สำนักงานป.ป.ช. 8 ก.ย.-โฆษกป.ป.ช.รับแจ้ง 2 ข้อหา “ปารีณา” แจงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จ-ครอบครองป่าสงวน ดินหน้าหาข้อมูลต่อ ฟันเจ้าที่รัฐที่ช่วยเหลือ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหาน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ 2 ข้อหาจริง คือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จและกระทำความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงกรณีครอบครองพื้นที่ป่าสงวน ขณะนี้ ไม่แน่ใจว่าน.ส.ปารีณารับทราบข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการแล้วหรือไม่ แต่ตามขั้นตอน ป.ป.ช.จะเรียกน.ส.ปารีณามารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง
“แต่ถ้าน.ส.ปารีณาไม่มา ถือว่าเป็นสิทธิ์ โดยป.ป.ช.จะส่งหนังสือทางไปรษณีย์เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาหรือแจงพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายใน 15 วัน แต่หากครบกำหนด 15 วันจะถือว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ประสงค์จะแก้ข้อกล่าวหาเพื่อหักล้าง ทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อนำไปสู่การชี้มูลความผิดหรือไม่” โฆษกป.ป.ช. กล่าว
นายนิวัติไชย กล่าวว่า การแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว เป็นเพียงกระบวนการหนึ่ง ขณะนี้น.ส.ปารีณายังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะคดียังไม่ชี้มูลความผิด และเมื่อแก้ข้อกล่าวหาแล้ว หากคณะกรรมการป.ป.ช.เห็นว่าไม่มีมูล คดีดังกล่าวจะตกไป แต่หากมีมูล คณะกรรมการฯจะชี้มูลความผิด ก่อนส่งเรื่องนี้ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้วินิจฉัย และหากศาลประทับรับฟ้องน.ส.ปารีณาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ทันที จากนั้นก็เป็นกระบวนของศาล
“ส่วนข้อหาเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จจะมีโทษทางอาญาด้วย ซึ่งการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเท็จของน.ส.ปารีณาครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงที่ดิน 1,700 ไร่ ที่จังหวัดราชบุรีเท่านั้น แต่ยังมีรายการทรัพย์สินอื่นอีก ทั้งที่เกี่ยวเนื่องและไม่เกี่ยวเนื่องกับที่ดินดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้” โฆษกป.ป.ช. กล่าว
นายนิวัติไชย กล่าวว่า ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ความช่วยเหลือน.ส.ปารีณาเข้าครอบครองพื้นที่ป่าสงวนเขาสนฟาร์มหรือไม่ ซึ่งหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง จะถือเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ แต่วันนี้ยังไม่พบเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบต่อไป
นายนิวัติไชย กล่าวถึงการถือครองที่ดินว่า ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน คือคดีอาญาเป็นอำนาจของกองบังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการ แต่ป.ป.ช.จะตรวจสอบเรื่องการกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงฐานครอบครองพื้นที่ป่า ซึ่งหากพบข้อมูลความผิดจริงจะต้องยื่นร้องต่อศาลฎีกา เพื่อพิจารณาลงโทษให้พ้นจากตำแหน่งและตัดสิทธิ์ทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย