ทำเนียบ 1 เม.ย.-“นภินทร” รมช.พาณิชย์ เผยตั้งกรรมการลุยสอบบริษัทจีนสร้างตึก สตง. คนไทยเป็นนอมินีถือหุ้นหรือไม่ พบเกี่ยวพันกับอีก 13 บริษัท ระบุสรุปภายใน 7 วัน ลั่นใช้กฎหมายทุกข้อทุกฉบับจัดการ
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการใช้นอมินีคนไทยถือหุ้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) 51% ว่า ขณะนี้เราให้คณะกรรมการชุดใหญ่ ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญ ากรรมทางเศรษฐกิจ กรมสรรพากร ลงไปตรวจสอบโดยใช้อำนาจที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ให้ดำเนินการเรื่องนี้และสรุปภายใน 7 วัน โดยในวันเดียวกัน เวลา 13.30 น.จะมีการประชุมอย่างเร่งด่วน กรอบการประชุมมีหลายประเด็นด้วยกัน ซึ่งเป็นประเด็นที่ลึก ขอไม่กล่าวตรงนี้เพราะเกี่ยวพันกับรูปคดี อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพบว่า บริษัทนี้เกี่ยวพันกับบริษัทอื่นๆ อีกประมาณ 13 บริษัท และทั้งหมดทำงานและรับงานที่ไหนบ้าง เราจะตรวจสอบและดำเนินการอย่างเข้มข้นตามกฎหมายที่มีอยู่ทุกฉบับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นบริษัทดังกล่าวรับงานกี่โครงการ นายนรินทร กล่าวว่า ขออนุญาตเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เรากำลังสืบสวนสอบสวน ซึ่งหลังจากได้ข้อเท็จจริงจะมีการแถลงให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ยืนยันว่าจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าบริษัทนี้เกี่ยวพันกับอีกกี่บริษัท และแต่ละบริษัทรับงานในประเทศไทยอะไรบ้าง งานแล้วเสร็จที่ไหนบ้าง หรือยังก่อสร้างอยู่
เมื่อถามว่า หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบ บริษัทปิดเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ ทางบริษัทและทางกระทรวงพาณิชย์ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ นายนภินทร กล่าวว่า เรามีวิธีการดำเนินการในด้านอื่นอยู่ โดยเฉพาะทางสรรพากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เรามีวิธีการดำเนินการตามกฏหมาย ที่สามารถลงไปสืบสวนสอบสวนได้โดยไม่จำเป็นต้องพบตัว หรือแม้ว่าเขาจะหลบ เราก็สามารถสรุปได้ว่าบริษัทนี้เป็นนอมินีหรือไม่ และรับงานที่ใดบ้าง แล้วเสร็จที่ไหนบ้าง ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
เมื่อถามว่า มีคนไทยเข้าไปเป็นนอมินีให้กับบริษัทดังกล่าว นายนภินทร กล่าวว่า ในเบื้องต้นมีคนไทยถือหุ้น แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเป็นนอมินีหรือไม่ ต้องให้มีข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพบการกระทำผิดเป็นไปได้หรือไม่ที่จะแบล็คลิสต์บริษัทที่เกี่ยวข้อง นายนภินทร กล่าวว่า ดำเนินการตามกฏหมายที่มีอยู่ ทุกข้อหา ทุกฉบับ และ 4 บริษัทที่อยู่ในตึกเดียวกันจะต้องมีการตรวจสอบหมด
เมื่อถามว่า จะมีการสุ่มตรวจบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว และบริษัทที่เข้าข่ายมีคนไทยเป็นนอมินีอื่นๆ อีกหรือไม่ นายนภินทร กล่าวว่า เราพยายามทำงานอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบ แต่บริษัทมีจำนวนมากกว่า 2 หมื่นบริษัท และตอนนี้เราพูดคุยกับกรมที่ดิน แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน กรมที่ดินมีข้อมูลว่าผู้ถือครองมีบริษัทที่ใดบ้าง แต่เขาไม่รู้ว่าผู้ถือครองบริษัทไปเปลี่ยนหุ้นทีหลังหรือไม่ ขณะนี้เรากำลังเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมที่ดิน ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงแบบเรียลไทม์ว่าบริษัทไหนถือครองที่ดินและโอนกรรมสิทธิ์ถือหุ้นอย่างไร และใช้อำนาจทุกอย่างที่คณะกรรมการซึ่งนายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมาดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อไม่ให้นอมินีนั้นทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย.-315.-สำนักข่าวไทย