“ณัฐพล” ยังไม่ส่งกลับทหารกัมพูชา​ หลังเขมรบิดเบือนว่าลักพาตัว

ทำเนียบ 31 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” เผย​ดูแลทหารกัมพูชาอย่างดี​ ยังไม่ส่งกลับ​ หลังเขมรบิดเบือนว่าลักพาตัว สอบปากคำเก็บหลักฐานแล้ว​ เตรียมพาคณะผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่พรุ่งนี้​ ยันไทยไม่เสียเปรียบในเวทีโลก​ เหตุต้องแน่ใจกัมพูชาหยุดยิงจริง​ เพราะหากเกิดอะไรขึ้น​ ไทยต้องรับผิดชอบ​ วอนสื่อไทยช่วยแสดงพลังตอบโต้เขมร​


พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ เป็นประธานการประชุม​ โดยเปิดเผยก่อนเริ่มประชุมถึงกรณีที่ นาย​ ฮุน​ มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เรียกร้องให้ทหารไทยปล่อยตัวทหารกัมพูชา​ ที่อยู่ระหว่างถูกควบคุมตัว​ ว่า กองทัพบกดูแลอย่างดี​ ให้อาบน้ำ​ แปรงฟัน​ หาอาหารให้ทาน​ ดูแลอย่างดี​ เพราะมีทหารที่ปกติและได้รับบาดเจ็บ​ ก็ได้ดูแลรักษา​ โดยฝ่ายไทยเตรียมที่จะส่งตัวกลับกัมพูชาแล้ว แต่วานนี้มีผู้นำกัมพูชากล่าวหาไทย ลักพาตัวทหารเหล่านี้​ จึงต้องป้องกันตัวเอง นำทหารกัมพูชามาสอบถาม​ เพื่อบันทึกปากคำเอาไว้​ ว่าที่เข้ามาไม่ได้ถูกลักพาตัว​ เป็นการที่ฝ่ายเราเข้าไปควบคุมตัวได้ ซึ่งทหารกัมพูชา​ ก็ยืนยันเช่นนั้น​ เพื่อเป็นหลักฐานไว้ในอนาคต​ และขอเรียนชี้แจงว่าสิ่งที่เป็นตัวอย่าง เรื่องการตอบโต้ อาจจะช้า ไม่ทันใจ แต่การเอาความจริงเข้าตอบโต้ข้อมูลที่บิดเบือน มั่นใจว่าจะทำให้มีผลที่ดีกว่า​ และได้แจ้งไปยังฝ่ายกัมพูชา​ ให้ทหารกัมพูชาที่อยู่นอกพื้นที่​ ที่มาเพิ่มเติมกำลัง พอเกิดเหตุการณ์ปะทะก็มีส่วนหนึ่งหลงอยู่ในพื้นที่ของฝ่ายไทย เราจะแจ้งให้ทหารเหล่านี้ออกมา​ และไทยจะควบคุมตัวและทำการส่งกลับตามหลักมนุษยธรรม

“ต้องขออภัยในเรื่องนี้ สื่อมวลชนอาจจะไม่พอใจ​ ที่ทำกัมพูชาทำกับเราแบบนั้น​ แต่ไทยยังมีมนุษยธรรม​ ตนเองบอกเสมอว่า​ จะสู้กับการบิดเบือน​ ด้วยข้อเท็จจริงด้วยมนุษยธรรม​ ถึงแม้เขาจะผิดและไม่มีมนุษยธรรม ทำผิดหลักกฎหมายนานาชาติก็ตาม​ ก็เป็นเรื่องของหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบไป​ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมของโลก ในการดำเนินการ​ เราต้องยึดมั่นในกฎหมาย ถ้าทำเหมือนกับเขา เราก็พอกัน ตรงนี้ต้องขออภัยพี่น้องประชาชน และสื่อมวลชนทุกท่านด้วย”


ส่วนกรณีที่กัมพูชา นำคณะทูตและสื่อมวลชนจากต่างประเทศ ไปดูพื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี​ ในส่วนของฝ่ายไทยจะมีการนำคณะทูตทหารไปดูพื้นที่ด้วยใช่หรือไม่​ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า​ ได้มอบให้กองทัพบกเร่งดำเนินการ​ แต่จากการประสานงานพบว่า​ ทูตทหารต่างประเทศยังไม่พร้อม ซึ่งอยากให้ไปพร้อมกัน​ และอีกประการหนึ่งต้องมั่นใจก่อนว่า กัมพูชาหยุดยิงจริงๆ​ แต่การที่กัมพูชาพาทูตเข้าพื้นที่ได้​ เพราะว่าเขามั่นใจว่าเราหยุดยิง​ แต่ฝ่ายไทยไม่มั่นใจ ว่า​ กัมพูชาจะหยุดยิงจริงหรือไม่​ แต่การที่กัมพูชา​พาทูตทหารมา​ แสดงว่าเขา​ คงไม่กล้าที่จะยิงแล้ว​ เพราะหากไทยพาเข้าไป​ผู้ช่วยทูตทหารทุกคนต้องปลอดภัย​ ไทยรับประกันได้ว่าจะไม่มีการละเมิดการหยุดยิงอยู่แล้ว​ แต่ไม่รู้ว่ากัมพูชาจะละเมิดการหยุดยิงหรือไม่​ หากเราพาผู้ช่วยทูตทหารเข้าไปเมื่อวานนี้​ เกิดมีการยิงขึ้นมา ทำให้เราต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปด้วย​ อย่างไรก็ตาม ไทย​จะนำคณะผู้ช่วยทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้​ (1 ส.ค.)​

ส่วนที่เมื่อคืนไม่มีเหตุปะทะ​ ถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นหรือไม่​ พลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ ถือว่าสัญญาณดีขึ้น แต่การที่เขาพาผู้ช่วยทูตทหารมา​ หากเมื่อคืนนี้​ ยังมีการยิงหรือการละเมิดข้อตกลงอีกชาวโลกคงรับไม่ได้​

เมื่อถามว่าจะไว้ใจกัมพูชาได้มากน้อยแค่ไหน​ ว่าจะไม่มีการยิงแล้ว​ พลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ ก็ไว้ใจได้ประมาณหนึ่ง แต่ไทยไม่เคยประมาท เมื่อคืนได้เน้นย้ำ ให้กองกำลังที่อยู่ตามแนวชายแดน อย่าประมาทจนกว่าสถานการณ์จะชัดเจนแน่นอนจริงๆ​


เมื่อถามว่าการที่กัมพูชาชิงพาทูตทหารลงพื้นที่ก่อน ทำให้เราเสียเปรียบต่อการชี้แจงประชาคมโลกหรือไม่ พลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ ​มั่นใจ​ไม่เสียเปรียบ​ แม้จะยังไม่พาผู้ช่วยทูตทหารไป แต่กองทัพบกก็ได้มีการแถลงข่าว เรื่องการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงวานนี้​ และส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับผู้ช่วยทูตทหารของไทย​ ยกตัวอย่าง หากมีผู้ช่วยทูตทหารสิงคโปร์ได้ไปดูพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ที่ทางฝ่ายกัมพูชาบอกว่าหยุดยิงแล้ว​ แต่ผู้ช่วยทูตทหารสิงคโปร์ที่อยู่ในประเทศไทยได้รับข้อมูลว่า มีการละเมิดการหยุดยิง​ ทางสิงคโปร์ ก็ต้องพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล ว่าเชื่อข้อจากฝั่งไหน​ ส่วนจำนวนผู้ช่วยทูตทหาร พี่จะเดินทางไปในวันพรุ่งนี้​ ยังตามตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้​ แต่คาดว่ามีมากกว่า 15 ประเทศ และตอนนี้ยังรอการตอบรับเพิ่มเติมอีก​

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากัมพูชา​ ยึดปราสาทตาควายได้​ พลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ ทางกองทัพบอกว่าควบคุมได้​ ก็ต้องฟังหน่วยงาน​ ที่เขารายงานมาก่อน​ ข่าวที่ออกมาบิดเบือนกันไปบิดเบือนกันมาตลอด​ แต่เมื่อเช้าได้รับข่าวที่ดีมากๆ​ น้องจีโน่​ นักกอล์ฟมือระดับต้นๆ ของโลก ช่วยโพสต์ให้กับประเทศไทย ตนเองจึงรู้สึกมีกำลังใจมาก​ จึงขอเชิญชวนพี่น้องสื่อมวลชนให้ช่วยแสดงพลัง ให้เห็นว่าความสามารถของสื่อมวลชนไทย สามารถตอบโต้กัมพูชาได้​

