ก.มหาดไทย 26 พ.ค.-“อนุทิน” มั่นใจ ถกร่างงบฯ 69 ไม่สะดุด ย้ำภูมิใจไทยไม่มีโหวตขวาง หลังถูกปูดจ่อคว่ำ บอกทำมากับมือ 4 กระทรวงงบ 1 ล้านล้านบาท
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความพร้อมก่อนการอภิปราย ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 28-31 พฤษภาคมนี้ ว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะงบประมาณนี้ ผ่านการพิจารณาทั้งระดับกระทรวง และคณะรัฐมนตรีมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตรงนี้ถือว่าพรรคร่วมรัฐบาล เห็นชอบด้วย ส่วนที่บอกว่าพรรคภูมิใจไทยจะขวางและโหวตสวนนั้น ไม่ทราบว่าใครพูด แต่ยืนยันว่าไม่ใช่พรรคภูมิใจไทยอย่างแน่นอน เพราะเราทำงบประมาณในส่วนนี้ขึ้นมาเอง ทั้ง 4 กระทรวงที่ภูมิใจไทยกำกับดูแลอยู่ ซึ่งงบประมาณกว่า 1 ล้านล้านบาท ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สนับสนุน และต้องเร่งเพื่อให้สามารถดำเนินการให้กับประชาชน
เมื่อถามย้ำว่าทุกเสียงของพรรคภูมิใจไทยจะยกมือสนับสนุนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็เป็นรัฐบาล
ส่วนงบประมาณนี้จะราบรื่นไม่มีสะดุดใช่หรือไม่นายอนุทิน ย้ำว่า ไม่มีสะดุดอยู่แล้วเพราะเราทำมากับมือ และผ่านครม.มาเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นต้องไม่พูดเพื่อให้เกิดความกังวล หรือทำให้คนเห็นว่ารัฐบาลขัดแย้งกัน ซึ่งไม่มี
ส่วนพรรคภูมิใจไทยและพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมพร้อมแล้วหรือไม่ หลังจากที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมขุนพลกว่า 50 คนในการอภิปรายชำแหละงบประมาณ นายอนุทิน ยืนยันว่า ก็ต้องชี้แจง กระทรวงใดๆที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นเจ้ากระทรวงก็ต้องพร้อม ก็เกิดขึ้นทุกปีและตนผ่านมาแล้ว และในส่วนของตนครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งที่ 6 ที่ได้ชี้แจงแล้ว ฉะนั้นก็ต้องมีความพร้อมและรู้ว่าคู่ซักฟอกต้องการทราบอะไร ซึ่งเราก็ต้องชี้แจง อย่าไปมองว่าเขามีเจตนาร้าย หากเขามีข้อสงสัยอะไรมาเราก็ต้องเตรียมข้อมูลเพื่อไปหักล้าง ก็จะทำให้คนถามและคนตอบเคลียร์
ส่วนความคืบหน้าการเสนอโครงการในส่วนของกระทรวง มหาดไทยจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ที่วันนี้จะสิ้นสุดการขอโครงการ นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเจ้าภาพในการรวบรวมคำขอ ซึ่งจะมีการพิจารณาในเบื้องต้นก่อน ก่อนส่งต่อให้คณะอนุกรรมการ ที่กระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณา เพื่อตรวจสอบว่าเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ ซึ่งจะเน้นไปที่ 3 โครงการหลัก คือโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง ระบบน้ำ การป้องกันน้ำท่วมการกักเก็บน้ำ และการท่องเที่ยว ซึ่งมีกรอบอยู่.-319.-สำนักข่าวไทย