วุฒิสภาซ้อมอพยพหนีแผ่นดินไหว

รัฐสภา 1 เม.ย.-วุฒิสภาซ้อมอพยพหนีแผ่นดินไหว หวั่นเกิดอาฟเตอร์ช็อก ด้าน ‘บิ๊กเกรียง’ ยันอุปกรณ์ได้มาตรฐาน ชี้หากตรวจพบอะไรชำรุดต้องแก้ไข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนหนึ่ง เป็นประธานการประชุม โดยภายหลังจากที่เปิดให้สมาชิกหารือความเดือดร้อนของประชาชน ก่อนเข้าระเบียบวาระทั่วไป พล.อ.เกรียงไกร ได้แจ้งสมาชิกทำการซักซ้อมเสมือนจริงการอพยพกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหว หลังจากที่พล.อ.เกรียงไกร ประกาศแจ้งสมาชิกจบ หน้าจอโทรทัศน์ได้ขึ้นสัญญาณเป็นจอสีไม่มีสัญญาณ


จากนั้นมีเสียงประกาศว่า “ขณะนี้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขอให้สมาชิกและข้าราชการทุกคนออกไปรวมตัวกันที่บริเวณจุดรวมพล” ก่อนที่ สว. และข้าราชการจะวิ่งออกจากตึกไปรวมตัวกันที่จุดรวมพลบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยสมาชิกแต่ละคนได้สวมหมวกนิรภัย เสื้อสะท้อนแสง นกหวีด และมีบางคนที่ถือไฟฉายลงมาด้วย และได้มีการสอบถามว่าเพื่อนสมาชิกแต่ละคนมีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมเรือไว้สำหรับพาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาลใกล้เคียงไว้ด้วย

ภายหลังการซักซ้อมเสร็จสิ้น พล.อ.เกรียงไกร ได้เดินไปกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภา และให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เราซักซ้อมโดยมีอุปกรณ์พร้อม ซึ่งได้มีการเตรียมไว้สำหรับสมาชิกทุกคน เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มีนาคม สมาชิกได้มีการหารือไว้ เพราะอาจมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นได้ในภายหลัง เราต้องไม่ประมาท โดยภายหลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนแล้วก็รีบอพยพมาที่จุดรวมพล ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที แต่หากเป็นในสถานการณ์จริง และเราได้ซักซ้อมแล้วตนคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามนี้อย่างอัตโนมัติและรวดเร็วกว่านี้ ทั้งนี้ ทุกอย่างมีแบบแผนในการอพยพ


เมื่อถามว่า จะมีการอพยพลงมาต้องมีการหลบใต้โต๊ะก่อนหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ตนคิดว่าจะชุลมุน แม้จะหลบใต้โต๊ะอย่างไรก็ต้องออกมาจากอาคารสูงให้เร็วที่สุด ส่วนไฟบริเวณบันไดหนีไฟที่ดับเป็นบางช่วงนั้น ทุกภาคส่วนต้องมีการตรวจสอบ แต่จากการที่วุฒิสภาได้มีการตรวจสอบแล้ว เราจึงได้มีการแจกไฟฉาย เพราะต้องคาดการณ์ว่าระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จะไม่สามารถใช้การได้ รวมถึงไฟฟ้าอาจดับ และนกหวีดก็สามารถใช้เรียกหากันได้

ส่วนกรณีที่ประตูทางออกฉุกเฉินบางจุดชำรุด พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า หากตรวจพบก็จะต้องมีการแก้ไขให้สมบูรณ์ และเมื่อซักซ้อมแล้วเห็นจุดบกพร่องตรงไหน ก็จะต้องมีการไปปรับแก้ ให้กลับไปสู่สภาพที่สามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อเกิดเหตุ

เมื่อถามถึง กรณีที่จะมีการตั้งคณะกรรมการ ระหว่าง 2สภาเพื่อตรวจสอบอาคารรัฐสภาอย่างละเอียดในวันที่ 3 เมษายนนี้ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า เป็นโครงสร้างที่ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งอาคารรัฐสภาอยู่ในความรับผิดชอบของฝั่งสภาผู้แทนราษฎร โดยทางวุฒิสมาชิกต้องจัดคนเข้าไปร่วมด้วยเพื่อตรวจสอบอย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องโครงสร้างหรือระบบสาธารณูปโภค


เมื่อถามว่า มีความกังวลในเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ทุกภาคส่วนมีความกังวล แต่การซักซ้อมในวันนี้เป็นการเตรียมการหากเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นมา ซึ่งทุกภาคส่วนก็คงจะมีการซักซ้อมและทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว

พล.อ.เกรียงไกร กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการซักซ้อมอย่างจริงจังในครั้งนี้นั้น ที่จริงจะมีการซักซ้อมอยู่ 2 รูปแบบ คือที่เราเรียกว่าเต็มรูปแบบกับการซักซ้อมในแผน ซึ่งเป็นการทำความเข้าใจในแผนการ และเมื่อมีการทำแผนขึ้นมา ก็ต้องนำคนที่เกี่ยวข้องได้ทำความเข้าใจกันถือเป็นการซักซ้อม วันนี้ถือเป็นการซักซ้อมเสมือนจริงเต็มรูปแบบ ยืนยันว่าอุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐาน
เมื่อถามว่าการขนย้ายคนไปทางน้ำที่จะเคลื่อนย้ายคนทางน้ำได้จริงหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า สามารถขนย้ายได้ แม้จะมีคลื่น เพราะเรือมีจังหวะของคลื่นอยู่แล้ว ยืนยันปลอดภัย และทางตำรวจน้ำก็ได้มีการยืนยันแล้วว่าสามารถ ขนย้ายทางน้ำได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ เรื่องการขนย้ายคนทางน้ำจะเน้นคนผู้ป่วยเป็นอันดับแรก ไปยังโรงพยาบาลวชิระหรือโรงพยาบาลใกล้เคียง เพราะหากผู้ป่วยเดินทางทางรถยนต์ในขณะที่เกิดแผ่นดินไหว รถก็จะติดเพราะทุกคนก็ต่างกันต้องการจะออกจากพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถขนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลได้ทันการใช้เรือจึงเป็นทางออกที่เร็วที่สุด.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย