รัฐบาลเดินหน้าปราบแก๊งคอลฯ คดีลดลง 20%

ทำเนียบ 17 มี.ค. – “ประเสริฐ” เผยรัฐบาลเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน คดีลดลง 20% มูลค่าความเสียหายลด 200 ล้านบาท


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงความคืบหน้าเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการเรื่องปัญหาอาชญากรรมออนไลน์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง จริงจังและเด็ดขาด ส่งผลให้การดำเนินตามมาตรการของรัฐบาลเห็นผลเป็นรูปธรรม กระทบกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างชัดเจน
 
นายประเสริฐ กล่าวว่า จากการบังคับใช้มาตรการตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า สถิติการรับแจ้งคดีอาชญากรรมออนไลน์ทั้งหมดของประเทศไทยพบว่า ระหว่างวันที่ 1 – 31 มกราคม 2568 มีการแจ้งความทั้งสิ้น 31,159 คดี และหลังจากมาตรการตัดน้ำ – ตัดไฟ และตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนคดีทั้งสิ้น 25,487 คดี ลดลงเฉลี่ยประมาณ 20% และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่เดิมมีการรับแจ้งมากกว่า 1,000 คดีต่อวัน โดยเฉพาะคดีคอลเซ็นเตอร์ที่มิจฉาชีพเข้าถึงเหยื่อได้ง่ายที่สุด ลดลงจากเดิมร้อยละ 67 ซึ่งการลดลงของสถิติคดีอาชญากรรมดังกล่าว เป็นผลมาจากการดำเนินมาตรการเข้มข้นของรัฐบาลและการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ข้อมูลจาก AOC 1441 พบว่าประชาชนที่โทรเข้ามา มีจำนวนมูลค่าความเสียหายที่ลดลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ประมาณ 200 ล้านบาท และเมื่อเทียบมูลค่าความเสียหายในเดือน ม.ค. – ก.พ. ของปี 2567 กับปี 2568 แล้วพบว่าความเสียหายลดลงถึง 30% ดังนี้

1.คดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ ลดลงร้อยละ 88.64 มูลค่าความเสียหายลดลงประมาณร้อยละ 94.24  2.คดีหลอกลวงให้กู้เงิน มีจำนวนระงับบัญชีลดลงร้อยละ 17.51 มูลค่าความเสียหายลดลงประมาณร้อยละ 55.49  และ 3.คดีหลอกลวงให้ลงทุนที่เป็นความผิดทางพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน มีจำนวนระงับบัญชีลดลงร้อยละ 62.22 มูลค่าความเสียหายลดลงร้อยละ 97.21


นอกจากนี้ ประชาชนเริ่มตระหนักถึงภัยจากการหลอกลวงมากขึ้น ผ่านการให้ความรู้และการแจ้งเตือนจากภาครัฐ อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นความคืบหน้าในบางด้าน แต่รัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมชายแดน ปราบปรามอาชญากรรม และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนทุกคน
 
ด้าน พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาและเมียนมาในการกวาดล้างเครือข่ายที่ใช้พื้นที่แนวชายแดนเป็นฐานปฏิบัติการ โดยที่ผ่านมามีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 5,251 ราย โดยแบ่งเป็นการส่งตัวกลับประเทศต้นทางแล้ว 3,533 ราย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 1,718 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและอินเดีย นอกจากนี้ ฝั่งเมียนมาก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในเขตแม่สอด ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการลักลอบข้ามแดนไปทำงานผิดกฎหมาย มีรายงานว่าตั้งแต่ต้นปี 2568 มีชาวต่างชาติผ่านเข้าเมืองที่แม่สอดแล้ว 3,652 ราย และจากการให้ข้อมูลและสอบถาม พบว่ามีชาวต่างชาติประมาณ 5% ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ ทั้งนี้ ที่ผ่านมามิจฉาชีพมักใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการอ้างตนเป็น “เหยื่อ” ของขบวนการค้ามนุษย์เพื่อหลบเลี่ยงการดำเนินคดี แต่จากความร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชา ทางการไทยสามารถตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก เช่น ข้อมูลโทรศัพท์ บัญชีธนาคาร และหลักฐานดิจิทัลอื่น ๆ จนสามารถพิสูจน์ความเกี่ยวข้องของผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน
 
“รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถิติการจับกุมที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าการดำเนินมาตรการต่างๆ มาถูกทาง รัฐบาลจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ เรายังคงเดินหน้าปราบปรามอย่างเข้มข้น เพิ่มมาตรการควบคุมชายแดน และนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการตรวจสอบและประมวลผลให้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น เพื่อทำลายขบวนการนี้อย่างสิ้นซาก โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล คือ การทำให้ประชาชนทุกคนรู้สึกปลอดภัยในชีวิตประจำวัน” นายประเสริฐ กล่าว

รองนายกฯ ยังกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักจนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดและลดความเสียหายได้อย่างต่อเนื่อง และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยของทุกคน .314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ตชด.ลาดตระเวนเข้ม 24 ชม. แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 29 มิ.ย. – ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ลาดตระเวน ตั้งบังเกอร์ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.โคกสูง เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชม. หลังมีรายงานกลุ่มชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืช-สร้างสิ่งปลูกสร้าง ละเมิดข้อตกลง MOU 43 วันนี้ ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ตชด.12) จัดกำลังลาดตระเวนแนวชายแดนในพื้นที่เปราะบาง 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกสูง และอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากมีกรณีข้อพิพาท ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในจุดที่ยังเป็นพื้นที่ข้อพิพาทจากแนวเขตตาม MOU ปี 2543 ซึ่งห้ามทั้งสองประเทศสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรใดๆ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด.12 ในการตรวจจุดแนวชายแดน โดยเริ่มจากแนวตะเข็บรอยต่อบริเวณอำเภอโคกสูง ซึ่งติดกับ จ.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นแนวเขตพื้นที่ที่เรียกว่าดินต่อดิน ซึ่งเป็นแนวกั้นธรรมชาติอย่างชัดเจน ซึ่งจะแตกต่างจากแนวชายแดน อำเภออรัญประเทศ ที่มีคลองธรรมชาติ ซึ่งแนวคลองลึกและจะมีแนวลวดหนามกั้นชัดเจนตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ เผยว่า บริเวณ อ.โคกสูง มีรายงานว่ากลุ่มชาวกัมพูชา ลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืชหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ซึ่งละเมิดข้อตกลง […]

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชาย และเร่งทำคดี เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมา 4 เดือน คดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศงานฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม […]

คปท.แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่หนุนรัฐประหาร

กทม. 29 มิ.ย.- คปท. แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่สนับสนุนรัฐประหาร และไม่คิดสนับสนุนรัฐประหารแน่นอน นัดหารือใหญ่ 1 ก.ค.นี้ ยกระดับขับไล่นายกฯ-พรรคร่วม เวลา 14.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ร่วมแถลงจุดยืน ภายหลังการชุมนุมใหญ่เมื่อวานนี้ แต่ปรากฏว่าการปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร ทำให้ในวันนี้นายพิชิต ต้องออกมาแถลงการณ์ด่วน ชี้แจงว่า พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลกำลังกล่าวหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมว่าสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งที่ควรจะกดดันให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางของ คปท. ไม่เคยเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหารจากกองทัพใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อคำพูด และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และการที่ คปท. ยืนเคียงข้างกองทัพปกป้องอธิปไตยของชาติ ก็ไม่ได้มีความหมายถึงการรัฐประหารแต่อย่างใด ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ แกนนำ คปท. จะประชุมร่วมกับแกนนำทุกของคน “รวมพลังแผ่นดิน” ในวันอังคารที่ 1 กรกฎาคมนี้ ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งจะเป็นการยกระดับกิจกรรมหลังวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เพื่อทำกิจกรรมให้เข้มข้นขึ้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่พื้นที่การชุมนุมก็คงจะใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น และไม่ใช้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว […]

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย