ศาลรัฐธรรมนูญ 16 ก.ย.-ศาลรัฐธรรมนูญ รับวินิจฉัยสถานภาพ ส.ส.“เทพไท” สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. หลังต้องคำพิพากษาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(4) และมาตรา 96 (2) หรือไม่ จากกรณีวันที่ 28 สิงหาคม 2563 นายเทพไท ต้องคำพิพากษาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา จากกรณีร่วมกระทำผิดทุจริตเลืกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ กกต.ทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้นายเทพไท ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่ได้รับสำเนาคำร้อง
และเมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏชัดเจนว่าศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าปรากฏเหตุอันควรสงสัย ว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้นายเทพไทหยุดปฏิบติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่ กกต.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในคดีนี้เป็นกรณีที่เกิดข้อถกเถียงว่าการที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งยังเป็นเพียงศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปีนั้น คำพิพากษาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนั้นจะถือว่ามีผลให้ทำให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส.หรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(4) และมาตรา 96 (2) กำหนดลักษณะต้องห้ามว่า บุคคลที่อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ ห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งส.ส. และลักษณะดังกล่าวเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง.-สำนักข่าวไทย