“เหมือนที่ได้ขอร้องกับสื่อมวลชนฝ่ายทหาร ท่านสามารถหาข่าวได้เร็ว​ ตนเอง​ไม่ว่า​ ไปถามคนที่ไม่เกี่ยวข้องแล้วมาตำหนิกองทัพตนก็ไม่ว่า​ แต่สื่อมวลชนเมื่อได้ยินข้อมูลจากตนแล้ว ก็ขอให้นำข้อมูลข้อเท็จจริงไปชี้แจงตอบโต้ด้วย​ ทหารไม่ได้ถูกฝึกมาให้ตอบโต้ข่าวพวกนี้ แต่ทหารถูกฝึกมาให้ทำงาน​ จึงขอเชิญชวนให้สื่อมวลชนแสดงขีดความสามารถให้ประชาชน ไทยได้เห็นว่า ท่านสามารถตอบโต้กัมพูชาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ อย่างที่คนตนเคยบอกว่า ข่าวที่กัมพูชาบิดเบือนมา คนไทยก็นำมาโจมตีกันเอง แทนที่คนไทยจะตอบโต้และโจมตีกัมพูชา ซึ่งหากเป็นอย่างที่ตนคาดหวัง​ ก็จะรู้สึกดีใจมากที่คนไทยรวมใจเป็นหนึ่ง ตอบโต้กัมพูชา​”

พลเอกณัฐพล​ กล่าวต่อด้วยว่า​ ในส่วนของ​ ศบ.ทก. ยังมีข้อผิดพลาด ขอน้อมรับคำตำหนิ และการประชุมวันนี้ จะมาพิจารณาว่า ทำอย่างไรให้การสื่อสาร ที่ไปถึงสื่อมวลชนและประชาชนเป็นแบบบูรณาการ ทุกสิ่งที่สื่อมวลชนทวงจริงมา​ ตนเองฟังทั้งหมด​ และจะพยายามแก้ปัญหา ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนหลายสำนักที่ได้ให้ข้อมูลและให้คำติติงมา ตนบอกแล้วว่า ยินดีรับฟัง แต่ขอให้เป็นข้อเสนอ ไม่ว่าจะเชิงติติงหรืออะไรก็ตาม ขออย่างเดียว ขออย่าโจมตี ช่วยกัมพูชามาโจมตีทางหน่วยงานที่กำลังทำงานอยู่ ส่วนตัวตนเองคุ้นเคยแล้วและเตรียมใจแล้วเมื่อมาอยู่จุดนี้ต้องเจอแบบนี้ น้องๆ ที่เป็นข้าราชการประจำเขาาอาจไม่คุ้นเคย เขาอาจเสียกำลังใจ ขอกำลังใจจากสื่อมวลชนทุกท่าน

เมื่อถามว่า ในการชี้แจง เราจะชี้แจงเป็นหลายภาษาได้หรือไม่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ได้ จริง ๆ แล้วปัญหา คือ ตนอยากชี้แจงหลายภาษา อยากจะชี้แจงภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน แต่เนื่องจากขีดความสามารถของเรา คือ ไม่ใช่ตนแบ่งมอบไปชี้แจงภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน แต่ทุกครั้งตนต้องมาคอยดูภาพรวมด้วยว่า การชี้แจงเรื่องนี้เป็นอย่างไร คือ ต้องดูความถูกต้องด้วย แบบที่บอก ทางศบ.ทก.ยึดถือความถูกต้อง และตนเรียนสื่อมวลชนว่า ศบ.ทก. คือ กลไกของรัฐบาล บางครั้งตามโซเชียลได้ตำหนิว่า ทำไมรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ก็ตนนี่แหละรัฐบาล มาเป็นส่วนหัว มาอำนวยการในส่วนของหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ที่มาประชุม เพราะฉะนั้น แต่ละส่วนราชการต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเชิญประชุมนอกเวลาราชการ เขาก็ยินดีประชุม นอกจากส่วนราชการที่มีเป็นกรรมการแล้ว ตนอยากจะเชิญหน่วยอื่นที่ไม่ใช่ ทุกส่วนก็ให้ความร่วมมือ อย่างเช่นเมื่อวาน เชิญกระทรวงสาธารณสุขมาชี้แจง ตนเห็นว่า ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขเป็นประโยชน์ในการชี้แจงประชาชน ชี้แจงชาวโลกว่า กัมพูชาได้ทำลายสถานพยาบาลของเราอย่างไร สถานพยาบาลของเราได้รับความเสียหายอย่างไร ตรงนี้จะเอาเขามาและร่วมในการแถลงข่าว ซึ่งจะเห็นว่า มีการแถลง 3 คน มีโฆษกกระทรวงสาธารณสุขด้วย อันนี้คือแนวทางที่เรากำลังจะปรับปรุงตามคำแนะนำของสื่อมวลชนที่เสนอแนะมา -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สั่ง 4 ข้อยกระดับมาตรฐานซาฟารีเวิลด์ ห่วงความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งด่วนถึงซาฟารีเวิลด์ ให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้ายโดยเร็ว พร้อมกำหนด 4 มาตรการเข้มที่ต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิภาพสิงโต เบื้องต้นพบมีภาวะเครียดและมีอาการโรคผิวหนัง ส่วนกรงยังมีไม่เหมาะสมเพียงพอ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้าย หลังเกิดเหตุสิงโตในโซนจัดแสดงแบบเปิดรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายประการเช่น ไม่มีระบบกั้นพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัยสองชั้น และขาดอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใกล้สัตว์โดยตรงขณะปฏิบัติงาน กรมฯ จึงกำหนด 4 มาตรการเร่งด่วน ที่บริษัทต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า ได้ให้บริษัทเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยทั้งของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งปิดการจัดแสดงสิงโตและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์เป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ ถือเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางแก้ไขเชิงระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังแสดงความห่วงใยถึงสุขภาพและสวัสดิภาพของสิงโต 5 ตัวที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตวว์ เป็นเพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 2 […]

ชาวบ้านเฮ! ปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยังได้สำเร็จ

ร้อยเอ็ด 12 ก.ย. – สามารถปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยัง บริเวณบ้านทรายมูล อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน เร่งช่วยกันซ่อมแซม ปฏิบัติการเร่งซ่อมพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาด บริเวณบ้านทรายมูล หมู่ 4 ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ใช้ทั้งแรงคนและเครื่องจักรหนัก รถบรรทุกทราย และถุงบิ๊กแบ็กปิดกั้นรอยแตก นอกจากนี้ยังนำเสาไฟฟ้า 16 ต้น มาวางพาดขวางเสริมฐานความแข็งแรง ร่วมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำ ก่อนใช้รถแบ็กโฮจัดวางถุงทรายทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แนวป้องกัน เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.) สามารถปิดบริเวณที่ขาดได้สำเร็จ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากปิดกั้นจุดที่ขาดเสร็จสิ้น […]

‘เจนซี’ เนปาลเรียกร้องยุบสภา-ตายเพิ่มเป็น 34 ราย

กาฐมาณฑุ 12 ก.ย. -ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงรุนแรงในเนปาล เพิ่มเป็น 34 ราย ผู้นำเยาวชนเรียกร้องให้ยุบสภา และสนับสนุนอดีตประธานศาลฏีกาหญิง เป็นผู้นำประเทศชั่วคราว หลังการประท้วงรุนแรง 2 วันจนนายกรัฐมนตรีต้องลาออก โอจาชวี ราช ทาปา ผู้นำเยาวชนเนปาล เรียกร้องให้ยุบสภาหลังการเจรจากับกองทัพในกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวานนี้ และบอกว่า พวกเขาสนับสนุนให้ สุชิลา คาร์กี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นหัวหน้ารัฐบาลรักษาการ พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ แต่เสริมว่ายังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขอีกมาก ขณะที่แกนนำเยาวชนอีกคนอ้างว่า พวกเขาได้ประท้วงอย่างสันติหลังจากได้รับอนุญาตจากนายกเทศมนตรีของกรุงกาฐมาณฑุ แต่รัฐบาลกลับสั่งให้ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่พวกเขาเพื่อหวังสลายการชุมนุมจนนำไปสู่ความรุนแรงเป็นเหตุจลาจลนองเลือด เผาทำลายอาคารรัฐสภา จนนายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี ต้องลาออก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มเป็น 34 ราย บาดเจ็บ 1,033 คน ส่วนเมื่อวานนี้ ทหารยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนที่เงียบสงบของกรุงกาฐมาณฑุ ร้านค้าและโรงเรียนยังคงปิด ส่วนหน่วยงานบริการสำคัญบางแห่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เหตุความวุ่นวายในเนปาลรอบนี้ มีที่มาจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถูกยกเลิกไปหลังจากมีผู้เสียชีวิต 19 รายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่การประท้วงจะขยายไปเป็นการต่อต้านการทุจริตของนักการเมืองและข้าราชการ รวมถึงบรรดาลูกท่านหลานเธอและอภิสิทธิ์ชน ที่นำเสนอชีวิตหรูหราสุขสบายของพวกเขาผ่านทางสื่อออนไลน์ ในขณะที่ชาวเนปาลจำนวนมากยังมีชีวิตที่ยากลำบาก การประท้วงนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคนเจนซี […]

อุตุฯ เผยไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย