ตั้ง.ส.ร.แก้รธน.เป็นทางออกดีที่สุด

อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 3 ต.ค.-วงสัมมนาแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกประเทศไทย นักวิชาการ ระบุต้องผลักดันตั้งส.ส.ร. ด้าน “ไอลอว์” ยันร่างแก้ไขของประชาชน เป็นข้อเสนอที่ประนีประนอมที่สุด


ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยร่วมกับสถาบันสร้างไทย จัดสัมมนาแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกประเทศไทย โดยมีนายโคทม อารียา ภาคีเพื่อรัฐธรรมนู ญประชาธิปไตย นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา นา ยวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เข้าร่วมสัมมนา

นายโภคิน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีวัตถุประสงค์ไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าชนะการเลือกตั้งได้ก็บริหารประเทศไม่ได้ เพราะองค์กรอิสระต่างๆ พร้อมจะยัดคดีให้ และวางบทเฉพาะกาลเพื่อจะอยู่ต่อไป คือประเด็นใหญ่ที่สุด ดังนั้น ประเทศจึงเดินไม่ได้ ผลของการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ทางเดียวที่จะเป็นทางออกในขณะนี้ ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน


“วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกปัญหาจะต้องจบที่ประชาชน โดยต้องตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) อีกครั้งหนึ่งเช่นเดียวกับปี 2539 โดยสิ่งที่เสนอคือส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน โดยเริ่มจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญและยกร่าง แต่ไม่แตะต้องหมวด1-2 จึงอยากเชิญชวนทุกฝ่ายผลักดันให้เกิดการตั้งส.ส.ร.และแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ เชื่อว่าไม่มีใครบังคับส.ส.ร.ได้ และส.ส.ร.เองไม่มีทางร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นเผด็จการแน่นอน” นายโภคิน กล่าว

ด้านนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกของประเทศ ตนรู้สึกว่ามีประตูที่เป็นทางเข้าสู้วิกฤติอย่างรุนแรงของประเทศ เพราะเรามีปัญหาทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ความขัดแย้งระหว่างวัย เพราะขณะนี้เด็กกับผู้ใหญ่คุยกันไม่รู้เรื่อง ปัญหาทางการเมืองรุนแรงมากในสภาฯ ซึ่งขณะที่อภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญเหมือนเราอยู่ท่ามกลางแล้วมีกระสุนมาจากทั้งสองข้าง ทั้งนี้ เรื่องรัฐธรรมนูญจะเป็นประตูสู่วิกฤติครั้งใหญ่มากกว่าปี 2535 แต่เป็นประตูเดียวที่จะออกจากวิกฤติเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องเลือกว่าจะเปิดเข้าหรือเปิดออก

“จุดเแข็งรัฐธรรมนูญปี 40 ที่เราทำสำเร็จเพราะไม่ต้องการรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ วันนี้ก็เช่นกัน ถ้าต้องการรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ก็ไม่มีทางทำได้ ผมไม่ห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญปี 2560 เพราะเขียนเอาไว้เป็นค่ายกลเจ็ดดาว ซึ่งแก้ไขไม่ได้ ดังนั้นเมื่อทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงจี้ไปที่มาตรา256 ที่เป็นประตูเปิดสิ่งเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 80 % เชื่อว่าจะแก้ได้ จากที่ฟังความเห็นทั้งจากฝ่ายค้าน รัฐบาลและส.ว. อาจจะเป็นฉบับที่ 1 หรือ 2 ยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะรับหลักการในวาระแรกแน่นอน” ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว


นายนิกร กล่าวว่า การตั้งกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ ที่กำหนดระยะเวลาศึกษาไว้ 30 วัน คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ ในวันที่ 21 ตุลาคมจะพิจารณาแล้วเสร็จ และวันที่ 22 ตุลาคมจะตรวจสอบความเรียบร้อย และจะนำรายงานนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต่อไป

ด้านนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการ iLaw กล่าวว่า กลุ่มไอลอว์จัดทำโครงการเพื่อต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประชาชนเข้าชื่อกว่าแสนราย และนำร่างไปยื่นต่อสภาผู้แทน บที่ไม่ปกติตระหนักรู้แล้วว่าระบบการเมืองไม่ปกติ เป็นอย่างไร และใช้ทุกช่องทางที่สามารถทำได้ เพื่อเรียกร้องให้ได้มาซึ่งระบอบการเมืองที่ปกติ ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐาน

“เป็นข้อเสนอที่เห็นต่างยาก และเป็นข้อเสนอที่ตัวแทนประชาชนที่อยู่ในสภาไม่สามารถปฏิเสธได้และไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ เพราะเป็นเนื้อหาที่ไม่สามารถหาเหตุผลในการปฏิเสธได้ ข้อเสนอนี้ เป็นข้อเสนอที่ประนีประนอมที่สุด เพื่อหาทางออกตามระบบทางกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งหากคนที่อยู่ในสภาโหวตไม่รับก็ควรอับอายต่อตัวเองและประชาชน หากมีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โหวตไม่รับจะทำให้ประชาชนโกรธเคืองมากขึ้น และถ้าโหวตไม่รับก็ต้องรับผิดชอบด้วย หากมีปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่มาจากความโกรธของประชาชนที่เพิ่มขึ้นและตัดสินใจกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายโคทม อารียา ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย กล่าวว่า วันที่ 14 ตุลาคม 2516 แม้จะผ่านมาแล้ว 47 ปี แต่มองว่าเหตุการณ์ตุลาฯ ยังไม่จบ และตลอดหลายปีที่ผ่านมายังคงมีทหารการเมืองกลับเข้ามาทั้งในปี 2535 และปีอื่น ๆ วันนี้ตนอายุมากแล้วไม่กล้าบอกว่าจะจบที่รุ่นเราหรือไม่ แต่แอบหวังว่าวันที่ 14 ตุลาคม 2563 จะเป็นวันเปิดฟ้าประชาธิปไตย ขับไล่ทหารการเมืองออกไป ยืนยันว่าส่วนตัวชอบท หาร แต่ทหารต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่มายุ่งเกี่ยวกับการเมือง

นายโคทม กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญเพราะผู้มีอภิสิทธิ์อ้างสิทธิ์ที่จะมีอำนาจต่อไป โดยสร้างวาทกรรมขอทำงานเพื่อประชาชน นี่คือวาทกรรมที่ถูกสร้างขึ้น รวมถึงวาทกรรมที่บอกว่าระบบที่มีอำนาจนี้ไม่มีใครเดือดร้อน มีคนเยอะแยะที่รักชาติที่สนับสนุนอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นวาทกรรมที่ร้ายแรงว่าใครที่ไม่สนับสนุนจะกลายเป็นฝ่ายใดการที่บอกว่าถ้าทำงานเต็มที่แล้ว ควรให้ประชาชนตัดสินด้วยการทำกติกาให้แฟร์หรือเป็นธรรม เลือกตั้งให้สุจริต และประชาชนจะบอกเองว่าจะเลือกใครมาเป็นผู้บริหารประเทศ แต่ตอนนี้คือการไม่เป็นธรรม และการจะบอกว่าไม่มีใครเดือดร้อน ก็อยากบอกด้วยเสียงอันดังว่า ทั้งเยาวชนและผู้ชราก็เดือดร้อน โดยคำว่าจบของผมคือขอเชิญทหารออกจากการเล่นการเมือง” นายโคทม กล่าว

“ต้องรื้อซากที่ผุพังและสร้างสิ่งที่เป็นความหวังแห่งอนาคต การรื้อซากคือไว้ใจประชาชน ให้ประชาชนตัดสินเลือกเดินไปข้างหน้า ซึ่งไม่ใช่การตีเช็คเปล่า เพราะสามารถดำเนินการได้โดยก้าวแรกประชาชนจะลงประชามติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกับฝ่ายค้านหรือไม่ ต่อมาคือการตั้งส.ส.ร. และจบท้ายด้วยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านที่ประชุมรัฐสภา” นายโคทม กล่าว

นายโคทม กล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญคือความแตกต่างของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน คือการแก้ม.256 ที่ร่างของรัฐบาลต้องใช้เสียง 3 ใน 5 ของส.ส.กับส.ว. จึงต้องหาเสียงสนับสนุนจากส.ว.เพิ่ม หากส.ว. ไม่เห็นด้วย แก้อย่างไรก็ไม่ผ่าน การแก้รัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ต้องยึดตามร่างของฝ่ายค้าน ที่ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของส.ส.กับส.ว. ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่ไหนแต่ไร นอกจากนี้ การการลงประชามติต้องตัดม.256 (8) กรณีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดํารงตําแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่หรืออํานาจของศาลหรือองค์กรอิสระ ซึ่งต้องให้อกเสียงประชามติเพื่อไม่ให้เกิดข้อโต้เถียงว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องผ่านประชามติเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่

นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งนำไปสู่การกำหนดโครงสร้างของสังคมผ่านการออกกฎหมาย นำไปสู่ความกินดีอยู่ดีของประชาชน ดังคำที่บอกว่าการเมืองดี กฎหมายจะดี และเศรษฐกิจจะดีตามไปด้วย ซึ่งนำไปสู่มาตรฐานของชีวิตและสังคม แต่หากการเมืองและกฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจจะแย่ดท้ายทำให้มาตรฐานชีวิตเราแย่ไปด้วย ซึ่งการเมืองดีมาจากการกำหนดโครงสร้างในรัฐธรรมนูญ

นายพรสันต์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาทางเศรษฐกิจที่กระทบกับการดำรงอยู่ของสังคมในประเทศไทย ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้ง เป็นสิ่งที่น่ากลัว โดยมีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าประเทศไทยมีความขัดแย้งมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ประเทศไทยมีความขัดแย้งสูงที่สุดในปี 2558 ซึ่งเป็นปีภายหลังการทำรัฐประหารและการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ถูกแฝงเข้ามาอยู่ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ดังนั้นโครงสร้างของรัฐธรรมนูญยังเป็นโครงสร้างเดิม

“การบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะสลายความขัดแย้ง จึงไม่ตรงกับความจริง เพราะความขัดแย้งในปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มลดลง คือปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ส่งผลกระทบต่อกฎหมายเศรษฐกิจและสังคม จึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่แก้ไขและทำให้ดีขึ้น แม้รัฐธรรมนูญปี 2560 จะทำประชามติทั้งในส่วนของการรับรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง แต่เป็นการทำประชามติภายใต้การจำกัดสิทธิเสรีภาพ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกยกร่างด้วยคนกลุ่มเดียวเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว จากคำพูดที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อพวกเรา สะท้อนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ใช่ของประชาชน” นายพรสันต์ กล่าว

นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่าปัญหาของประเทศมี 2 ปัญหา คือ การเมืองและเศรษฐกิจ หากแก้ปัญหาการเมืองไม่ได้ ปัญหาเศรษฐกิจไม่สามารถแก้ไขได้ หากบ้านเมืองวุ่นวายจะไม่มีใครกล้ามาลงทุน อีกทั้งอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะสร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญเป็นต้นตอของปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งดูได้จากในรัฐสภา คนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจะเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนคนที่มาจากการแต่งตั้งจะขัดขวาง ดังนั้น ทางออกของประเทศมีเรื่องเดียวคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหากไม่แก้ไข เลือกตั้งกี่ครั้งก็ได้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพีนธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นเผด็จการภายใต้เสื้อคุมเผด็จการ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่สืบทอดอำนาจและลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะการไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ ตนและคณะยังไม่ยอมถอดใจและจะเดินหน้าผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป เพราะถือว่าเป็นทางออกที่สันติและดีที่สุดของการออกจากความขัดแย้ง ไม่ใช่การมีรัฐบาลแห่งชาติ ดังนั้น สิ่งที่ต้องการเสนอคือส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน

“ยืนยันว่าไม่เข้าไปร่วมรัฐบาลแห่งชาติตามที่มีกระแสข่าวแน่นอน เพราะที่ผ่านมาได้พูดคุยกันในกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยหลายครั้ง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ขอให้ปิดประตูเรื่องนี้ไปเลย ส่วนกระแสข่าวการดิวลับให้คนในตระกูลชินวัตรมานั่งบริหารพรรคและกลับมาเป็นรัฐบาลแห่งชาติ ก็ไม่มี เป็นเพียงข่าวลือ ซึ่งไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน ยืนยันว่าไม่มีการเข้ามาครอบงำภายในพรรค หากจะมีรัฐบาลแห่งชาติ ต้องเป็นชาติหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย