ปภ. เตือน 52 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-ดินโคลนถล่ม

กทม 23 ก.พ.-ปภ. มหาดไทย แจ้ง 52 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ช่วง 23-27 พ.ค.68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือ

กระทรวงมหาดไทย เผยแพร่ข้อความผ่าน Facebook กระทรวงมหาดไทย PR ระบุ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยง และบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้สามารถเข้าเผชิญเหตุ และช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์ และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง


นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศ และพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (121/2568) ลงวันที่ 21 พ.ค. 68 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 23 – 27 พ.ค. 68 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้มีประกาศฉบับที่ 5/2568 ลงวันที่ 20 พ.ค. 68 แจ้งเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมือง รวมถึงเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 23 – 27 พ.ค. 68 ดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม
ภาคเหนือ จำนวน 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอแม่ลาน้อย แม่สะเรียง และอำเภอสบเมย) เชียงใหม่ (อำเภอแม่อาย เชียงดาว พร้าว แม่แตง สะเมิง และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย ขุนตาล เชียงของ ดอยหลวง แม่จัน แม่ลาว และอำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน) ลำปาง (อำเภอเกาะคา และอำเภอสบปราบ) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอลอง วังชิ้น และอำเภอสูงเม่น) น่าน (อำเภอเชียงกลาง ท่าวังผา ทุ่งช้าง บ่อเกลือ ปัว ภูเพียง แม่จริม เวียงสา และอำเภอสองแคว) อุตรดิตถ์ (อำเภอน้ำปาด และอำเภอบ้านโคก) ตาก (อำเภอท่าสองยาง พบพระ วังเจ้า และอำเภออุ้มผาง) สุโขทัย (อำเภอศรีสัชนาลัย และอำเภอสวรรคโลก) กำแพงเพชร (อำเภอลานกระบือ) พิษณุโลก (อำเภอชาติตระการ นครไทย และอำเภอบางระกำ) เพชรบูรณ์ (อำเภอหล่มเก่า) และจังหวัดอุทัยธานี (อำเภอบ้านไร่)


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย (อำเภอภูกระดึง ภูเรือ ภูหลวง และอำเภอวังสะพุง) หนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย และอำเภอโพนพิสัย) บึงกาฬ (อำเภอเซกา และอำเภอบึงโขงหลง) อุดรธานี (อำเภอบ้านผือ และอำเภอเพ็ญ) สกลนคร (อำเภอเมืองสกลนคร โคกศรีสุพรรณ เต่างอย โพนนาแก้ว ภูพาน และอำเภออากาศอำนวย) นครพนม (อำเภอนาแก นาทม นาหว้า บ้านแพง และอำเภอศรีสงคราม) ชัยภูมิ (อำเภอเมืองชัยภูมิ เกษตรสมบูรณ์ คอนสวรรค์ และอำเภอคอนสาร) ขอนแก่น (อำเภอบ้านแฮด ภูผาม่าน แวงน้อย และอำเภอแวงใหญ่) มหาสารคาม (อำเภอกุดรัง โกสุมพิสัย บรบือ พยัคฆภูมิพิสัย และอำเภอยางสีสุราช) กาฬสินธุ์ (อำเภอกุฉินารายณ์ ดอนจาน และอำเภอร่องคำ) มุกดาหาร (อำเภอเมืองมุกดาหาร ดงหลวง นิคมคำสร้อย และอำเภอหนองสูง) ร้อยเอ็ด (อำเภอพนมไพร โพธิ์ชัย โพนทอง เมยวดี สุวรรณภูมิ เสลภูมิ และอำเภอหนองพอก) ยโสธร (อำเภอเมืองยโสธร กุดชุม ค้อวัง ทรายมูล และอำเภอเลิงนกทา) อำนาจเจริญ (อำเภอเมืองอำนาจเจริญ ชานุมาน ปทุมราชวงศา พนา และอำเภอลืออำนาจ) นครราชสีมา (อำเภอปากช่อง และอำเภอวังน้ำเขียว) ศรีสะเกษ (อำเภอเมืองศรีสะเกษ ขุนหาญ และอำเภอราษีไศล) และจังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเมืองอุบลราชธานี นาจะหลวย และอำเภอวารินชำราบ)

ภาคกลาง จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอทองผาภูมิ ไทรโยค ศรีสวัสดิ์ และอำเภอสังขละบุรี) ราชบุรี (อำเภอบ้านคา) นครนายก (อำเภอเมืองนครนายก ปากพลี และอำเภอบ้านนา) ปราจีนบุรี (อำเภอเมืองปราจีนบุรี ประจันตคาม กบินทร์บุรี และอำเภอนาดี) สระแก้ว (อำเภอตาพระยา) ฉะเชิงเทรา (อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบ้านโพธิ์) ชลบุรี (อำเภอบางละมุง พนัสนิคม และอำเภอพานทอง) จันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี ขลุง ท่าใหม่ นายายอาม และอำเภอแหลมสิงห์) ตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง คลองใหญ่ บ่อไร่ และอำเภอแหลมงอบ) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

ภาคใต้ จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร ท่าแซะ ละแม สวี และอำเภอหลังสวน) สุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี บ้านตาขุน บ้านนาสาร และอำเภอพนม) นครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ท่าศาลา และอำเภอพรหมคีรี) สงขลา (อำเภอสะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอบันนังสตา เบตง และอำเภอยะหา) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ แว้ง และอำเภอสุไหงปาดี) ระนอง (อำเภอเมืองระนอง ละอุ่น และอำเภอสุขสำราญ) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง เกาะยาว คุระบุรี ตะกั่วป่า และอำเภอท้ายเหมือง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) และจังหวัดกระบี่ (อำเภอคลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก)


สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน น่าน แพร่ พะเยา สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ หนองคาย สกลนคร ชัยภูมิ มุกดาหาร นครพนม นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สระแก้ว ชลบุรี ตราด สุพรรณบุรี สระบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และจังหวัดสงขลา

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นทีเสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ขอให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องและปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้นในพื้นที่

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยรายพื้นที่ได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย