เมืองทอง 7 พ.ค.- “ภูมิธรรม” ชี้ องค์กรปราบทุจริต ต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันโลก-ใช้เทคโนโลยีช่วย สร้างความโปร่งใสต่อ ปชช. ยํ้า รบ.จริงจัง สอบตึก สตง.ถล่ม ยัน เร่งนําคนผิดมาลงโทษ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการเสวนาเชิงวิชาการ “บทบาทในการดำเนินคดีทุจริตภายใต้แนวนโยบายของรัฐบาลในมิติของปัจจุบันและอนาคตเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน” ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ว่า ตนได้ให้แนวทางในที่ประชุมว่า การปราบทุจริตต้องดำเนินการตามหลักการและหลักนิติธรรม และต้องมีการปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ให้ดีขึ้น ให้เท่าทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ และคนของหน่วยงานต้องมีคุณธรรม แม้จะมีการคัดเลือก แต่ก็ต้องมีการอบรมและพัฒนาศักยภาพ เพื่อปรับปรุงระบบให้รวดเร็วและทันสมัย ซึ่งตนเชื่อว่าระบบตรวจสอบจะดีขึ้น
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาในสังคมไทยมายาวนาน ประชาชนรู้สึกอึดอัด เพราะระบบและระเบียบเอื้อให้เกิดการทุจริต ดังนั้น จึงมีความพยายามในการแก้กฎระเบียบ เพื่อไม่ให้เอื้อต่อการทุจริต ในอนาคตต้องทำเรื่องนี้ให้ชัด ทำให้ประชาชนรู้สึกได้
เมื่อถามถึงกรณีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ทำให้ประชาชนตั้งข้อสงสัยถึงปัญหาการทุจริต นายภูมิธรรม กล่าวว่า สตง.เป็นหน่วยงานหลักในการติดตามตรวจสอบการกระทำทุกส่วน หรือโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา แต่เมื่อเกิดกรณีขึ้นมา ซึ่งหมายถึงความบกพร่องที่เกิดขึ้นในหลายขั้นตอน ตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงการซื้อวัสดุก่อสร้าง หรือการบริหารต่างๆ ขณะนี้ยังพูดไม่ได้ว่าใครเป็นผู้มีปัญหา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องมีการนำเข้าสู่กระบวนการโดยเร็วในการนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ ยอมรับว่าในการพิสูจน์วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เรื่องนี้ไม่ง่าย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่า ให้นำคนผิดมาลงโทษให้ได้ และเราต้องระมัดระวังไม่ให้คนบริสุทธิ์กลายเป็นจำเลยในเรื่องนี้ ยืนยันรัฐบาลจริงจังเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และทราบดีว่าวันนี้ประชาชนคลางแคลงใจและตั้งคำถาม หน้าที่ของเราคือทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏให้ได้ เพราะมันคลุมเครือ ทั้งหน่วยงานของรัฐและรัฐบาล ต้องนำความจริงมาตรวจสอบ
เมื่อถามว่า ประชาชนตั้งข้อสังเกตถึงงบประมาณที่นำไปสร้างอาคารของหน่วยงานรัฐต่างๆ ซึ่งไม่ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ไม่อยากให้กังวลจนกระทั่งเกิดปัญหาไปทั่ว ก็ว่าไปตามกรณี ขณะนี้ให้ผู้มีหน้าที่วางมาตรการเพื่อดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว-313 .-สำนักข่าวไทย