ส.ว.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบ 64

รัฐสภา 21 ก.ย.-ประชุมวุฒิสภาเห็นชอบพ.ร.บ.งบประมาณ 64 เป็นเอกฉันท์ วงเงิน 3.285 ล้านล้านบาท ขณะ “วันชัย” แนะเร่งบังคับคดีจำนำข้าว นำมาเงินใช้แก้วิกฤติโควิด


การประชุมวุฒิสภาวันนี้ (21 ก.ย.) มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานุวฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วงเงินงบประมาณ 3,285,000 ล้านบาท ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรผ่านความเห็นชอบวาระ 3 แล้ว โดยปรับลดงบประมาณลงกว่า 31,000 ล้านบาท

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ชี้แจงว่า การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลยึดตามแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศและนโยบายด้านต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการบูรณาการทุกมิติและเพื่อเป็นกรอบในการขับเคลื่อนแผนงานโครงการให้มีความเชื่อมโยงสอดคล้อง เกิดความคุ้มค่าและไม่ซ้ำซ้อน ให้การขับเคลื่อนการดำเนินการของรัฐบาลเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่รัฐบาลกำหนดไว้


“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด – 19 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน วางรากฐานของประเทศสู่อนาคต พร้อมส่งเสริมกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนอย่างเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพด้านการคลัง โดยการจัดสรรงบไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การถ่ายโอนภารกิจด้านบริการสาธารณะระดับท้องถิ่นให้บริการประชาชนได้ดียิ่งขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สอดคล้องกับแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วุฒิสภา กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคโควิด -19 เป็นภัยพิบัติเกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้น การจัดสรรงบประมาณจึงคำนึงถึงการฟื้นฟูภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่จะต้องปรับตัวบนพื้นฐานการดำรงชีวิตใหม่ ภายใต้หลักปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นสำคัญ

ขณะที่นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. อภิปรายงบประมาณรายจ่ายของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์แบบ งบประมาณ กรมกิจการผู้สูงอายุ 192 ล้านบาท ดูแลผู้สูงอายุ 13 ล้านคน ต้องดึงศักยภาพผู้สูงอายุในแต่ละชุมชนเพื่อมาดูแลกันเอง ส่วนงบประมาณสภาเด็กและเยาวชน 220 ล้านบาท แต่ส.ส.ตัดงบประมาณออกไป 41 ล้านบาท ซึ่งคิดว่าจะทำให้เงินไม่พอจ่ายในการทำงาน เพราะที่ตั้งอยู่ก็มีไม่พออยู่แล้ว หวังว่าจะนำงบกลางมาชดเชย ไม่เช่นนั้นจะพัฒนาเด็กได้อย่างไร ส.ว.แก้งบประมาณไม่ได้ แต่ตั้งข้อสังเกตได้และเชื่อว่าเสียงส.ว.ดังพอ


ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. อภิปรายเรื่องประชากรกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ว่าปัจจุบันเกิดวิกฤติเด็กเกิดน้อย แต่คนแก่แก่นาน กองทุนเลี้ยงชีพผู้สูงอายุและชมรมผู้สูงอายุที่กระจายอยู่ทั่วประเทศจึงเป็นประโยชน์ ขณะที่หน่วยงานตอบสนองช้าและไม่ทันการณ์ กระทรวงสาธารณสุขมีงบผู้สูงอายุที่ซ่อนอยู่ในงบเหมาจ่ายรายหัว แต่ไม่สะท้อนต่อการแก้ปัญหา สิ่งที่ตนอยากเห็นในปีงบประมาณ 2565 คือ อยากให้ตั้งงบประมาณบูรณาการของผู้สูงอายุด้วย เนื่องจากงบประมาณของผู้สูงอายุซ่อนอยู่ในกระทรวงต่างๆ แต่เมื่อไม่บูรณาการก็จะเกิดความซ้ำซ้อน

ส่วนนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. อภิปรายถึงข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เรื่องการให้ความรู้เรื่องการเงินและเทคโนโลยีดิจิทัล ว่า เนื่องจากความเป็นอยู่ ภาระหนี้สินของประชาชนกำลังเป็นปัญหาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 การเงินเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ถ้ารัฐจัดการอบรมด้านนี้ จะทำให้ประชาชนรู้จักกันออม การปันเงิน หรือแบ่งสันปันส่วนอย่างไร สะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมารัฐปล่อยปะละเลย ประเด็นต่อมาคือการชดใช้ทางแพ่งตามคำพิพากษาของศาลและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ กรมบังคับคดีควรเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงในการบังคับคดีประเภทต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเงินจากการบังคับคดีเป็นจำนวนมาก แต่ปล่อยปละละเลย เช่น คดีจำนำข้าว ศาลพิพากษาต้องได้เงินหลายหมื่นล้าน แต่ยังไม่ไปถึงไหน รวมทั้งคดีสำคัญ เช่น คดีคลองด่าน แต่ละเลย ทั้งที่เงินเหล่านี้ได้มาจะเป็นเงินสำคัญที่เอามาใช้สอยได้

