นายกฯ ย้ำรัฐบาลส่งเสริมภาคธุรกิจไทยให้เข้มแข็ง

ทำเนียบฯ 24 ส.ค.-นายกฯ เป็นประธานมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 61 ย้ำรัฐบาลส่งเสริมภาคธุรกิจไทยให้เข้มแข็ง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศทั้งระบบ ฝากผู้ประกอบการผลักดันนำผลงานวิจัยใหม่ ๆ มาพัฒนา ยืนยันไม่เคยปิดกั้นสื่อฯ ย้ำเสนอข่าวสร้างสรรค์ รัฐบาลพยายามเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2561 (Prime Minister’s Export Award 2018 : PM Award 2018) รับรองคุณภาพของผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สากล ในปีนี้ได้ใช้แนวคิด “Leading The Way” สะท้อนถึงเส้นทางเดินแห่งความสำเร็จของนักธุรกิจไทย ซึ่งจัดโดย สำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล ว่า การส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญของการขับเคลื่อนของประเทศบนเวทีโลก ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมภาคการค้าระหว่างประเทศของไทยอย่างดีเสมอมา รัฐบาลจึงได้มีนโยบายหลักที่มุ่งเน้นให้เกิดการขยายตัวของการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งบรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อีกทั้งนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ผลักดันให้เกิดการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ด้วยการเน้นใช้นวัตกรรมในการออกแบบและผลิต เพื่อเพิ่มคุณภาพของสินค้าและบริการให้เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ทั้งยังเน้นสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการผลิตสินค้าและบริการไทย โดยคงเอกลักษณ์แบบไทยอันโดดเด่นที่ไม่อาจหาได้จากที่อื่นใด เมื่อภาคการส่งออกและภาคธุรกิจโดยรวมเข้มแข็ง ก็จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคส่วนอื่นภายใต้พลังประชารัฐ ทำให้เศรษฐกิจฐานรากและภาคประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้นเป็นลำดับ


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้รัฐบาลจะดูแลทั้งเรื่องการปรับเปลี่ยนการค้าให้ทันต่อสถานการณ์โลก ซึ่งบางครั้งต้องมีการปรับเปลี่ยน เช่น การส่งออกของประเทศไทยลดลงเพราะมีปัจจัยการค้าภายนอกประเทศ ดังนั้นผู้ผลิต ผู้ประกอบการ จะต้องมีการปรับตัว ใช้เทคโนโลยีใหม่ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งบางครั้งอยากให้ผู้ประกอบการนำผลงานวิจัยใหม่ ๆ ที่รัฐบาล หรือ มหาวิทยาลัยได้คิดค้นขึ้นมา นำมาพัฒนาสินค้าของตนเอง เพื่อเพิ่มมูลค่า

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้ยึดหลักการแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่ยึดความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี ในการดูแลเศรษฐกิจของประเทศ ที่สำคัญรัฐบาลนี้ อำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ ทั้งในการออกกฎหมาย พิจารณาเตรียมให้ใช้คลังข้อมูลบิ๊กดาต้า และช่วยเหลือบริการในการลงทุน ทั้งนี้ขอฝากภาคเอกชนช่วยสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริง นอกจากนี้ผู้ประกอบการ จะต้องช่วยกันดูแลคนในประเทศด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งแยก แต่จะต้องเข้มแข็งไปด้วยกัน ตั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง 

“ปีหน้าได้เตรียมความพร้อมเป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยยังไม่ทราบว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล และตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ได้ชี้แจงการทำงานมาตลอด ยอมรับว่ารู้สึกเหนื่อย ซึ่งทุกเรื่องที่พูดได้บันทึกเป็นหลักฐานไว้หมด และการพูดผ่านรายการในทุกวันศุกร์ เป็นการสั่งงานข้าราชการไปในตัวด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องของประชาธิปไตย ว่า ได้ศึกษาจากตำราต่างประเทศ คำว่าประชาธิปไตย คือ ประชานิยม เพราะเป็นการเลือกคนที่นิยม และชื่นชอบ แต่ถ้าทำเป็นโครงการ ต้องเป็นประโยชน์และไม่มีผลต่อการเงินการคลังของประเทศ ไม่ใช่นำงบฯ เกินครึ่งของประเทศมาทำโครงการประชานิยม หรือให้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่ตนพูด ต้องการสื่อไปถึงประชาชน รวมถึงพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ยังพยายามจะบิดเบือน ซึ่งกังวลว่าประชาชนจะเข้าใจผิดและจะย้อนกลับเป็นแบบเดิม เพราะที่ผ่านมา คนที่มีฐานะอาจไม่สนใจการเมืองมากนัก แต่คนที่มีรายได้น้อยมักสนใจการเมืองและการเลือกตั้ง ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับที่ประชาชนจะเลือก และตนไม่สนใจว่าใครจะมาต่อว่าอะไรตน และยืนยันไม่เคยปิดกั้นการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

“ขอยืนยันว่าผมไม่เคยปิดกั้น ควบคุมหรือบังคับสื่อมวลชน และถ้ามีการบิดเบือน ทุกอย่างมีกลไกอยู่แล้ว ที่ผ่านมาไม่มีใครอยากมีปัญหากับสื่อฯ แต่วันนี้อาจต้องมีการดำเนินการบ้าง หากมีการบิดเบือนข้อมูล จึงขอเตือนสื่อฯ ให้ระมัดระวังการทำหน้าที่ แต่ไม่ได้เป็นการขู่สื่อฯ ซึ่งผมมักถูกสื่อฯ มองว่าเป็นคนใจร้อน ชอบระบายอารมณ์กับสื่อฯ จึงอยากให้มองย้อนกลับไปถึงการทำหน้าที่ของสื่อฯ ด้วย ขณะที่บางสัปดาห์ ผมไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ก็มีความสุขดี และตอนนี้เริ่มเลือกหนังสือพิมพ์บางฉบับในการติดตามข่าวสาร เพราะมีหนังสือพิมพ์บางฉบับไม่เคยสร้างประโยชน์ให้กับประเทศเลย บางครั้งการพาดหัวข่าว ถูกสื่อสารออกไปยังต่างประเทศ และอาจส่งผลต่อการค้าการลงทุน และการทำแบบนี้โดยไม่รับผิดชอบนั้นไม่ได้ และหากผมใช้อำนาจที่มีอยู่ ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ก็ไม่เคยใช้อำนาจในการดำเนินการ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในปีนี้ มีผู้ประกอบธุรกิจได้รับรางวัลใน 7 ประเภท รวมทั้งสิ้น 35 รางวัล 32 บริษัท รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จสูงสุดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทย ทั้งสินค้าและบริการประเภทต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระตุ้นให้ผู้ที่ได้รับรางวัลได้มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองให้มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงทำให้ผู้นำเข้าและผู้ซื้อจากต่างประเทศเพิ่มความเชื่อมั่นต่อผู้ส่งออกของไทยที่ได้รับรางวัลอีกด้วย ซึ่งจากผลการดำเนินโครงการ ตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปี 2561 ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 27 มีผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทยที่ได้รับรางวัลแล้วกว่า 600 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]