาคม โ€“ 1 พฤศจิกายน 63 จำนวน 189 นายนั้น เป็นไปตามพันธกรณีกับกองทัพมิตรประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของกำลังพลเป็นรายบุคคลและเป็นหน่วย โดยมาตรการก่อน ระหว่างและหลังการฝึกนั้น กองทัพไทยได้ดำเนินการอย่างรัดกุมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กำลังพลที่เดินทางไปร่วมปฏิบัติภารกิจทุกนายมีความพร้อมทั้งด้านสมรรถภาพร่างกายและมีมาตรฐานในการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดโรค COVID-19 อย่างรอบคอบ รัดกุม เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การสหประชาชาติและกระทรวงสาธารณสุขทุกประการ


“ผมเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการดำรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า พัฒนากองบัญชาการกองทัพไทยให้มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วม 3 เหล่าทัพ เพื่อให้เป็นกองทัพชั้นนำในภูมิภาค มีนวัตกรรมทันสมัย สามารถปฏิบัติการร่วมอย่างมีประสิทธิภาพทุกมิติ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จ เพื่อประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล

บอสแซมมิน

ยังไม่จบ! “แซม-มิน” ลุ้น DSI เห็นแย้งอัยการหรือไม่

แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม-บอสมิน” แต่ดีเอสไอย้ำชัด คดียังไม่จบ มีเวลาอีก 30 วัน พิจารณาสำนวนที่ถูกตีกลับว่าจะเห็นแย้งคำสั่งหรือไม่ ส่วนประเด็น “บอสมิน” ไม่ถูกตัดผมขณะถูกคุมขัง ราชทัณฑ์มีคำตอบให้แล้ว