ตั้ง.ส.ร.แก้รธน.เป็นทางออกดีที่สุด

อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 3 ต.ค.-วงสัมมนาแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกประเทศไทย นักวิชาการ ระบุต้องผลักดันตั้งส.ส.ร. ด้าน “ไอลอว์” ยันร่างแก้ไขของประชาชน เป็นข้อเสนอที่ประนีประนอมที่สุด


ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยร่วมกับสถาบันสร้างไทย จัดสัมมนาแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกประเทศไทย โดยมีนายโคทม อารียา ภาคีเพื่อรัฐธรรมนู ญประชาธิปไตย นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา นา ยวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เข้าร่วมสัมมนา

นายโภคิน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีวัตถุประสงค์ไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าชนะการเลือกตั้งได้ก็บริหารประเทศไม่ได้ เพราะองค์กรอิสระต่างๆ พร้อมจะยัดคดีให้ และวางบทเฉพาะกาลเพื่อจะอยู่ต่อไป คือประเด็นใหญ่ที่สุด ดังนั้น ประเทศจึงเดินไม่ได้ ผลของการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ทางเดียวที่จะเป็นทางออกในขณะนี้ ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน


“วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกปัญหาจะต้องจบที่ประชาชน โดยต้องตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) อีกครั้งหนึ่งเช่นเดียวกับปี 2539 โดยสิ่งที่เสนอคือส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน โดยเริ่มจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญและยกร่าง แต่ไม่แตะต้องหมวด1-2 จึงอยากเชิญชวนทุกฝ่ายผลักดันให้เกิดการตั้งส.ส.ร.และแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ เชื่อว่าไม่มีใครบังคับส.ส.ร.ได้ และส.ส.ร.เองไม่มีทางร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นเผด็จการแน่นอน” นายโภคิน กล่าว

ด้านนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกของประเทศ ตนรู้สึกว่ามีประตูที่เป็นทางเข้าสู้วิกฤติอย่างรุนแรงของประเทศ เพราะเรามีปัญหาทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ความขัดแย้งระหว่างวัย เพราะขณะนี้เด็กกับผู้ใหญ่คุยกันไม่รู้เรื่อง ปัญหาทางการเมืองรุนแรงมากในสภาฯ ซึ่งขณะที่อภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญเหมือนเราอยู่ท่ามกลางแล้วมีกระสุนมาจากทั้งสองข้าง ทั้งนี้ เรื่องรัฐธรรมนูญจะเป็นประตูสู่วิกฤติครั้งใหญ่มากกว่าปี 2535 แต่เป็นประตูเดียวที่จะออกจากวิกฤติเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องเลือกว่าจะเปิดเข้าหรือเปิดออก

“จุดเแข็งรัฐธรรมนูญปี 40 ที่เราทำสำเร็จเพราะไม่ต้องการรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ วันนี้ก็เช่นกัน ถ้าต้องการรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ก็ไม่มีทางทำได้ ผมไม่ห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญปี 2560 เพราะเขียนเอาไว้เป็นค่ายกลเจ็ดดาว ซึ่งแก้ไขไม่ได้ ดังนั้นเมื่อทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงจี้ไปที่มาตรา256 ที่เป็นประตูเปิดสิ่งเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 80 % เชื่อว่าจะแก้ได้ จากที่ฟังความเห็นทั้งจากฝ่ายค้าน รัฐบาลและส.ว. อาจจะเป็นฉบับที่ 1 หรือ 2 ยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะรับหลักการในวาระแรกแน่นอน” ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว


นายนิกร กล่าวว่า การตั้งกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ ที่กำหนดระยะเวลาศึกษาไว้ 30 วัน คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ ในวันที่ 21 ตุลาคมจะพิจารณาแล้วเสร็จ และวันที่ 22 ตุลาคมจะตรวจสอบความเรียบร้อย และจะนำรายงานนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต่อไป

ด้านนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการ iLaw กล่าวว่า กลุ่มไอลอว์จัดทำโครงการเพื่อต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประชาชนเข้าชื่อกว่าแสนราย และนำร่างไปยื่นต่อสภาผู้แทน บที่ไม่ปกติตระหนักรู้แล้วว่าระบบการเมืองไม่ปกติ เป็นอย่างไร และใช้ทุกช่องทางที่สามารถทำได้ เพื่อเรียกร้องให้ได้มาซึ่งระบอบการเมืองที่ปกติ ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐาน

“เป็นข้อเสนอที่เห็นต่างยาก และเป็นข้อเสนอที่ตัวแทนประชาชนที่อยู่ในสภาไม่สามารถปฏิเสธได้และไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ เพราะเป็นเนื้อหาที่ไม่สามารถหาเหตุผลในการปฏิเสธได้ ข้อเสนอนี้ เป็นข้อเสนอที่ประนีประนอมที่สุด เพื่อหาทางออกตามระบบทางกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งหากคนที่อยู่ในสภาโหวตไม่รับก็ควรอับอายต่อตัวเองและประชาชน หากมีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โหวตไม่รับจะทำให้ประชาชนโกรธเคืองมากขึ้น และถ้าโหวตไม่รับก็ต้องรับผิดชอบด้วย หากมีปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่มาจากความโกรธของประชาชนที่เพิ่มขึ้นและตัดสินใจกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายโคทม อารียา ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย กล่าวว่า วันที่ 14 ตุลาคม 2516 แม้จะผ่านมาแล้ว 47 ปี แต่มองว่าเหตุการณ์ตุลาฯ ยังไม่จบ และตลอดหลายปีที่ผ่านมายังคงมีทหารการเมืองกลับเข้ามาทั้งในปี 2535 และปีอื่น ๆ วันนี้ตนอายุมากแล้วไม่กล้าบอกว่าจะจบที่รุ่นเราหรือไม่ แต่แอบหวังว่าวันที่ 14 ตุลาคม 2563 จะเป็นวันเปิดฟ้าประชาธิปไตย ขับไล่ทหารการเมืองออกไป ยืนยันว่าส่วนตัวชอบท หาร แต่ทหารต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่มายุ่งเกี่ยวกับการเมือง

นายโคทม กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญเพราะผู้มีอภิสิทธิ์อ้างสิทธิ์ที่จะมีอำนาจต่อไป โดยสร้างวาทกรรมขอทำงานเพื่อประชาชน นี่คือวาทกรรมที่ถูกสร้างขึ้น รวมถึงวาทกรรมที่บอกว่าระบบที่มีอำนาจนี้ไม่มีใครเดือดร้อน มีคนเยอะแยะที่รักชาติที่สนับสนุนอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นวาทกรรมที่ร้ายแรงว่าใครที่ไม่สนับสนุนจะกลายเป็นฝ่ายใดการที่บอกว่าถ้าทำงานเต็มที่แล้ว ควรให้ประชาชนตัดสินด้วยการทำกติกาให้แฟร์หรือเป็นธรรม เลือกตั้งให้สุจริต และประชาชนจะบอกเองว่าจะเลือกใครมาเป็นผู้บริหารประเทศ แต่ตอนนี้คือการไม่เป็นธรรม และการจะบอกว่าไม่มีใครเดือดร้อน ก็อยากบอกด้วยเสียงอันดังว่า ทั้งเยาวชนและผู้ชราก็เดือดร้อน โดยคำว่าจบของผมคือขอเชิญทหารออกจากการเล่นการเมือง” นายโคทม กล่าว

“ต้องรื้อซากที่ผุพังและสร้างสิ่งที่เป็นความหวังแห่งอนาคต การรื้อซากคือไว้ใจประชาชน ให้ประชาชนตัดสินเลือกเดินไปข้างหน้า ซึ่งไม่ใช่การตีเช็คเปล่า เพราะสามารถดำเนินการได้โดยก้าวแรกประชาชนจะลงประชามติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกับฝ่ายค้านหรือไม่ ต่อมาคือการตั้งส.ส.ร. และจบท้ายด้วยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านที่ประชุมรัฐสภา” นายโคทม กล่าว

นายโคทม กล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญคือความแตกต่างของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน คือการแก้ม.256 ที่ร่างของรัฐบาลต้องใช้เสียง 3 ใน 5 ของส.ส.กับส.ว. จึงต้องหาเสียงสนับสนุนจากส.ว.เพิ่ม หากส.ว. ไม่เห็นด้วย แก้อย่างไรก็ไม่ผ่าน การแก้รัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ต้องยึดตามร่างของฝ่ายค้าน ที่ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของส.ส.กับส.ว. ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่ไหนแต่ไร นอกจากนี้ การการลงประชามติต้องตัดม.256 (8) กรณีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดํารงตําแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่หรืออํานาจของศาลหรือองค์กรอิสระ ซึ่งต้องให้อกเสียงประชามติเพื่อไม่ให้เกิดข้อโต้เถียงว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องผ่านประชามติเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่

นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งนำไปสู่การกำหนดโครงสร้างของสังคมผ่านการออกกฎหมาย นำไปสู่ความกินดีอยู่ดีของประชาชน ดังคำที่บอกว่าการเมืองดี กฎหมายจะดี และเศรษฐกิจจะดีตามไปด้วย ซึ่งนำไปสู่มาตรฐานของชีวิตและสังคม แต่หากการเมืองและกฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจจะแย่ดท้ายทำให้มาตรฐานชีวิตเราแย่ไปด้วย ซึ่งการเมืองดีมาจากการกำหนดโครงสร้างในรัฐธรรมนูญ

นายพรสันต์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาทางเศรษฐกิจที่กระทบกับการดำรงอยู่ของสังคมในประเทศไทย ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้ง เป็นสิ่งที่น่ากลัว โดยมีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าประเทศไทยมีความขัดแย้งมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ประเทศไทยมีความขัดแย้งสูงที่สุดในปี 2558 ซึ่งเป็นปีภายหลังการทำรัฐประหารและการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ถูกแฝงเข้ามาอยู่ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ดังนั้นโครงสร้างของรัฐธรรมนูญยังเป็นโครงสร้างเดิม

“การบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะสลายความขัดแย้ง จึงไม่ตรงกับความจริง เพราะความขัดแย้งในปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มลดลง คือปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ส่งผลกระทบต่อกฎหมายเศรษฐกิจและสังคม จึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่แก้ไขและทำให้ดีขึ้น แม้รัฐธรรมนูญปี 2560 จะทำประชามติทั้งในส่วนของการรับรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง แต่เป็นการทำประชามติภายใต้การจำกัดสิทธิเสรีภาพ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกยกร่างด้วยคนกลุ่มเดียวเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว จากคำพูดที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อพวกเรา สะท้อนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ใช่ของประชาชน” นายพรสันต์ กล่าว

นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่าปัญหาของประเทศมี 2 ปัญหา คือ การเมืองและเศรษฐกิจ หากแก้ปัญหาการเมืองไม่ได้ ปัญหาเศรษฐกิจไม่สามารถแก้ไขได้ หากบ้านเมืองวุ่นวายจะไม่มีใครกล้ามาลงทุน อีกทั้งอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะสร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญเป็นต้นตอของปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งดูได้จากในรัฐสภา คนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจะเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนคนที่มาจากการแต่งตั้งจะขัดขวาง ดังนั้น ทางออกของประเทศมีเรื่องเดียวคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหากไม่แก้ไข เลือกตั้งกี่ครั้งก็ได้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพีนธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นเผด็จการภายใต้เสื้อคุมเผด็จการ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่สืบทอดอำนาจและลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะการไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ ตนและคณะยังไม่ยอมถอดใจและจะเดินหน้าผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป เพราะถือว่าเป็นทางออกที่สันติและดีที่สุดของการออกจากความขัดแย้ง ไม่ใช่การมีรัฐบาลแห่งชาติ ดังนั้น สิ่งที่ต้องการเสนอคือส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน

“ยืนยันว่าไม่เข้าไปร่วมรัฐบาลแห่งชาติตามที่มีกระแสข่าวแน่นอน เพราะที่ผ่านมาได้พูดคุยกันในกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยหลายครั้ง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ขอให้ปิดประตูเรื่องนี้ไปเลย ส่วนกระแสข่าวการดิวลับให้คนในตระกูลชินวัตรมานั่งบริหารพรรคและกลับมาเป็นรัฐบาลแห่งชาติ ก็ไม่มี เป็นเพียงข่าวลือ ซึ่งไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน ยืนยันว่าไม่มีการเข้ามาครอบงำภายในพรรค หากจะมีรัฐบาลแห่งชาติ ต้องเป็นชาติหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

วันเกิดอนุทิน

แกนนำรัฐบาลร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.- แกนนำรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น สส.อวยพร หลังเลือกตั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปี พรรคภูมิใจไทยจัดงานวันเกิดครบรอบ 59 ปี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา, เศรณี และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล บุตรชายและบุตรสาวของนายอนุทิน, ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และเป่าเค้ก […]

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]