สว.ฉัตรวรรษ ขอโทษ กกต. ใช้คำก้าวร้าว

รัฐสภา 15 พ.ค.-สว.ฉัตรวรรษ ขอโทษ กกต. ใช้คำก้าวร้าว ยันไม่คิดเป็นการสัมภาษณ์สื่อ คิดแค่คุยธรรมดา เตรียมนัดคุยเพื่อน สว. ที่ถูกหมายเรียก 19 พ.ค.นี้ ขอตั้งหลักก่อน ยังไม่รู้จะแจงอะไร

พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แถลงชี้แจงกรณีที่ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลธรรมนูญ มีมติสั่งพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหยุดปฎิบัติหน้าที่กำกับดูแลกรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า จากข่าวที่ถูกนำเสนอเหมือนการใช้คำรุนแรงนั้น ถือเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์กับสื่อมวลชนกันธรรมดา เป็นพี่เป็นน้องอาจใช้คำพูดในลักษณะหนึ่ง ที่มีนักข่าวผู้หญิงโทรศัพท์ หาตนซึ่งเพิ่งลงจากเครื่อง และสื่อไม่ได้บอกว่าจะขอเป็นข่าว ส่วนการแถลงข่าวคือการแถลงข่าว ต่อสาธารณะในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งนักข่าวได้สอบถามกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหยุดปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับดีเอสไอซึ่งตอนนั้น ตนจำไม่ได้ทั้งหมดว่าพูดคุยอะไรไปบ้าง แต่ดูจากภาพข่าวเข้าใจได้ว่า ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ สิ่งที่เห็นว่าไม่สมควรคือการพูดคุยไม่น่าไปอัดคลิป และนำไปออกข่าวนำเสนอ ถ้าบอกก่อนว่าจะอัดคลิป ไปเสนอข่าวจะใช้คำพูดอีกแบบ แต่ถ้าพูดคุยกันธรรมดา จะพูดคุยตามประสา


พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ กล่าวว่าวันนี้ จึงมาขอโทษที่ พูดไปทำให้สังคมเข้าใจว่า ตนเป็นคนที่ไม่มีเจตนาก้าวร้าว ไม่เคารพในองค์กร ขออนุญาตบอกว่าตนไม่มีจิตใจเป็นเช่นนั้น การแถลงข่าวทุกครั้งจะเคารพทุกองค์กรและขอโทษสังคมจริงๆ ต่อข่าวที่ได้เผยแพร่ไป และไม่ถือโทษโกรธผู้ที่อัดคลิป แม้จะมองว่าเป็นการผิดจริยธรรมของสื่อมวลชน ตนพร้อมที่จะให้ข้อมูล แต่ต้องบอกว่าอัดคลิปหรือเชิญไปให้สัมภาษณ์ ก็จะตอบให้ จึงอยากมาชี้แจงและขอโทษโดยเฉพาะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทุกเรื่องพร้อมที่จะพิสูจน์ สว.ทุกคนก็พร้อม เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายทำด้วยความสุจริตและโปร่งใสเราพร้อมหมด แม้กระทั่งการไปชี้แจงต่ออนุกรรมการ กกต. หรือในส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนข้อเท็จจริง คือข้อเท็จจริง และข้อเท็จจริงอาจจะจริงหรือเท็จก็ได้ ในส่วนที่เรารับทราบมา ซึ่งตนยังไม่ทราบว่าข้อมูลที่จะไปให้การต่ออนุกรรมการ กกต. แม้จะเป็นคนหนึ่งที่ได้รับหมายเรียก

พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ กล่าวต่อว่า ในฐานะเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ การเชิญกลุ่มคนมาให้ถ้อยคำหรือเป็นพยานต้องชี้แจงประเด็นว่าจะ สอบประเด็นใดบ้าง ไม่ใช่แจ้งข้อหาผิด เกี่ยวกับการกระทำ เท่าที่ได้อ่านเอกสารดู ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปตอบประเด็นใด ทั้งนี้อยากย้อนกลับไปยังผู้ตั้งคำถามที่กล่าวหา ว่ามีประเด็นที่จะให้ตอบหรือไม่อย่างไร และในเอกสารระบุว่าจะไปให้ถ้อยคำหรือไม่ไปก็ได้ พร้อมให้มีบุคคลหนึ่งบุคคลใดติดตามไปด้วยก็ได้ 1 คน ซึ่งถ้าสอบกันโดยเที่ยงธรรมก็ต้องสอบทั้ง 200 คน ไม่ใช่จะเอากลุ่มหนึ่งกลุ่มใดแล้วไปตั้งสีนั้นสีนี้ ตนไม่เข้าใจ ไปแล้วไม่สามารถไปตอบคำถามท่านได้ก็ไม่มีประโยชน์ ต้องดูเหตุและผล โดยจะหารือกับสมาชิกวุฒิสภาทุกคน ที่ถูกเรียกหรือที่จะต้องถูกเรียกในอนาคตให้เป็นรูปแบบเดียวกัน ยังมีเวลาอยู่ก่อนจะถึงวันที่ 19 พ.ค.


“ผมในฐานะตำรวจอาชีพการพูดคุยกับใครหรือการอัดคลิป ถือว่าไม่ให้เกียรติ ควรมาพูดคุยกัน ยิ่งถ้าเป็นผู้บังคับบัญชาสายตำรวจเรียบร้อยเลย เราไม่เคยกระทำ ผมไม่ถือโทษ แต่ต้องขอโทษสังคมหากข่าวที่เสนอไปกระทบสังคมไม่ว่าองค์กรใดโดยเฉพาะ กกต. ผมมีความเคารพเพราะการได้มาของผม กกต. พิจารณาว่าบริสุทธิ์ยุติธรรมแต่ตอนนี้เมื่อมีการร้องเรียนก็ต้องทำไปตามกระบวนการ ผมพร้อมรับทุกเงื่อนไขทุกกรณีที่กกต.พิจารณาวินิจฉัย เรื่องการได้มา สว. ตามรัฐธรรมนูญ” พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ กล่าว

ส่วนสาเหตุที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ กล่าวว่า ไม่ทราบและไม่ขอก้าวล่วง แต่การดำเนินการของดีเอสไอ มีความไม่โปร่งใส ทำให้ประชาชนที่ถูกเรียกสอบเป็นพยานโดยเฉพาะในจังหวัดอำนาจเจริญ ทำให้ สว.อำนาจเจริญ ได้รับความเดือดร้อนจากคนที่ถูกพนักงานสอบสวนของดีเอสไอสอบสวน ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม รู้สึกว่าถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ จึงร้องเรียนมาที่ สว. อำนาจเจริญ และนำมาเสนอที่วุฒิสภา ซึ่งตนพิจารณาแล้วเห็นควรให้ยื่นเพิ่มเติมไปต่อศาลรัฐธรรมนูญเพราะมองว่าการสอบสวนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินแต่เป็นการได้ว่าซึ่ง สว. ซึ่งไม่เข้าข่ายคดีพิเศษ แต่จะเป็นเพราะประเด็นนี้หรือไม่ ตนไม่ทราบ ไม่อาจก้าวล่วงการพิจารณาของศาลได้

ส่วนแนวทางการต่อสู้ประเด็นข้อกล่าวหาเรื่องสัญญาว่าจะให้ พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ กล่าวว่า การจะต่อสู้คดีเราจำเป็นต้องได้ข้อเท็จจริงจากข้อกล่าวหาก่อนว่า ตนไปสัญญาว่าจะให้กับใครที่ไหนอย่างไร เพื่อให้มีประเด็นที่จะไปตอบคำถาม ถ้าบอกแค่ว่ามีความผิดเกี่ยวกับการฮั้วเลือก สว. แบบกว้างๆ ตนก็ไม่รู้ว่าจะไปตอบประเด็นไหน ซึ่งวันนี้ตนกลับมาอ่านเอกสารแล้วจะกลับไปทำคำชี้แจงของตัวเอง ยืนยันว่าจะชี้แจงอย่างแน่นอนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์แต่จะต้องเป็นขั้นเป็นตอน แต่ถ้า กกต. ไม่เชื่อตรงไหนจะกำหนดวันไปชี้แจงด้วยตนเอง


ส่วนการนัดหารือกับเพื่อน สว. ที่ถูกออกหมายเรียกและคาดว่ากำลังจะถูกออกหมายเรียกนั้น พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ กล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงของแต่ละคนเป็นอย่างไรและในแต่ละพื้นที่บริบทไม่เหมือนกันคงจะไปชี้แจงแทนใครไม่ได้ แต่รูปแบบการชี้แจงและการได้มาคงคล้ายคลึงกัน

สำหรับกรณีที่ สว. ไม่เชื่อมั่นการทำหน้าที่ของคณะอนุกรรมการชุดที่ 26 นั้น พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ย้ำว่า ไม่ได้เป็นการต่อสู้ แต่เป็นการพิสูจน์ การได้มาซึ่งสว. ทุกคน เราพร้อมให้พิสูจน์ เราไม่ได้ไปรบกับใคร แต่ถูกกระทำฝ่ายเดียวมาตลอดจากการให้สัมภาษณ์สื่อ แต่เราไม่มีอะไรไปต่อสู้ทั้งที่ทุกวันนี้เราแทบจะเป็นจำเลยของสังคม แต่เราก็ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อ ตราบใดที่ กกต.รับรองเราว่ามาโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และเสนอมาที่ เลขาธิการวุฒิสภารับรองให้เราปฏิบัติหน้าที่ เราก็ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจที่ให้ไว้เท่านั้น ไม่ได้ไปก้าวก่าย

เมื่อถามว่ายอมรับกรมตรวจสอบของคณะอนุกรรมการชุดที่ 26 แล้วหรือไม่ พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ กล่าวว่า เขาได้พยานจากไหนตนไม่ทราบ แต่เมื่อมาประเมินแล้วว่าในชุดนี้มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอด้วย จึงน่าจะรับการตรวจสอบของดีเอสไอทั้งหมดเข้ามาพิจารณาและใช้อำนาจอนุกรรมการ กกต. เรียก สว.เข้าไปให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารไปชี้แจง ซึ่งเราอาจต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง เพราะอาจมี สว.ติดภารกิจหรือเดินทางไปต่างประเทศ และส่วนตัวจะขอตั้งหลักก่อนพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]