“ส่วนงบประมาณเพื่อการปฏิรูปประเทศ ตามหมวด 16 ที่ต้องการให้ประเทศชาติมีความสงบสุข ปรองดอง ขจัดความเหลื่อมล้ำ เห็นว่าเป้าหมายการปฏิรูปประเทศเขียนไว้ดี แม้โควิดมาหลายอย่างจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่งบประมาณที่จะทำเรื่องนี้ไม่ได้มีตรง ๆ กลับไปซ่อนไว้ตรงโน้นตรงนี้ไม่ได้สะท้อนให้เห็นว่าจะปฏิรูปชัดเจน เช่น การปฏิรูปการเมืองที่มีเป้าหมายให้ประชาธิปไตยมั่นคงและการเลือกตั้งสุจริต หรือแม้กระทั่งการปราบปรามการทุจริตก็จัดอยู่ในงบประมาณกระต่างๆ เหมือนที่จัดไว้ตามธรรมดาทุกปี ไม่ได้มีลักษณะในการปฏิรูปทางการเมือง” นายวันชัย กล่าว

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.อภิปรายงบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยว่า รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งเป็นหัวใจของการปกครองส่วนท้องถิ่น แต่การจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน้อยกว่าทุกปี ขณะเดียวกันรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องถูกหักไปจากการบริการสาธารณะด้านการศึกษาและด้านสังคมไปอีก 17.88% เหลือเพียง 24.23% ซึ่งต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดให้มีรายได้ 25% แต่ตนก็ชื่นชมรัฐบาลที่จัดสรรเงินกลับมาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10,650 ล้านบาท หลังจากถูกส.ส.ตัดงบประมาณจากวาระที่ 2 ซึ่งจะบรรเทาการขาดงบประมาณได้ระดับหนึ่ง

“ตามมาตรา 33 การจัดสรรงบประมาณให้เทศบาลเมือง เทศบาลนคร เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานคร รวม 224 หน่วยงาน ได้รับผลกระทบมาก แต่กลับถูกตัดจนงบประมาณลดลง 1,796 ล้านบาท ซึ่งผมมีข้อเสนอให้ปรับปรุงรายได้ของอปท.โดยเสริมสร้างรายได้และโครงสร้างภาษี หาแนวทางการเพิ่มรายได้ แบ่งภาษีที่รัฐบาลเก็บได้ให้ อปท. และถ้าลดหย่อนภาษีให้ประชาชนก็ควรนำเงินกู้ไปชดเชยให้กับ อปท. ควรเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นรัฐกระจายอำนาจ และเชื่อมั่นในศักยภาพของอปท. ผมไม่อยากเชื่ออย่างที่นักการเมืองหลายคนพูดว่ารัฐบาลบอนไซอปท.” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว

ด้านนายออน กาจกระโทก ส.ว. อภิปรายงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการถูกตัดออกไปตั้งแต่ปี 2563-2564 รวมกว่าหมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับงบประมาณอปท. ที่ไม่ถึง 25% ตามกฎหมาย ก็นำเงินอาหารเสริมนมกับอาหารกลางวันของกระทรวงศึกษาไปเติมให้อปท. เพื่อเป็นทางผ่านไปให้โรงเรียน แล้วเวลาเปิดเทอมครูก็ต้องไปหาเงินสำรองหรือเซ็นค่าวัตถุดิบทำกับข้าวให้นักเรียน ขอตั้งคำถาม ว่าทำไมไม่เอาเงินก้อนนี้ไปที่กระทรวงศึกษาธิการแล้วโอนเงินไปให้โรงเรียนโดยตรงเลย ขณะเดียวกันการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในช่วงโควิด ต้องจัดหาสื่อและอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ให้โรงเรียนที่ห่างไกล

จากนั้น ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเอกฉันท์ เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ด้วยเสียง 217 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง หลังจากใช้เวลาอภิปรายนาน 6 ชั่วโมง 30 นาที โดยนายสุพัฒนพงษ์ ได้กล่าวขอบคุณและยืนยันว่าจะนำข้อสังเกตไปพิจารณาประกอบการใช้งบประมาณ โดยจะใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามนโยบาย ประชาชนมั่งคั่งและยั่งยืน ซึ่งหลังจากนี้นายกรัฐมนตรีจะนำร่างดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับร่าง เพื่อให้ลงพระปรมาภิไธยและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย