ไฟเขียวงบกลาง64 แก้ภัยแล้ง น้ำท่วม

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย.-ครม.ไฟเขียวใช้งบกลางปี 64 วงเงิน 426 ล้านบาท ซื้อครุภัณฑ์เครื่องจักรกล รับมือแก้ปัญหาภัยแล้ง-อุทกภัย นายกฯ ย้ำระวังเรื่องทุจริต ต้องโปร่งใส


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องจักรกลสำหรับรองรับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งวงเงิน 426.472 ล้านบาท รวม 24 รายการ จำนวน 32 เครื่อง ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)เสนอ ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบก่อนหน้านี้แล้ว

“กรมชลประทานรายงานว่า เนื่องจากปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นประจำและมีแนวโน้มการเกิดซ้ำมากขึ้นทุกปี จึงมีความจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเครื่องมือเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการเพื่อให้การเตรียมการรองรับปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูฝนปี 2564 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล รวมทั้งเป็นการป้องกันกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ที่อาจเกิดขึ้นเช่นเดียวกับช่วงเดือนธันวาคมปี 2563 จึงได้เสนอเรื่องให้ครม.พิจารณา” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับครุภัณฑ์ 24 รายการจำนวน 32 เครื่อง ประกอบด้วย 1.เครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่เร็ว ขับด้วยระบบไฮดรอลิค ขนาด 24 นิ้ว 8 รายการ จำนวน 8 เครื่อง วงเงิน 62.848 ล้านบาท 2.เครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่เร็ว ขับด้วยระบบไฮดรอลิค ขนาด 30 นิ้ว 8 รายการ จำนวน 16 เครื่อง วงเงิน 188.544 ล้านบาท และ 3.เครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่เร็ว ขับด้วยระบบไฮดรอลิค ขนาด 42 นิ้ว 8 รายการ จำนวน 8 เครื่อง วงเงิน 175.80 ล้านบาท

“การอนุมัติงบกลางฯ ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดซื้อครุภัณฑ์ตามแผนแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งนอกเหนือจากนี้แล้วจะยังมีส่วนที่ให้กรมชลประทานจะทยอยเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งพิจารณาใช้จ่ายจากเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการชลประทานที่จะจัดเก็บในอนาคต นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการเพิ่มเติมในครม.ให้ระมัดระวัง เรื่องการทุจริต โดยจะต้องดำเนินการจัดซื้อด้วยความโปร่งใส โดยเน้นย้ำว่าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง