“อนุสรณ์” ​แซะอภิปรายจืด ยันทีมพิทักษ์ฯ ไม่ต้องปรับแผน​

รัฐสถา 24 มี.ค.- “อนุสรณ์” ขอน้ำปลาให้ฝ่ายค้าน​แซะอภิปรายจืด​ โรยเกลือไม่น่าจะพอ​ เย้ย​ขอเวลา​ 5 วัน 5 คืน จะจืดกว่านี้​ ยันทีมพิทักษ์ฯ ไม่ต้องปรับแผน​ มั่นใจนายกฯ-รมต.​ตอบได้ทุกคำถาม


นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขอฝากไปยังสื่อทุกสำนักว่าหากจะโปรยข่าววันนี้ต้องบอกว่า “อนุสรณ์ร้องสภา ขอน้ำปลาให้ฝ่ายค้านด่วน” เพราะติดตามจาก การนำเสนอข่าว จากยุทธการโรยเกลือดูแล้วไม่น่าจะพอ เกลือมาวันนี้ไม่น่าจะทันจึงต้องร้องขอน้ำปลาด่วน ซึ่งไม่ได้ประเมินด้วยตนเองแต่ติดตามจาก ฟีดแบค การประเมินจากสื่อมวลชนหลายสำนักพร้อมเปรียบเทียบกับการทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่อภิปรายเรื่องสปก 4-01 ช่วงเป็นฝ่สยค้านมีความหนักแน่นเป็นเรื่องเป็นราวดูมีใบเสร็จ แต่เมื่อวานนี้ต้องใช้คำว่าเสียเวลาสภา ก่อนหน้านี้หลายคนอาจสงสัยว่าจะเอาอะไรมาอภิปราย 5 วัน 5 คืนแต่วันนี้เห็นชัดเจนแล้วว่าถ้าให้ 5 วัน 5 คืน จะจืดยิ่งกว่านี้ ซึ่งฝ่ายค้านแต่ละคนขอเวลา 65 นาที 80 นาทีน้อยที่สุด 35 นาที​พร้อมยกตัวอย่าง ถ้าไปดูคลิป วิธีการในการเลี้ยงกบหรือการปลูกฝรั่ง กิมจูจะมีเวอร์ชั่น 30 นาที 15 นาที แต่ถ้าเป็นตสจะเลือกกด 1 นาทีพอ​ ซึ่งการอธิบายถ้าเก่งเอาข้อมูลมาเนื้อๆเน้นๆ ไม่ต้องไปขี่ม้าเลียบค่าย ไม่ต้องมีวาทกรรมเยอะ

นายอนุสรณ์​กล่าวว่า​ทีมพิทักษ์ ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องปรับแผน เราจะเห็นได้ว่าทีมพิทักษ์ใช้เวลาน้อยกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการประท้วง และในช่วงที่นายภราดร​ ปริศนานันทกุล​ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ลุกขึ้น เพื่อให้ผู้ประท้วงนั่งลงนั้น มีการนำเสนอว่า เกิดความโกลาหลวุ่นวายแต่ข้อเท็จจริงนายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ไปยืนจ้องหน้าอยู่หน้าบัลลังก์ ซึ่งคำวินิจฉัยของประธานถือเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย จะลุกขึ้นเมื่อ มีการผิดข้อบังคับ และหาว่าผิดข้อไหน เช่นข้อ 9 ประธานวางตัวเป็นกลางหรือไม่ ประธานต้องควบคุมการทำหน้าที่ ห้ามอภิปรายในลักษณะเสียดสี ให้ร้าย ส่วนข้อ 71 วรรค 2 ไปพาดพิงคนอื่นให้เสียหายหรือไม่ ดังนั้นการอภิปราย 1 วันชี้วัดว่า พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องปรับแผนอะไร ทุกคนทำตามที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือ เราคงไม่ไปประท้วง​ พร้อมยกตัวอย่างการอภิปรายของบางคนเนื้อหาหนักแน่น แต่ไม่ได้เสียดสีใส่ร้ายชัดเจนเราก็ปล่อยให้อภิปราย เพราะมั่นใจว่านายกรัฐมนตรี รวมถึงนายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงรัฐมนตรีทุกคนสามารถตอบได้ทุกคำถาม และข้อบังคับการประชุมสภาไม่ได้เปิดโอกาสให้สส.​พรรครัฐบาลชี้แจงแทน เพียงแต่จะดูว่าผิดข้อบังคับข้อใดบ้าง จะลุกขึ้นประท้วงในกรณีที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น


นายอนุสรณ์ยังย้ำว่าการอภิปราย เมื่อวานนี้จืดต้องขอน้ำปลา ใส่พริกและที่กล่าวหาว่านายกฯเลี่ยงภาษีหรือหนีภาษี เป็นการใช้คำรุนแรง ว่าไป ทำธุรกิจที่ไม่เหมาะสมกับทุนเทาข้ามชาติ เป็นการใส่ร้ายโดยใส่จินตนาการ อภิปราย วนเวียนซ้ำซาก จนสมาชิกต้องทักท้วง แต่พอหนักขึ้น เช่นมีการใช้คำว่ากีกี้ เป็นความพยายามฉวยจังหวะฉวยโอกาส ใส่ร้าย หรือด้อยค่าผู้อื่น และความพยายามที่จะอธิบายว่าเป็นเสียงของลูกสมุนของปีศาจ จึงต้องถามว่า ใครคือลูกสมุน และยังบอกว่าการทำหน้าที่ของพรรค ร่วมรัฐบาลที่พิทักษ์ข้อบังคับการประชุม เป็นการประท้วงตามงวดงานหรือสัญญาจ้างถือเป็นการเสียดสีใส่ร้ายหรือไม่ ด้อยค่าหรือไม่ วิญญู​ชนพึงตัดสินได้

ส่วนกรณีนายภูมิธรรม​พาดพิงคำว่า​กีกี้​ นายอนุสรณ์ระบุว่า ต้องให้ความเป็นธรรมเพราะ มีโอกาสที่จะพบคำไม่เหมาะสมเพราะผู้อภิปรายมีคาแรคเตอร์และพฤติกรรม ทำให้สงสัยได้​ เช่นคำว่าไม่รู้อะไร ทำให้เห็น ว่า​ มีทัศนคติวิธีคิดแบบนี้​ จึงทำให้สงสัยได้และต้องให้ความเป็นธรรมกับนายภูมิธรรมและเมื่อพิมพ์ค้นหาคำว่ากีกี้จะมีผลลัพธ์ออกมาเจอถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมจริงๆ

นายอนุสรณ์​ กล่าวว่า​ การอภิปรายเมื่อวานนายกรัฐมนตรีไม่มีใครช่วย​ แต่ยอมรับบางเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินกับข้าราชการระบบราชการทำงานเป็นทีม​ มีกระบวนการมีส่วนร่วมนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ การมอบหมายสั่งงานสั่งการประเมินผลไม่ได้หมายความว่านายกรัฐมนตรีต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เรื่องทุกเรื่องที่รัฐมนตรีทำนายกรับทราบและทำตามนโยบายและวันนี้ขอยืนยันเช่นเดิมว่าการประท้วงต้องระมัดระวังรัดกุมตามแนวทางเดิมไม่ให้ผิดข้อบังคับ​ ส่วนนายกรัฐมนตรียังเหลือเวลา ในการชี้แจงแต่จะไม่ใช้เวลามาก


อย่างไรก็ตามนายอนุสรณ์ย้ำว่า เป็นความเห็นส่วนตัวและรับฟังจากหัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรค แล้วะผู้มีประสบการณ์​ พร้อมยืนยันว่าเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลมาครบมาเต็มแน่นอนส่วนจะมีเพิ่มหรือไม่ต้องรอติดตาม.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

มติวุฒิสภาเดินหน้าโหวตองค์กรอิสระ-สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์วุ่น

รัฐสภา 30 พ.ค.- ตามคาด! “วุฒิสภา” เดินหน้าโหวตตั้งองค์กรอิสระ-ตุลาการศาล รธน. แม้ยอมให้ถกญัตติชะลอนานกว่า 3 ชั่วโมง ด้าน สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์ไม่ขอร่วมสังฆกรรม พร้อมให้เหตุผลขัดกันแห่งผลประโยชน์ สว.กว่า 100 คนถูกกล่าวหาฮั้ว ขู่หากเดินหน้าเสี่ยงถูกร้องจริยธรรม ขณะที่ “ฉัตรวรรษ” โต้ ยังเป็น สว. ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อ ซัด “ดีเอสไอ” ดำเนินการโดยมิชอบ การประชุมวุฒิสภาวันนี้มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าในการระเบียบวาระเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561) ซึ่งเป็นการประชุมลับ ขอให้สว.ใช้บัตรลงคะแนนของตัวเอง ไม่สามารถออกเสียงด้วยวาจาแทนได้ แต่ขอหารือหยิบยกเรื่องด่วนที่ 5.ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อการพิจารณาเรื่องให้ความเห็นชอบ คือเรื่องด่วนชอให้ ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ที่เสนอโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่าต้องขอบคุณสมาชิกและวิปวุฒิที่ใจกว้างให้เลื่อนญัตตินี้ขึ้นมา และระบุว่าตนเข้าใจและเห็นใจเพื่อนสว.ทุกคนที่โดนเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเห็นกระบวนการไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น […]

กกต.ออกหมายเรียกอีก 22 สว. แจงคดีฮั้ว

กทม. 30 พ.ค.- หมายเรียก สว.ฮั้ว ลอต 5 ออกแล้ว คณะกรรมการสืบสวนฯ กกต. เรียกอีก 22 สว.แจง รวมเรียกทั้งหมด 127 คน มีรายงานแจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เรียกสมาชิกวุฒิสภา เข้ารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 22 คน กรณีถูกกล่าวหาว่าอาจพัวพันกับกระบวนการฮั้วเลือก สว. ประกอบด้วย 1.นางจุฑารัตน์ นิลเปรม 2.นางเจียระไน ตั้งกีรติ 3.นางมยุรี โพธิแสน 4.น.ส.จารุณี ฤกษ์ปราณี 5.น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ 6. นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 7.นายธนภัทร ตวงวิไล 8.น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ 9.นายกัมพล สุภาแพ่ง 10.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11.นายอัครวินท์ ขำขุด 12.นางธารณี ปรีดาสันติ์ 13.นางรจนา เพิ่มพูน […]

ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาชายแดน

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาพิพาทชายแดน ยันทหาร 2 ฝ่ายถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว วอนประชาชนรับฟังข้อมูลสื่อหลัก ขอเชื่อมั่นทหารปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้ว กองทัพบก ออกหนังสือแถลงการณ์ผลการเจรจาระหว่าง ผบ.ทบ.ไทย – ผบ.ทบ.กัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ 1.ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธีในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตยหรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ 2.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้ตกลงที่จะเคลื่อนออกจากพื้นที่ ถือเป็นการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความ สงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Reqional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น […]

ทบ.จ่อออกแถลงการณ์ห้ามทหารกัมพูชาเข้าใช้พื้นที่เนิน 745

กองทัพบก 30 พ.ค.- ทบ. เตรียมออกแถลงการณ์จุดปะทะช่องบก ไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาใช้พื้นที่เนิน 745 – ต้นสัตบรรณ ถึงสามแยกลาว เล็งพูดคุยจัดชุดลาดตระเวนร่วม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พิธีไถ่ชีวิตกระบือ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระราชินี 3 มิ.ย. โดยในวันนี้ กองทัพบกเตรียมออกแถลงการณ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อย่างเป็นทางการ ภายหลังวานนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.พนา ได้หารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน กรณีเกิดเหตุปะทะช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนได้ข้อสรุป 3 ข้อ 1.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทย และกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ 2.ปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว […]