กทม. 25 ก.ย.-รมว.กห. ซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงเปิดกองทุน “หทัยทิพย์” ทุนตั้งต้นสร้างรั้ว-บังเกอร์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยันพื้นที่ไหนชัดเจนดำเนินการได้ทันที
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทุนทรัพย์ 1 ล้านบาท จาก ‘กองทุนหทัยทิพย์’ เพื่อเป็นทุนตั้งต้น สร้างกำแพง-บังเกอร์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า เรื่องสร้างรั้วชายแดน หากพื้นที่ตรงไหนสามารถตกลงเรื่องเขตแดนได้แล้ว หรือมีความชัดเจน ก็จะดำเนินการ โดยได้มอบหมายให้กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นเจ้าภาพ เนื่องจากพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ในเขตความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นของกองทัพบก และอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือในทางด้านใต้ อีกทั้งกองบัญชาการกองทัพไทย ยังมีกรมแผนที่ทหาร อยู่ในอนุกรรมการของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ซึ่งมีเครื่องมือพร้อม
พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า เรื่องดังกล่าวสามารถเริ่มต้นดำเนินการได้เลย แต่อาจจะต้องนำเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.อีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ตกลงกันได้แล้วในพื้นที่ ก็ไม่ต้องนำเข้าที่ประชุม สมช. ซึ่งหากอะไรที่ไม่ชัดเจนถึงจะนำเข้าที่ประชุม เพื่อเข้าสู่กระบวนการรับรองอย่างถูกต้อง
พล.อ.ณัฐพล กล่าวยืนยันว่า การสร้างรั้ว สามารถเริ่มต้นได้ทันที แต่ขณะนี้เป็นจังหวะที่กองบัญชาการกองทัพไทย กำลังผลัดเปลี่ยนผู้บังคับบัญชา จึงต้องให้ระยะเวลาในการปรับเปลี่ยนกำลังพลระยะหนึ่ง โดยคาดว่า ขั้นตอน และกระบวนการ จะสามารถดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบางขั้นตอนที่สามารถดำเนินการได้ก่อนในขณะนี้ ก็สามารถทำได้ทันที
พล.อ.ณัฐพล กล่าวย้ำว่า การสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จะดำเนินการสร้างทันทีในพื้นที่ที่มีความชัดเจน เพื่อให้สังคมเชื่อมั่นว่า ปัญหาต่างๆ ในอนาคตจะลดน้อยลง แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาอีกครั้งว่า รูปแบบที่จะสร้างจะเป็นแบบใด หากเป็นรูปแบบที่มีความมั่นคงสูงจนเกินไป ก็จะใช้งบประมาณสูงตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างตลอดแนวชายแดนกว่า 800 กิโลเมตร
ขณะที่รูปแบบการสร้างรั้วที่จังหวัดสระแก้วเสนอมาล่าสุด ความยาว 10 กิโลเมตร ใช้งบประมาณประมาณ 87 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในขั้นของการพิจารณาด้านงบประมาณ เนื่องจากทั้งสภาวะเศรษฐกิจ และสถานภาพงบประมาณของรัฐบาลก็มีจำกัด ซึ่งหากมีงบประมาณมาสนับสนุน รัฐบาลก็สามารถดำเนินการได้หมด
ส่วนเงินจากกองทุนที่ได้รับพระราชทาน ถือเป็นพระกรุณาธิคุณ และพระเมตตา แต่การพิจารณาสร้างรั้ว ก็จะต้องยึดงบประมาณรัฐบาลเป็นหลัก.-313.-สำนักข่าวไทย