“สว.สำรอง” ทวง กกต. ร้องสั่ง “แสวง บุญมี” ยุติปฏิบัติหน้าที่

กกต. 21 พ.ค.-“สว.สำรอง” ทวง กกต. ร้องสั่ง “แสวง บุญมี” ยุติปฏิบัติหน้าที่ กรณีฮั้ว สว.ไม่คืบ “มนัส” แจงแจ้งโพยฮั้วตั้งแต่ มิ.ย.67 แต่เงียบ

กลุ่ม สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ยื่นหนังสืติดตามความคืบหน้าเรื่องร้องเรียนขอให้ กกต. มีคำสั่งให้นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ยุติการปฏิบัติหน้าที่ โดย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้นายแสวง ยุติการปฏิบัติหน้าที่ และได้ทวงถามความคืบหน้ามาหลายครั้ง และ กกต.ก็ได้มีมติออกมาว่านายแสวง ไม่ได้กระทำความผิด


ขณะที่ทางกลุ่มได้ทำจดหมายเปิดผนึกต่อ กกต.จำนวน 10 ฉบับ เพื่อให้ทบทวนมติ กกต.แต่จนบัดนี้ ประธาน กกต.ก็ไม่ดำเนินการใดๆ ดังนั้นวันนี้จึงจะส่งจดหมายเพิ่มอีก 1 ฉบับ ให้กับประธาน กกต. และคณะกรรมการ 5 คน ได้ทบทวนและดำเนินการ

เนื่องจากข้อกล่าวหา พ.ต.อ.มนัส นครศรี อดีตผู้ตรวจการเลือกตั้ง ที่เป็นผู้แจ้งและยื่นโพย เรื่องการฮั้ว ตั้งแต่การเลือกระดับประเทศ ทั้งหมดมีมูลเพียงพอ แต่นายแสวง ไม่ดำเนินการ ดังนั้นผู้บังคับบัญชาก็จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบ และพักงานนายแสวง โดยขอให้ประธาน กกต.หยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาเพื่อตอบกับสังคมให้ชัดเจน ว่าไม่ได้ช่วยเหลือกัน เนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมของนายแสวง มีความชัดเจนแล้ว ซึ่งการสอบฮั้ว สว. ไม่มีความคืบหน้าเป็นเพราะนายแสวง และล่าสุดมีคณะทำงานร่วมของ กกต.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำท่าว่าจะเป็นไปด้วยดี แต่ก็มีสัญญาณบางอย่างที่อาจจะทำให้กระบวนการติดขัด ดังนั้นนายแสวง ไปนั่งข้างๆห้องน่าจะดีที่สุด


ส่วนกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกหนังสือแนะนำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 2 ฉบับ เกี่ยวกับการให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ ในการสอบสวนกระบวนการฮั้วเลือก สว. ซึ่งเห็นว่าเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวเป็นไปในลักษณะหลบเลี่ยง หลีกเลี่ยง อิดออด ที่จะให้ความร่วมมือในหลายประการ ทางกลุ่มจึงมีหนังสือส่งให้ กกต. เพื่อขอให้คณะกรรมการใช้อำนาจตามกฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการสืบสวนไต่สวน กกต.สามารถสั่งให้หน่วยงานทุกหน่วยต้องสนับสนุนภารกิจของ กกต. ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยอาจจะลืมไปว่ามีหน้าที่ให้ความร่วมมือเฉพาะดีเอสไอ จึงขอให้ กกต.ใช้อำนาจทำหนังสือหรือขอความร่วมมือไปยังกระทรวงมหาดไทย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่กระทรวงมหาดไทยอิดออดในเรื่องนี้ เป็นเพราะในการเลือก สว.ระดับอำเภอ กกต.ได้ตั้งเจ้าหน้าที่กรมการปกครองเป็น กกต. ท้องถิ่น และอำเภอ ตอนกระบวนการรับผิดชอบในขั้นตอนกระบวนการรับสมัคร การบริหารจัดการเลือก สว. รวมทั้งการรายงานผล ซึ่งในช่วงที่มีการเปิดรับสมัครนั้นพบว่าในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่ กกต.ในระดับอำเภอ ได้รายงานจำนวนผู้สมัครในแต่ละวันไปยังผู้ที่มีหน้าที่บริหารจัดการเรื่องฮั้ว หาคน เกณฑ์คนมาสมัคร เพื่อให้ครอบคลุมในกลุ่มต่างๆ จึงทำให้กระบวนการฮั้วทำได้ดีเพราะมีคนส่งข้อมูล

นอกจากนี้การตรวจสอบคุณสมบัติในระดับอำเภอ ก็มีการตรวจสอบที่หละหลวม จึงมองว่าเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอเข้าไปมีส่วนร่วมกับกระบวนการ จึงเป็นที่มาของจ.อำนาจเจริญ ที่ทำหนังสือหารือถึงความร่วมมือกับดีเอสไอ ซึ่งอาจจะกังวลหรือหวั่นเกรง จึงได้เห็นหนังสือแนะนำออกมาอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว พร้อมกันนี้ก็ขอให้กกต.ใช้กรณีความปรากฏดำเนินการเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอ ตรวจสอบกรณีอาจเข้าไปมีส่วนร่วมหรือพัวพันที่ก่อให้เกิดการทุจริตหรือปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมายการเลือกสว.ตั้งแต่ระดับอำเภอ

ด้านพ.ต.อ.มนัส กล่าวตอบโต้การชี้แจงของสำนักงาน กกต.กรณีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดได้รายงานว่าจะมีการฮั้วเลือก สว.หลังวันเลือก สว.ระดับประเทศไปแล้วว่า สิ่งที่ กกต.ชี้แจงไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้กล่าวหาผู้สมัคร สว.แม้แต่คนเดียว เพียงแต่เบาะแสไปแจ้งต่อนายแสวง ซึ่งเป็นเลขาธิการ กกต. และเป็น ผอ.การเลือกระดับประเทศได้รับทราบเบาะแส ว่ามีคนนำโพยฮั้ว โพยจัดตั้ง เข้าไปในสถานที่เลือก โดยเขียนไว้ในหนังสือ สว. 3 ขอให้ยึดหนังสือ สว. 3 เพื่อให้การเลือกเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม และไม่เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งหลังได้รับคำร้องก็แจ้งต่อนายแสวง ทันทีก่อนที่กระบวนการเลือก สว.จะเริ่มขึ้น เพื่อให้แจ้งต่อคณะกรรมการดำเนินการ แต่นายแสวง กลับไม่ดำเนินการใดๆ ตามขั้นตอนของกฎหมายทั้งที่มีเหตุอันควรสงสัยแล้ว ซึ่งตนไม่ได้ขอเปิดดูหนังสือ สว.3 ของผู้สมัคร ถ้านายแสวง แจ้งให้กับ กกต.รับทราบและดำเนินการ กระบวนการฮั้วสว.ในวันนี้ก็ไม่เกิดขึ้น ในเมื่อนายแสวง เป็นเลขาฯ กกต. คุมกระบวนการสืบสวนไต่สวน ถือเป็นตัวหลักและเป็นคนที่เปิดประตูที่จะให้การเลือก สุจริตหรือไม่ ในวันดังกล่าว


“ผมยังเชื่อมั่นการทำหน้าที่ของ กกต.ที่ทำเพื่อประเทศชาติ แต่เมื่อเจอ กกต.มีพฤติกรรมช่วยเหลือพวกเดียวกัน ไม่ตั้งกรรมการสืบสวน ไม่ดำเนินการทางวินัย แถมยังให้ลูกน้องมาสอบลูกพี่อีก และผมได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินด้วย เมื่อเดือน ต.ค.ปี 2567 จนถึงวันนี้ ผมก็ได้ดำเนินการทวงถามความคืบหน้าในครั้งที่ 4 ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ องค์กรอิสระช่วยเหลือกันหรือไม่” พ.ต.อ.มนัส กล่าว

พ.ต.อ.มนัส ได้นำภาพถ่ายคู่กับนายแสวง มาโชว์ต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า ภาพใบนี้เป็นการยืนยันว่าตนได้แจ้งเบาะแสให้นายแสวงรับทราบในวันที่ 26 มิ.ย.เวลา 08.29 น. แล้ว หากตนพูดไม่เป็นความจริงก็ขอให้นายแสวง บอกว่าสิ่งที่ตนรายงานไว้ในแบบรายงานแบบผู้ตรวจการเลือกตั้ง ไม่เป็นความจริง ก็ขอให้ดำเนินคดีกับตน และขอให้นายแสวง ออกมาเปิดเผยแบบรายงานผู้ตรวจการเลือกตั้ง ที่ได้รายงานไว้เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567 ขอให้ออกมาชี้แจงสิ่งที่ตนรายงานไว้ในใบผู้ตรวจการเลือกตั้งเป็นความจริงหรือไม่ หากไม่จริง ก็ขอให้ดำเนินคดีกับตนได้เลยขอบคุณครับ

ขณะที่นายพิศุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร ศิลปินนักร้อง ในฐานะ สว.สำรอง ร้องเพลงขอบคุณเพื่อส่งสัญญาณเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่าดีเอสไอ เป็นหน่วยงานเดียวที่จะทำให้ได้ความยุติธรรม ร้องว่า “ดีเอสไอช่วยด้วย ดีเอสไอช่วยที ช่วยทำความจริงให้ปรากฎ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ปิดเกาะล่า ฆ่าเปลือย-รัดคอพยาบาลหมกศพในหอพัก

สุราษฏร์ธานี 21 พ.ค. – พบศพพยาบาลสาว ถูกคนร้ายฆ่ารัดคอทิ้งศพเปลือยบนเตียงนอน แถมขโมยรถยนต์ผู้ตายไปด้วย ตำรวจปิดเกาะสมุยไล่ล่า ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสองชั้น ของโรงบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุยจ.สุราษฎร์ธานี โดยในห้องพักชั้นสอง พบศพ นางสาวอัญชุลี อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพ เสียชีวิตสภาพนอนหงายบนที่นอน ไม่สวมเสื้อผ้า ใส่แต่กางเกงในสีดำ ที่ลำคอมีเสื้อยืดสีขาวรัดไว้แน่น สิ่งของบนพื้นข้างเตียงกระจัดกระจาย ยังพบกล่องถุงยางอนามัยหนึ่งกล่อง ไม่พบร่องรอยบาดแผล มีเพียงรอยเขียวคล้ำที่ลำคอ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นซูเปอร์ไวเซอร์พยาบาลวิชาชีพ โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลบ่อผุด คืนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นผู้ตายที่เพิ่งเลิกงานกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่ทำงาน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถยนต์นิสสันสีเทา ทะเบียน กทม. ออกไป และขับกลับเข้ามาเวลาประมาณตี 2 เศษ จากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกันแล้วเงียบหายไป จนตอนเช้า เพื่อนไปหา พบว่าห้องถูกปิดและติดต่อผู้ตายไม่ได้ กระทั่งมารู้ว่าเสียชีวิตภายหลัง เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และพบว่ารถยนต์ของผู้ตายหายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ตำรวจระดมกำลังมกำลังปิดเส้นทางการหลบหนี บริเวณท่าเรือทั้งสองท่า พร้อมนำพยานกลุ่มเพื่อน ผู้ตายไปสอบปากคำ โดยให้การว่า […]

ผู้เชี่ยวชาญคาดบ่ายพรุ่งนี้ นำร่างคนงานขึ้นจากหลุมสำเร็จ

กทม. 21 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยผู้เชี่ยวชาญ คาดพรุ่งนี้ช่วงบ่าย นำร่างคนงานผู้สูญหายขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตรได้ ย้ำการทำงานทุกขั้นตอนคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ภารกิจค้นหาคนงานผู้สูญหายที่ตกหลุมลึก 19 เมตรในโครงการขุดเจาะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณถนนหลานหลวง ใกล้ปากซอยหลานหลวง 8 หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นมา 48 ชั่วโมงแล้ว วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครนขุดเจาะเพื่อขุดหลุมค้นหาร่างผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและทีมกู้ภัย ระบุว่า อุปสรรคในการปฏิบัติงานในขณะนี้คือความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากอุปกรณ์ชีทไพล์หรือแผ่นเหล็กกั้นดินสไลด์ ที่ติดตั้งลึกถึงสามชั้น ประมาณรวม 16 เมตร ซึ่งด้านล่างมีแรงดันของดินและน้ำมหาศาล ทำให้ระหว่างการขุดดินจะต้องทำโครงสร้างค้ำยัน ชีทไพล์เป็นระยะๆ ในแต่ละชั้น ซึ่งตอนนี้สามารถทำโครงสร้างค้ำยันในชั้นที่สามแล้วถือเป็นชั้นลึกสุด นายชัชชาติ เผยว่าเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ คาดการณ์ว่าหากไม่มีอุปสรรคอย่างอื่นเพิ่มเติม ภายในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ช่วงบ่ายจะสามารถนำร่างผู้สูญหายขึ้นมาได้ ประเมินว่าร่างของผู้สูญหายน่าจะอยู่ในระดับความลึกจากพื้นผิวถนนประมาณ 12 เมตร ไม่ใช่ 16 เมตร อย่างที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนประเด็นญาติของผู้สูญหายซึ่งเป็นพี่ชายและน้องชาย ทำงานด้วยกันขณะเกิดเหตุด้วย […]

นายกฯ นำทีมไทยแลนด์ถึงลอนดอนแล้ว จ่อพบเจ้าของค่ายมวยไทย

สหราชอาณาจักร 21 พ.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ นำทีมไทยแลนด์เดินทางถึงลอนดอนแล้ว เตรียมพบเจ้าของค่ายมวยไทยยักษ์ใหญ่ในอังกฤษ พร้อมร่วมกันผลักดันศิลปะมวยไทยให้เป็นสินค้า “เมดอินไทยแลนด์” พร้อมพบผู้บริหารซูเปอร์สโตร์ หารือเปิดตลาดขยายโอกาสสินค้าและซอฟต์พาวเวอร์ไทย ให้กระจายทั่วยุโรป เวลา 10.00 น. กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (ซึ่งตรงกับเวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ที่ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เดินทางถึง ท่าอากาศยาน Heathrow กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อร่วมประชุมหารือทีมไทยแลนด์ ส่งเสริม สินค้าและบริการไทย ผลักดัน Soft Power กีฬาไทย ขยายตลาดเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการของไทย ในสหราชอาณาจักรและยุโรป ช่วงบ่ายวันนี้ เวลา 14.45 น. ตรงกับเวลา 20.45 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเข้าพบกับเจ้าของและผู้บริหาร ร่วมทั้งครูผู้ฝึกสอนค่ายมวยไทย […]

ลุ้นพรุ่งนี้ ศาลปกครองนัดชี้ขาด “ยิ่งลักษณ์” คดีทุจริตจำนำข้าว

ศาลปกครอง 21 พ.ค.-ลุ้นบ่ายพรุ่งนี้ ศาลปกครองสูงสุด นัดชี้ขาด “ยิ่งลักษณ์” ต้องชดใช้เงิน 35,717 ล้านบาท คดีทุจริตจำนำข้าวหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุด นัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่า กระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด […]