ตั้ง.ส.ร.แก้รธน.เป็นทางออกดีที่สุด

อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 3 ต.ค.-วงสัมมนาแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกประเทศไทย นักวิชาการ ระบุต้องผลักดันตั้งส.ส.ร. ด้าน “ไอลอว์” ยันร่างแก้ไขของประชาชน เป็นข้อเสนอที่ประนีประนอมที่สุด


ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยร่วมกับสถาบันสร้างไทย จัดสัมมนาแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกประเทศไทย โดยมีนายโคทม อารียา ภาคีเพื่อรัฐธรรมนู ญประชาธิปไตย นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา นา ยวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เข้าร่วมสัมมนา

นายโภคิน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีวัตถุประสงค์ไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าชนะการเลือกตั้งได้ก็บริหารประเทศไม่ได้ เพราะองค์กรอิสระต่างๆ พร้อมจะยัดคดีให้ และวางบทเฉพาะกาลเพื่อจะอยู่ต่อไป คือประเด็นใหญ่ที่สุด ดังนั้น ประเทศจึงเดินไม่ได้ ผลของการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ทางเดียวที่จะเป็นทางออกในขณะนี้ ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน


“วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกปัญหาจะต้องจบที่ประชาชน โดยต้องตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) อีกครั้งหนึ่งเช่นเดียวกับปี 2539 โดยสิ่งที่เสนอคือส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน โดยเริ่มจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญและยกร่าง แต่ไม่แตะต้องหมวด1-2 จึงอยากเชิญชวนทุกฝ่ายผลักดันให้เกิดการตั้งส.ส.ร.และแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ เชื่อว่าไม่มีใครบังคับส.ส.ร.ได้ และส.ส.ร.เองไม่มีทางร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นเผด็จการแน่นอน” นายโภคิน กล่าว

ด้านนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกของประเทศ ตนรู้สึกว่ามีประตูที่เป็นทางเข้าสู้วิกฤติอย่างรุนแรงของประเทศ เพราะเรามีปัญหาทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ความขัดแย้งระหว่างวัย เพราะขณะนี้เด็กกับผู้ใหญ่คุยกันไม่รู้เรื่อง ปัญหาทางการเมืองรุนแรงมากในสภาฯ ซึ่งขณะที่อภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญเหมือนเราอยู่ท่ามกลางแล้วมีกระสุนมาจากทั้งสองข้าง ทั้งนี้ เรื่องรัฐธรรมนูญจะเป็นประตูสู่วิกฤติครั้งใหญ่มากกว่าปี 2535 แต่เป็นประตูเดียวที่จะออกจากวิกฤติเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องเลือกว่าจะเปิดเข้าหรือเปิดออก

“จุดเแข็งรัฐธรรมนูญปี 40 ที่เราทำสำเร็จเพราะไม่ต้องการรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ วันนี้ก็เช่นกัน ถ้าต้องการรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ก็ไม่มีทางทำได้ ผมไม่ห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญปี 2560 เพราะเขียนเอาไว้เป็นค่ายกลเจ็ดดาว ซึ่งแก้ไขไม่ได้ ดังนั้นเมื่อทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงจี้ไปที่มาตรา256 ที่เป็นประตูเปิดสิ่งเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 80 % เชื่อว่าจะแก้ได้ จากที่ฟังความเห็นทั้งจากฝ่ายค้าน รัฐบาลและส.ว. อาจจะเป็นฉบับที่ 1 หรือ 2 ยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะรับหลักการในวาระแรกแน่นอน” ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว


นายนิกร กล่าวว่า การตั้งกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ ที่กำหนดระยะเวลาศึกษาไว้ 30 วัน คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ ในวันที่ 21 ตุลาคมจะพิจารณาแล้วเสร็จ และวันที่ 22 ตุลาคมจะตรวจสอบความเรียบร้อย และจะนำรายงานนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต่อไป

ด้านนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการ iLaw กล่าวว่า กลุ่มไอลอว์จัดทำโครงการเพื่อต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประชาชนเข้าชื่อกว่าแสนราย และนำร่างไปยื่นต่อสภาผู้แทน บที่ไม่ปกติตระหนักรู้แล้วว่าระบบการเมืองไม่ปกติ เป็นอย่างไร และใช้ทุกช่องทางที่สามารถทำได้ เพื่อเรียกร้องให้ได้มาซึ่งระบอบการเมืองที่ปกติ ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐาน

