สุวรรณภูมิ 16 พ.ค.-“ภูมิธรรม” พร้อมรับหาก นายกฯ มอบดูดีเอสไอชั่วคราว ยันทำหน้าที่ตามครรลอง ยังไม่ได้มองไปถึงผลชี้ขาดเป็นบวกหรือเป็นลบ บอกนานาทัศนะหากคนมองคดีฮั้ว สว. เป็นนิติสงคราม ย้ำไม่มีแดงไม่มีน้ำเงิน ยังส่งดอกไม้ไปเยี่ยม “อนุทิน”
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่สั่งให้พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหยุดปฎิบัติหน้าที่ในส่วนที่ควบคุมดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกรรมการคดีพิเศษว่า พันตำรวจเอกทวีกำกับดูแลดีเอสไอ เมื่อถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับดีเอสไอ ในฐานะรองประธานคดีพิเศษ ทราบจากนายกรัฐมนตรีว่าในวันอังคารที่จะถึงนี้จะพิจารณาแต่งตั้งบุคคลมากำกับดูแล
ในฐานะประธานคดีพิเศษของดีเอสไอ ยืนยันที่จะปฏิบัติ ทุกอย่างให้เป็นไปตามกฏหมาย ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าอาจจะส่งผลกระทบเกี่ยวข้องกับงานก็เป็นเรื่องที่ไป ส่วนตนเองศาลได้พิจารณาแล้วให้ความเมตตาไม่มีปัญหาอะไรที่เกี่ยวข้อง ยอมรับว่าสบายใจขึ้น เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง แต่ได้กำกับดูแลคดีและดำเนินดำเนินการไปตามคันรองในฐานะประธานคณะกรรมการที่มีเรื่องเสนอขึ้นมา
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ไปดูแล ดีเอสไอโดยตรง แทนหนักใจหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา หากผู้บังคับบัญชามอบหมายก็ปฏิบัติตามนั้น โดยไม่กังวลว่าจะต้องถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับพันตำรวจเอกทวี เพราะว่าจะต้องดำเนินไปตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ย้ำว่าทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อถามถึงมองไปถึงซีนาริโอที่ศาลวินิจฉัยชี้ขาดไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือทางลบจะมีการเตรียมรับมือหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าไม่ได้เตรียม ถือว่าให้ทำตามหน้าที่ โดยศาลก็มีอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัย ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของศาลที่จะพิจารณา โดยมีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารและหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ส่งให้ศาลพิจารณาวินิจฉัย
“ผมชี้แจงความเป็นจริงทั้งหมดที่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง ว่าเป็นประธานคดีพิเศษ เมื่อมีผู้ร้องเข้ามาและปฏิบัติตามกระบวนการ โดย เลขาธิการ กกต. ทำเรื่องมา เราก็รับมาพิจารณา พอจะเข้าคดีพิเศษก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมายแล้วก็มีการพิจารณากัน โดยโดยรวมวันนั้นได้พิจารณาแล้วแยกคดีอะไรที่เป็นอำนาจ กกต. ก็ให้ว่าไป อะไรที่เป็นอำนาจของคดีพิเศษก็ไปรวบรวมหลักฐานซึ่งยังไม่ได้ตัดสินว่าใครเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับข้อกล่าวหา และดูที่หลักฐานว่าไปถึงหรือไม่ หากหลักฐานครอบคลุมไปถึงก็ว่าไปตามนั้นหากครอบคลุมไม่ถึงก็อยู่ที่ดุลย์พินิจของศาลที่จะพิจารณา” นายภูมิธรรม กล่าว
ส่วนที่คอการเมืองตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เป็นนิติสงครามระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรมมองว่าเป็นนานาทัศนะ ตนก็ถือว่าตนทำตามหน้าที่
ส่วนที่มีการมองไปถึงขั้นว่าสีแดงกำลังเพลี่ยงพล้ำสีน้ำเงินนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่มีแดงไม่มีน้ำเงิน เรื่องนี้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าข้อเท็จจริงสะท้อนว่ามีปัญหาก็ว่าไปตามปัญหาที่มี อย่าไปจินตนาการเรื่องขัดแย้งเยอะ ตนก็ยังส่งแจกันดอกไม้ไปเยี่ยมรัฐมนตรีที่ป่วยทุกคน-313.-สำนักข่าวไทย