ครม.อนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบ สร้างสะพานข้ามเจ้าพระยา แยกเกียกกาย

ทำเนียบ 18 มี.ค.- ครม.อนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย ช่วงที่ 3 ก่อสร้างทางยกระดับและถนนฝั่งพระนคร จากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงแยกสะพานแดง


นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย ช่วงที่ 3 ก่อสร้างทางยกระดับและถนนฝั่งพระนคร จากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงแยกสะพานแดง (โครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแยกเกียกกาย ช่วงที่ 3) ในวงเงิน 875.50 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนเงิน ดังนี้ 1) เงินอุดหนุนของรัฐบาล วงเงินงบประมาณ 437.75 ล้านบาท 2) งบประมาณกรุงเทพมหานคร (กทม.) วงเงินงบประมาณ 437.75 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนเงินอุดหนุนของรัฐบาล จำนวน 437.75 ล้านบาท จะดำเนินการโอนเงินจัดสรร งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จากรายการเงินอุดหนุนสำหรับชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ไปตั้งจ่ายในโครงการก่อสร้างฯ ช่วงที่ 3 จำนวน 49 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ จำนวน 388.75 ล้านบาท จะขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 69 – 70 ต่อไป


นายคารม กล่าวว่า โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณแยกเกียกกายของ กทม. (โครงการก่อสร้างฯ) เป็นโครงการที่ควรดำเนินงานโดยเร่งด่วนเนื่องจากมีความพร้อมมากที่สุด ซึ่งปัจจุบัน กทม. ได้กำหนดให้มีการก่อสร้างฯ รวม 3 ช่วง โดยมีรายละเอียดสรุป ดังนี้

ช่วงที่ 1 ทางยกระดับและถนนในฝั่งธนบุรี (สะพานด้านถนนจรัญสนิทวงศ์) กรุงเทพมหานครดำเนินการเอง (ใช้งบประมาณ กทม. ทั้งหมด) ใช้วงเงิน 770.00 ล้านบาท มีระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2568 ระยะเวลาตามสัญญา พ.ย. 2566 – พ.ย.2568 มีความคืบหน้าร้อยละ 11

ช่วงที่ 2 สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทางขึ้น – ลง (สะพานช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) คณะรัฐมนตรีมีมติ (3 มีนาคม 2563) เห็นชอบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (เงินอุดหนุนจากรัฐบาลและงบประมาณกรุงเทพมหานครอย่างละครึ่ง) ใช้วงเงิน 1,350.00 ล้านบาท มีระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – 2566 ต่อมากรุงเทพมหานครขยายเวลาถึงปี พ.ศ. 2569 ระยะเวลาตามสัญญา มิ.ย. 2565 – ต.ค. 2568 มีความคืบหน้าร้อยละ 33.7


และช่วงที่ 3 ทางยกระดับและถนนฝั่งพระนครจากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงแยกสะพานแดง (สะพานด้านรัฐสภา) ข้อเสนอในครั้งนี้ (เงินอุดหนุนจากรัฐบาลและงบประมาณกรุงเทพมหานครอย่างละครึ่ง) ใช้วงเงิน 875.50 ล้านบาท มีระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2570 ขณะนี้ยังไม่เริ่มดำเนินการ

รวมวงเงินงบประมาณการดำเนินโครงการก่อสร้าง ทั้ง 3 ช่วง เป็นเงินทั้งสิ้น 2,995.50 ล้านบาท ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้เห็นชอบแนวทางการดำเนินการข้างต้นด้วยแล้ว.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พิชัย” ปฏิเสธ ลั่นไม่เกี่ยวรับจำนำสร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พ” ยืนยันไม่รู้เรื่องสร้อยเพชรเส้นเดียวในโลกของ เมย์-วาสนา หลังมีข่าว ดิว-อริสรา เอาไปจำนำกับรัฐมนตรีอักษรย่อ “พ”

รอง ผบก.ป.เผยพร้อมออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี

รอง ผบก.ป. ระบุจ่อพิจารณาออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี ส่วนผู้ครอบครองทรัพย์สิน หากไม่ส่งทรัพย์สินคืนเป็นของกลาง เสี่ยงผิด รับของโจร

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว” บินออกนอกประเทศ

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว อริสรา” บินออกนอกประเทศ พร้อมคุมตัวตามขั้นตอนหากพบผู้ถูกกล่าวหาเดินทางเข้าไทย

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.รร.ในกาฬสินธุ์ ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.โรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์และ ผอ.เขตพื้นที่ฯ เข้า สพฐ.ชั่วคราว หลังถูกร้องเรียน ผอ.โรงเรียน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับครูในโรงเรียน

ข่าวแนะนำ

นักแสดงอาวุโส “สีดา พัวพิมล” เสียชีวิต

วงการบันเทิงสูญเสียนักแสดงอาวุโส “สีดา พัวพิมล” เสียชีวิต ในวัย 70 ปี เผยวงจรปิดเดินเข้าอพาร์ตเมนต์ตั้งแต่ 17 มี.ค. และไม่ออกมาอีก

รวบหนุ่มจีนใช้แอปฯ หาคู่ ตระเวนหลอกฉกทรัพย์เหยื่อ

เตือนภัยแอปฯ หาคู่ หลังตำรวจเชียงใหม่ ตามรวบหนุ่มจีนวัย 31 ปี คาสนามบิน ก่อเหตุลวงเหยื่อผ่านแอปฯ หาคู่ เข้าโรงแรมฉกทรัพย์ ก่อนหลบหนี สอบสวนพบตระเวนก่อเหตุมาแล้วหลายประเทศแถบเอเชีย

นายกฯ เสียงแข็งถาม “ตระกูลชินวัตร” ได้อะไรจากดีลแลกประเทศ

นายกฯ ถามหายาชูกำลัง รับวันซักฟอกอยู่ลากไม่ถึงตีห้าครึ่ง เสียงแข็ง “ตระกูลชินวัตรได้อะไร” จากดีลแลกประเทศ ลั่น อย่าใช้แต่อารมณ์ อะไรก็ “ทักษิณ” ไม่มีใครเอาประเทศไปแลก

ยึดบุหรี่ไฟฟ้า

ยึดบุหรี่ไฟฟ้าซุกตู้คอนเทนเนอร์ท่าเรือแหลมฉบัง มูลค่า 21.8 ล้าน

ศุลกากร ร่วม DSI และ สตช. และ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ยึดบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ กว่า 120,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 21.86 ล้านบาท