“เป็นข้อเสนอที่เห็นต่างยาก และเป็นข้อเสนอที่ตัวแทนประชาชนที่อยู่ในสภาไม่สามารถปฏิเสธได้และไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ เพราะเป็นเนื้อหาที่ไม่สามารถหาเหตุผลในการปฏิเสธได้ ข้อเสนอนี้ เป็นข้อเสนอที่ประนีประนอมที่สุด เพื่อหาทางออกตามระบบทางกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งหากคนที่อยู่ในสภาโหวตไม่รับก็ควรอับอายต่อตัวเองและประชาชน หากมีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โหวตไม่รับจะทำให้ประชาชนโกรธเคืองมากขึ้น และถ้าโหวตไม่รับก็ต้องรับผิดชอบด้วย หากมีปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่มาจากความโกรธของประชาชนที่เพิ่มขึ้นและตัดสินใจกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายโคทม อารียา ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย กล่าวว่า วันที่ 14 ตุลาคม 2516 แม้จะผ่านมาแล้ว 47 ปี แต่มองว่าเหตุการณ์ตุลาฯ ยังไม่จบ และตลอดหลายปีที่ผ่านมายังคงมีทหารการเมืองกลับเข้ามาทั้งในปี 2535 และปีอื่น ๆ วันนี้ตนอายุมากแล้วไม่กล้าบอกว่าจะจบที่รุ่นเราหรือไม่ แต่แอบหวังว่าวันที่ 14 ตุลาคม 2563 จะเป็นวันเปิดฟ้าประชาธิปไตย ขับไล่ทหารการเมืองออกไป ยืนยันว่าส่วนตัวชอบท หาร แต่ทหารต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่มายุ่งเกี่ยวกับการเมือง

นายโคทม กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญเพราะผู้มีอภิสิทธิ์อ้างสิทธิ์ที่จะมีอำนาจต่อไป โดยสร้างวาทกรรมขอทำงานเพื่อประชาชน นี่คือวาทกรรมที่ถูกสร้างขึ้น รวมถึงวาทกรรมที่บอกว่าระบบที่มีอำนาจนี้ไม่มีใครเดือดร้อน มีคนเยอะแยะที่รักชาติที่สนับสนุนอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นวาทกรรมที่ร้ายแรงว่าใครที่ไม่สนับสนุนจะกลายเป็นฝ่ายใดการที่บอกว่าถ้าทำงานเต็มที่แล้ว ควรให้ประชาชนตัดสินด้วยการทำกติกาให้แฟร์หรือเป็นธรรม เลือกตั้งให้สุจริต และประชาชนจะบอกเองว่าจะเลือกใครมาเป็นผู้บริหารประเทศ แต่ตอนนี้คือการไม่เป็นธรรม และการจะบอกว่าไม่มีใครเดือดร้อน ก็อยากบอกด้วยเสียงอันดังว่า ทั้งเยาวชนและผู้ชราก็เดือดร้อน โดยคำว่าจบของผมคือขอเชิญทหารออกจากการเล่นการเมือง” นายโคทม กล่าว

“ต้องรื้อซากที่ผุพังและสร้างสิ่งที่เป็นความหวังแห่งอนาคต การรื้อซากคือไว้ใจประชาชน ให้ประชาชนตัดสินเลือกเดินไปข้างหน้า ซึ่งไม่ใช่การตีเช็คเปล่า เพราะสามารถดำเนินการได้โดยก้าวแรกประชาชนจะลงประชามติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกับฝ่ายค้านหรือไม่ ต่อมาคือการตั้งส.ส.ร. และจบท้ายด้วยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านที่ประชุมรัฐสภา” นายโคทม กล่าว

นายโคทม กล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญคือความแตกต่างของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน คือการแก้ม.256 ที่ร่างของรัฐบาลต้องใช้เสียง 3 ใน 5 ของส.ส.กับส.ว. จึงต้องหาเสียงสนับสนุนจากส.ว.เพิ่ม หากส.ว. ไม่เห็นด้วย แก้อย่างไรก็ไม่ผ่าน การแก้รัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ต้องยึดตามร่างของฝ่ายค้าน ที่ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของส.ส.กับส.ว. ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่ไหนแต่ไร นอกจากนี้ การการลงประชามติต้องตัดม.256 (8) กรณีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดํารงตําแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่หรืออํานาจของศาลหรือองค์กรอิสระ ซึ่งต้องให้อกเสียงประชามติเพื่อไม่ให้เกิดข้อโต้เถียงว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องผ่านประชามติเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่

นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งนำไปสู่การกำหนดโครงสร้างของสังคมผ่านการออกกฎหมาย นำไปสู่ความกินดีอยู่ดีของประชาชน ดังคำที่บอกว่าการเมืองดี กฎหมายจะดี และเศรษฐกิจจะดีตามไปด้วย ซึ่งนำไปสู่มาตรฐานของชีวิตและสังคม แต่หากการเมืองและกฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจจะแย่ดท้ายทำให้มาตรฐานชีวิตเราแย่ไปด้วย ซึ่งการเมืองดีมาจากการกำหนดโครงสร้างในรัฐธรรมนูญ

นายพรสันต์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาทางเศรษฐกิจที่กระทบกับการดำรงอยู่ของสังคมในประเทศไทย ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้ง เป็นสิ่งที่น่ากลัว โดยมีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าประเทศไทยมีความขัดแย้งมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ประเทศไทยมีความขัดแย้งสูงที่สุดในปี 2558 ซึ่งเป็นปีภายหลังการทำรัฐประหารและการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ถูกแฝงเข้ามาอยู่ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ดังนั้นโครงสร้างของรัฐธรรมนูญยังเป็นโครงสร้างเดิม

“การบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะสลายความขัดแย้ง จึงไม่ตรงกับความจริง เพราะความขัดแย้งในปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มลดลง คือปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ส่งผลกระทบต่อกฎหมายเศรษฐกิจและสังคม จึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่แก้ไขและทำให้ดีขึ้น แม้รัฐธรรมนูญปี 2560 จะทำประชามติทั้งในส่วนของการรับรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง แต่เป็นการทำประชามติภายใต้การจำกัดสิทธิเสรีภาพ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกยกร่างด้วยคนกลุ่มเดียวเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว จากคำพูดที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อพวกเรา สะท้อนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ใช่ของประชาชน” นายพรสันต์ กล่าว

นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่าปัญหาของประเทศมี 2 ปัญหา คือ การเมืองและเศรษฐกิจ หากแก้ปัญหาการเมืองไม่ได้ ปัญหาเศรษฐกิจไม่สามารถแก้ไขได้ หากบ้านเมืองวุ่นวายจะไม่มีใครกล้ามาลงทุน อีกทั้งอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะสร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญเป็นต้นตอของปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งดูได้จากในรัฐสภา คนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจะเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนคนที่มาจากการแต่งตั้งจะขัดขวาง ดังนั้น ทางออกของประเทศมีเรื่องเดียวคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหากไม่แก้ไข เลือกตั้งกี่ครั้งก็ได้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพีนธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นเผด็จการภายใต้เสื้อคุมเผด็จการ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่สืบทอดอำนาจและลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะการไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ ตนและคณะยังไม่ยอมถอดใจและจะเดินหน้าผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป เพราะถือว่าเป็นทางออกที่สันติและดีที่สุดของการออกจากความขัดแย้ง ไม่ใช่การมีรัฐบาลแห่งชาติ ดังนั้น สิ่งที่ต้องการเสนอคือส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน

“ยืนยันว่าไม่เข้าไปร่วมรัฐบาลแห่งชาติตามที่มีกระแสข่าวแน่นอน เพราะที่ผ่านมาได้พูดคุยกันในกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยหลายครั้ง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ขอให้ปิดประตูเรื่องนี้ไปเลย ส่วนกระแสข่าวการดิวลับให้คนในตระกูลชินวัตรมานั่งบริหารพรรคและกลับมาเป็นรัฐบาลแห่งชาติ ก็ไม่มี เป็นเพียงข่าวลือ ซึ่งไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน ยืนยันว่าไม่มีการเข้ามาครอบงำภายในพรรค หากจะมีรัฐบาลแห่งชาติ ต้องเป็นชาติหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย