“ณัฐพล” ยังไม่ส่งกลับทหารกัมพูชา​ หลังเขมรบิดเบือนว่าลักพาตัว

ทำเนียบ 31 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” เผย​ดูแลทหารกัมพูชาอย่างดี​ ยังไม่ส่งกลับ​ หลังเขมรบิดเบือนว่าลักพาตัว สอบปากคำเก็บหลักฐานแล้ว​ เตรียมพาคณะผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่พรุ่งนี้​ ยันไทยไม่เสียเปรียบในเวทีโลก​ เหตุต้องแน่ใจกัมพูชาหยุดยิงจริง​ เพราะหากเกิดอะไรขึ้น​ ไทยต้องรับผิดชอบ​ วอนสื่อไทยช่วยแสดงพลังตอบโต้เขมร​


พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ เป็นประธานการประชุม​ โดยเปิดเผยก่อนเริ่มประชุมถึงกรณีที่ นาย​ ฮุน​ มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เรียกร้องให้ทหารไทยปล่อยตัวทหารกัมพูชา​ ที่อยู่ระหว่างถูกควบคุมตัว​ ว่า กองทัพบกดูแลอย่างดี​ ให้อาบน้ำ​ แปรงฟัน​ หาอาหารให้ทาน​ ดูแลอย่างดี​ เพราะมีทหารที่ปกติและได้รับบาดเจ็บ​ ก็ได้ดูแลรักษา​ โดยฝ่ายไทยเตรียมที่จะส่งตัวกลับกัมพูชาแล้ว แต่วานนี้มีผู้นำกัมพูชากล่าวหาไทย ลักพาตัวทหารเหล่านี้​ จึงต้องป้องกันตัวเอง นำทหารกัมพูชามาสอบถาม​ เพื่อบันทึกปากคำเอาไว้​ ว่าที่เข้ามาไม่ได้ถูกลักพาตัว​ เป็นการที่ฝ่ายเราเข้าไปควบคุมตัวได้ ซึ่งทหารกัมพูชา​ ก็ยืนยันเช่นนั้น​ เพื่อเป็นหลักฐานไว้ในอนาคต​ และขอเรียนชี้แจงว่าสิ่งที่เป็นตัวอย่าง เรื่องการตอบโต้ อาจจะช้า ไม่ทันใจ แต่การเอาความจริงเข้าตอบโต้ข้อมูลที่บิดเบือน มั่นใจว่าจะทำให้มีผลที่ดีกว่า​ และได้แจ้งไปยังฝ่ายกัมพูชา​ ให้ทหารกัมพูชาที่อยู่นอกพื้นที่​ ที่มาเพิ่มเติมกำลัง พอเกิดเหตุการณ์ปะทะก็มีส่วนหนึ่งหลงอยู่ในพื้นที่ของฝ่ายไทย เราจะแจ้งให้ทหารเหล่านี้ออกมา​ และไทยจะควบคุมตัวและทำการส่งกลับตามหลักมนุษยธรรม

“ต้องขออภัยในเรื่องนี้ สื่อมวลชนอาจจะไม่พอใจ​ ที่ทำกัมพูชาทำกับเราแบบนั้น​ แต่ไทยยังมีมนุษยธรรม​ ตนเองบอกเสมอว่า​ จะสู้กับการบิดเบือน​ ด้วยข้อเท็จจริงด้วยมนุษยธรรม​ ถึงแม้เขาจะผิดและไม่มีมนุษยธรรม ทำผิดหลักกฎหมายนานาชาติก็ตาม​ ก็เป็นเรื่องของหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบไป​ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมของโลก ในการดำเนินการ​ เราต้องยึดมั่นในกฎหมาย ถ้าทำเหมือนกับเขา เราก็พอกัน ตรงนี้ต้องขออภัยพี่น้องประชาชน และสื่อมวลชนทุกท่านด้วย”


ส่วนกรณีที่กัมพูชา นำคณะทูตและสื่อมวลชนจากต่างประเทศ ไปดูพื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี​ ในส่วนของฝ่ายไทยจะมีการนำคณะทูตทหารไปดูพื้นที่ด้วยใช่หรือไม่​ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า​ ได้มอบให้กองทัพบกเร่งดำเนินการ​ แต่จากการประสานงานพบว่า​ ทูตทหารต่างประเทศยังไม่พร้อม ซึ่งอยากให้ไปพร้อมกัน​ และอีกประการหนึ่งต้องมั่นใจก่อนว่า กัมพูชาหยุดยิงจริงๆ​ แต่การที่กัมพูชาพาทูตเข้าพื้นที่ได้​ เพราะว่าเขามั่นใจว่าเราหยุดยิง​ แต่ฝ่ายไทยไม่มั่นใจ ว่า​ กัมพูชาจะหยุดยิงจริงหรือไม่​ แต่การที่กัมพูชา​พาทูตทหารมา​ แสดงว่าเขา​ คงไม่กล้าที่จะยิงแล้ว​ เพราะหากไทยพาเข้าไป​ผู้ช่วยทูตทหารทุกคนต้องปลอดภัย​ ไทยรับประกันได้ว่าจะไม่มีการละเมิดการหยุดยิงอยู่แล้ว​ แต่ไม่รู้ว่ากัมพูชาจะละเมิดการหยุดยิงหรือไม่​ หากเราพาผู้ช่วยทูตทหารเข้าไปเมื่อวานนี้​ เกิดมีการยิงขึ้นมา ทำให้เราต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปด้วย​ อย่างไรก็ตาม ไทย​จะนำคณะผู้ช่วยทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้​ (1 ส.ค.)​

ส่วนที่เมื่อคืนไม่มีเหตุปะทะ​ ถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นหรือไม่​ พลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ ถือว่าสัญญาณดีขึ้น แต่การที่เขาพาผู้ช่วยทูตทหารมา​ หากเมื่อคืนนี้​ ยังมีการยิงหรือการละเมิดข้อตกลงอีกชาวโลกคงรับไม่ได้​

เมื่อถามว่าจะไว้ใจกัมพูชาได้มากน้อยแค่ไหน​ ว่าจะไม่มีการยิงแล้ว​ พลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ ก็ไว้ใจได้ประมาณหนึ่ง แต่ไทยไม่เคยประมาท เมื่อคืนได้เน้นย้ำ ให้กองกำลังที่อยู่ตามแนวชายแดน อย่าประมาทจนกว่าสถานการณ์จะชัดเจนแน่นอนจริงๆ​


เมื่อถามว่าการที่กัมพูชาชิงพาทูตทหารลงพื้นที่ก่อน ทำให้เราเสียเปรียบต่อการชี้แจงประชาคมโลกหรือไม่ พลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ ​มั่นใจ​ไม่เสียเปรียบ​ แม้จะยังไม่พาผู้ช่วยทูตทหารไป แต่กองทัพบกก็ได้มีการแถลงข่าว เรื่องการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงวานนี้​ และส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับผู้ช่วยทูตทหารของไทย​ ยกตัวอย่าง หากมีผู้ช่วยทูตทหารสิงคโปร์ได้ไปดูพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ที่ทางฝ่ายกัมพูชาบอกว่าหยุดยิงแล้ว​ แต่ผู้ช่วยทูตทหารสิงคโปร์ที่อยู่ในประเทศไทยได้รับข้อมูลว่า มีการละเมิดการหยุดยิง​ ทางสิงคโปร์ ก็ต้องพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล ว่าเชื่อข้อจากฝั่งไหน​ ส่วนจำนวนผู้ช่วยทูตทหาร พี่จะเดินทางไปในวันพรุ่งนี้​ ยังตามตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้​ แต่คาดว่ามีมากกว่า 15 ประเทศ และตอนนี้ยังรอการตอบรับเพิ่มเติมอีก​

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากัมพูชา​ ยึดปราสาทตาควายได้​ พลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ ทางกองทัพบอกว่าควบคุมได้​ ก็ต้องฟังหน่วยงาน​ ที่เขารายงานมาก่อน​ ข่าวที่ออกมาบิดเบือนกันไปบิดเบือนกันมาตลอด​ แต่เมื่อเช้าได้รับข่าวที่ดีมากๆ​ น้องจีโน่​ นักกอล์ฟมือระดับต้นๆ ของโลก ช่วยโพสต์ให้กับประเทศไทย ตนเองจึงรู้สึกมีกำลังใจมาก​ จึงขอเชิญชวนพี่น้องสื่อมวลชนให้ช่วยแสดงพลัง ให้เห็นว่าความสามารถของสื่อมวลชนไทย สามารถตอบโต้กัมพูชาได้​

“เหมือนที่ได้ขอร้องกับสื่อมวลชนฝ่ายทหาร ท่านสามารถหาข่าวได้เร็ว​ ตนเอง​ไม่ว่า​ ไปถามคนที่ไม่เกี่ยวข้องแล้วมาตำหนิกองทัพตนก็ไม่ว่า​ แต่สื่อมวลชนเมื่อได้ยินข้อมูลจากตนแล้ว ก็ขอให้นำข้อมูลข้อเท็จจริงไปชี้แจงตอบโต้ด้วย​ ทหารไม่ได้ถูกฝึกมาให้ตอบโต้ข่าวพวกนี้ แต่ทหารถูกฝึกมาให้ทำงาน​ จึงขอเชิญชวนให้สื่อมวลชนแสดงขีดความสามารถให้ประชาชน ไทยได้เห็นว่า ท่านสามารถตอบโต้กัมพูชาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ อย่างที่คนตนเคยบอกว่า ข่าวที่กัมพูชาบิดเบือนมา คนไทยก็นำมาโจมตีกันเอง แทนที่คนไทยจะตอบโต้และโจมตีกัมพูชา ซึ่งหากเป็นอย่างที่ตนคาดหวัง​ ก็จะรู้สึกดีใจมากที่คนไทยรวมใจเป็นหนึ่ง ตอบโต้กัมพูชา​”

พลเอกณัฐพล​ กล่าวต่อด้วยว่า​ ในส่วนของ​ ศบ.ทก. ยังมีข้อผิดพลาด ขอน้อมรับคำตำหนิ และการประชุมวันนี้ จะมาพิจารณาว่า ทำอย่างไรให้การสื่อสาร ที่ไปถึงสื่อมวลชนและประชาชนเป็นแบบบูรณาการ ทุกสิ่งที่สื่อมวลชนทวงจริงมา​ ตนเองฟังทั้งหมด​ และจะพยายามแก้ปัญหา ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนหลายสำนักที่ได้ให้ข้อมูลและให้คำติติงมา ตนบอกแล้วว่า ยินดีรับฟัง แต่ขอให้เป็นข้อเสนอ ไม่ว่าจะเชิงติติงหรืออะไรก็ตาม ขออย่างเดียว ขออย่าโจมตี ช่วยกัมพูชามาโจมตีทางหน่วยงานที่กำลังทำงานอยู่ ส่วนตัวตนเองคุ้นเคยแล้วและเตรียมใจแล้วเมื่อมาอยู่จุดนี้ต้องเจอแบบนี้ น้องๆ ที่เป็นข้าราชการประจำเขาาอาจไม่คุ้นเคย เขาอาจเสียกำลังใจ ขอกำลังใจจากสื่อมวลชนทุกท่าน

เมื่อถามว่า ในการชี้แจง เราจะชี้แจงเป็นหลายภาษาได้หรือไม่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ได้ จริง ๆ แล้วปัญหา คือ ตนอยากชี้แจงหลายภาษา อยากจะชี้แจงภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน แต่เนื่องจากขีดความสามารถของเรา คือ ไม่ใช่ตนแบ่งมอบไปชี้แจงภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน แต่ทุกครั้งตนต้องมาคอยดูภาพรวมด้วยว่า การชี้แจงเรื่องนี้เป็นอย่างไร คือ ต้องดูความถูกต้องด้วย แบบที่บอก ทางศบ.ทก.ยึดถือความถูกต้อง และตนเรียนสื่อมวลชนว่า ศบ.ทก. คือ กลไกของรัฐบาล บางครั้งตามโซเชียลได้ตำหนิว่า ทำไมรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ก็ตนนี่แหละรัฐบาล มาเป็นส่วนหัว มาอำนวยการในส่วนของหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ที่มาประชุม เพราะฉะนั้น แต่ละส่วนราชการต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเชิญประชุมนอกเวลาราชการ เขาก็ยินดีประชุม นอกจากส่วนราชการที่มีเป็นกรรมการแล้ว ตนอยากจะเชิญหน่วยอื่นที่ไม่ใช่ ทุกส่วนก็ให้ความร่วมมือ อย่างเช่นเมื่อวาน เชิญกระทรวงสาธารณสุขมาชี้แจง ตนเห็นว่า ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขเป็นประโยชน์ในการชี้แจงประชาชน ชี้แจงชาวโลกว่า กัมพูชาได้ทำลายสถานพยาบาลของเราอย่างไร สถานพยาบาลของเราได้รับความเสียหายอย่างไร ตรงนี้จะเอาเขามาและร่วมในการแถลงข่าว ซึ่งจะเห็นว่า มีการแถลง 3 คน มีโฆษกกระทรวงสาธารณสุขด้วย อันนี้คือแนวทางที่เรากำลังจะปรับปรุงตามคำแนะนำของสื่อมวลชนที่เสนอแนะมา -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]