fbpx

ชี้การชุมนุมใหญ่ 14 ตุลาฯ มีแนวโน้มยืดเยื้อ

กรุงเทพฯ 26 ก.ย.-นักวิชาการมองการชุมนุมใหญ่ 14 ตุลาคมนี้ มีแนวโน้มยืดเยื้อ รุนแรง ขยายฐานมวลชน หลัง ส.ส.รัฐบาล-ส.ว.เห็นชอบตั้ง กมธ.ศึกษาญัตติแก้ รธน. ชี้ไม่ต่างกับการคว่ำ 6 ญัตติแก้ไข รธน.


นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ 14 ตุลาคมนี้ ว่า การนัดชุมนุมใหญ่ครั้งนี้มีส่วนสัมพันธ์กับการเมืองในสภาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ญัตติก่อนรับหลักการในสมัยประชุมหน้า ซึ่งเป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่าการเมืองในสภาฯ เป็นตัวตัดสินชี้วัดที่สำคัญกับการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในการชุมนุมเดือนตุลาคมนี้

นายยุทธพร กล่าวว่า อีกทั้งการประชุมร่วมรัฐสภา แสดงถึงบรรยากาศความขัดแย้งที่บดบังสาระหลักของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะความขัดแย้งเรื่องทัศนคติทางการเมืองของช่วงชั้นวัย และเป็นการต่อสู้ทางความคิด เป็นภาพเห็นว่าความขัดแย้งนอกสภาฯ ถูกถ่ายทอดเข้าไปในสภาฯ รวมถึงความขัดแย้งภายในสภาฯ ก็ถูกถ่ายทอดกลับไปนอกสภาฯ


“ยิ่งทางออกของการลงมติออกมาในรูปแบบการตั้งคณะกรรมาธิการฯ ดูจะไม่ต่างจากการคว่ำทั้ง 6 ญัตติ ซึ่งจะทำให้การขยายตัวฐานมวลชนเกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวางขึ้น เนื่องจากกลุ่มการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมถึงกลุ่มแนวร่วมอื่น ต่างเห็นตรงกันว่ารัฐธรรมนูญเป็นหัวใจหลักที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ จึงเห็นว่าการตั้ง กมธ.ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะทำให้การชุมนุมในเดือนตุลาคม เป็นรูปแบบการปักหลักพักค้าง หลังแกนนำประกาศว่าจะชุมนุม 7 วัน 7 คืน หาก ส.ว.คว่ำญัตติ หรือ ชุมนุมจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ตรงนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะชี้ให้เห็นว่าทิศทางการเมืองจะเป็นไปอย่างไร” นายยุทธพร กล่าว

นายยุทธพร กล่าวอีกว่า ทางออกที่ดีจากนี้รัฐสภาควรจะตัดสินใจรับหลักการอย่างน้อยในญัตติร่างที่หนึ่งและร่างที่สองของฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ไขมาตรา 256 เปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แม้ญัตติที่เหลือจะตกไป และอาจมีการชุมนุมเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่ก็จะไม่มีการขยายความให้กว้างขวาง จึงต้องติดตามต่อว่าเมื่อการเมืองในสภาฯ ไม่สามารถตอบสนองได้ เมื่อการตอบสนองไม่ทันต่อเหตุการณ์ จึงเกิดปรากฏการณ์มวลชนาธิปไตย ที่มวลชนต้องการเข้าสู่อำนาจรัฐเอง ต้องการกำหนดอนาคตด้วยตัวเอง เมื่อถึงตรงนั้นจะเกิดวิกฤติรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย การเมืองในระบบไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ อาจทำให้เกิดปรากฏการณ์ของมวลชนเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน

“วันนี้ต้องบอกว่ามีความเสี่ยงที่การชุมนุมจะเกิดความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคมนี้น่าจะมีการขยายฐานของกลุ่มผู้ชุมนุม ทางแนวร่วม และประชาชน จะทำให้จำนวนมวลชนมากขึ้น จะเกิดผลข้างเคียงต่อปรากฏการณ์ ส่งผลเรื่องไม่สามารถควบคุมยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว หรือกำกับเรื่องความรุนแรงได้ แม้ที่ผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมและฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐพยายามจะประคับประคองรักษาสถาณการณ์เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงจากฝ่ายตัวเอง” นายยุทธพร กล่าว


นายยุทธพร กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้มองว่าโอกาสที่ ส.ว.จะไม่เห็นด้วยกับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นไปได้มากจากท่าทีที่เกิดขึ้น เพราะ ส.ว.มากกว่าร้อยละ 80 อภิปรายไม่เห็นด้วย อีกทั้งมีข้ออ้างว่าไม่มีเวลาในการศึกษารายละเอียดของญัตติต่าง ๆ ทั้งที่การแก้ไขมีประเด็นไม่มาก และเป็นการแก้ไขเพียงรายมาตรา รวมถึงการเห็นชอบในการตั้งกรรมาธิการฯ ทั้งที่มีการศึกษาจากชุดของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ทำให้เป็นประเด็นที่หลายคนเชื่อว่า ส.ว.จะลงมติไม่เห็นชอบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว