รัฐสภา 9 ก.ย.- “มิ่งขวัญ” ระบุ ผิดหวังการบริหารงานของทีมเศรษฐกิจ ขาดวิสัยทัศน์ เอื้อนายทุนทั้งไทยและต่างชาติ ตำหนิจัดงบฯกลาง ให้อำนาจนายกฯ ตัดสินใจ ชี้ตรวจสอบยาก ขณะที่นายกฯ ยืนยันใช้งบกลางฯ เหมาะสม ตรวจสอบได้ โต้ไม่บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว แต่ประคับประคองให้ประเทศเดินหน้า
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาล ว่า ในงบฯปี 63 รัฐบาลเก็บรายได้ไม่ตรงตามเป้าที่วางไว้ พร้อมตั้งข้อสังเกตการจัดทำงบประมาณ ที่แตกต่างกับรัฐบาลในอดีต ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่า การตั้งงบฯปี 63 และ 64 รัฐบาลให้ความสำคัญกับงบฯกลางเป็นอันดับ 1 แตกต่างกับในอดีตที่ให้ความสำคัญกับงบฯของกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นอันดับแรก ซึ่งการจัดเตรียมงบฯกลางในลักษณะนี้ทำให้ตรวจสอบยาก เพราะอำนาจการสั่งการอยู่ที่นายกฯ เพียงคนเดียว
ในส่วนของการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลนำเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท และเงินส่วนอื่น ๆ อีกประมาณ 1 แสนล้านบาท ไปช่วยเหลือประชาชนที่มีความยากลำบากอย่างแท้จริง โดยให้ประชาชนคนละ 5,000 บาท ต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 12 เดือน ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ถึง 33 ล้านคน พร้อมกันนี้ รู้สึกผิดหวังในตัวหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่บริหารงานด้วยวิสัยทัศน์ที่ผิดพลาด จะเห็นได้ว่า ผลกระทบที่ตามมาทั้งเรื่องการส่งออกที่ติดลบ และการท่องเที่ยวที่รายได้หดหาย รวมถึงปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาครอบงำธุรกิจในไทย เช่นการตั้งล้งผลไม้ นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีนายทุนสนับสนุนอยู่รอบตัว ซึ่งหลายโครงการเอื้อให้นายทุนรายใหญ่ อย่างที่ล่าสุด รัฐบาลเตรียมแจกเงินอีก 3,000 บาทให้กับประชาชน 15 ล้านคน ซึ่งสุดท้ายเชื่อว่าเงินจำนวนนี้จะหมุนไปสู่นายทุน
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ตนเสนอทางออกว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องลาออก และต้องให้มีคนเข้ามาแก้รัฐธรรมนูญโดยอิสระ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กันไป และเมื่อแก้รัฐธรรมนูญเรียบร้อย จึงจะยุบสภา เลือกตั้งใหม่
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงประเด็นการใช้งบกลางว่า การใช้งบกลาง 96,000 ล้านบาท ใช้จ่ายอย่างถูกต้องตรวจสอบได้ และก่อนอนุมัติงบประมาณจะต้องมีแผนงานโครงการและรายละเอียดเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนอนุมัติ ส่วนการกู้เงินขณะนี้กู้เพียง 1 ล้านล้านบาทเท่านั้น แบ่งเป็นการใช้งบประมาณด้านต่าง ๆ อย่างชัดเจน ด้านแรกจำนวน 45,000 ล้านบาท ใช้แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และด้านสาธารณสุข และขณะนี้ใช้งบส่วนนี้ไปยังไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อีก 550,000 ล้านบาท ใช้ในการเยียวยาผลกระทบให้กับประชาชน หรือ เงินเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือน และที่ไม่สามารถจ่ายให้กับประชาชนเป็นเวลา 12 เดือนนั้น เพราะมีงบประมาณไม่เพียงพอ หากต้องจ่ายจริงต้องใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 1,900,000 ล้านบาท และอีก 400,000 ล้านบาท ไว้สำหรับการฟื้นฟู ทุกอย่างจะใช้อย่างรอบคอบและอยู่ระหว่างการปรับเงื่อนไขเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว เพราะหลายประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอย และการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจติดลบแทบทุกประเทศ แต่ไทยพยายามประคับประคองให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ขอบคุณที่นายมิ่งขวัญ เคยเสนอตัวเป็นรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องขอบคุณ แต่ขณะนี้ตนมีผู้ที่จะมาทำหน้าที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย