กรุงเทพฯ 7 มี.ค.- “สว.สรชาติ” เย้ย กคพ. หาหลักฐานฟอกเงินให้ได้ 300 ล้านนะ ขู่อาจโดนฟ้องกลับได้ ถ้าไปสันนิษฐานเอง ลั่น คงแค่ “กลัว” เสียหน้า เลยรับแค่ฟอกเงิน บอกยังไม่มีมติ ก็ไปหาหลักฐานกันเอง จะชอบธรรมหรือ ใครจะยอมรับ ฉะ “สว.สำรอง” สู้ไม่ได้ก็เลยมาร้อง ป้อง “บิ๊กเกรียง” รู้จัก “อนุทิน” มานาน ไม่แปลก โผล่ มท. เมื่อวานนี้
นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) รับคดีฮั้วเลือก สว. ในฐานความผิดฟอกเงิน ว่า ในส่วนของ สว. ก็ปล่อยไปตามเกม เขาไม่อยากเสียหน้า ก็รับแค่เรื่องฟอกเงินก่อน ซึ่งในคดีนี้ยังไม่ได้รับการประสานมา ไม่ว่าจะเป็นรายกลุ่มหรือรายคน เขาดูเรื่องฟอกเงิน ต้องดูว่าถึง 300 ล้านบาทหรือไม่ ถ้าไม่ถึงก็ไม่เข้าข่าย
“ถ้าไม่มีหลักฐานก็โดนฟ้องกลับได้นะ ถ้าไปสันนิษฐานเอง เออ-ออเอง แต่เรื่องรวมกลุ่มกันฮั้ว มันเกินกฎหมายกำหนดอยู่แล้ว พี่คิดว่าเป็นทางออกให้กับดีเอสไอ เพื่อที่จะไม่เสียหน้ามากกว่า กลัวว่าจะเสียหน้า ตัวเองก็เลยรับได้แค่ตามอำนาจหน้าที่ตัวเอง ส่วนการจะรับเป็นคดีเลย 2 ใน 3 อย่างไรก็ไม่ครบในบอร์ด” นายสรชาติ กล่าว
ส่วน สว. จะทำอะไรต่อหรือไม่ นายสรชาติ กล่าวว่า ไม่ทำอะไร ปล่อยให้เป็นอำนาจหน้าที่ ปล่อยให้เขาทำเต็มที่ ให้เขาค้นหาหลักฐานว่าได้มาจากไหนที่คิดว่าเป็นการฟอกเงิน 300 ล้านบาท ต้องไปหาที่มาของเงินก่อน มันก็จะกลายเป็นลักษณะคล้ายคดีมินนี่ หรือคดีก่อนหน้าที่เกี่ยวกับการฟอกเงิน
“มันก็จะกลายเป็นว่าทำไมคุณไม่ไปเอาคดีใหญ่ที่เกี่ยวกับการหลอกลวงประชาชน คดีต่างๆพวกเนี๊ย ซึ่งเป็นพันล้าน หมื่นล้าน มาเล่น สว. ซึ่งไม่น่าจะถึง 300 ล้านบาทอยู่แล้ว มันจะเกิดการเปรียบเทียบกัน” นายสรชาติ กล่าว
นายสรชาติ ระบุว่า ตอนนี้ สว. ยังไม่ได้นัดประชุมกัน เพราะมองว่า เขาต้องมีการหาหลักฐานก่อน สว. ก็มองดูอยู่ว่าจะไปหาจากไหน เพราะเท่าที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ สว.ต่างจังหวัด เวลาเลือกเขาก็ไม่เจอกัน พร้อมถามกลับกลุ่ม สว.สำรองว่าคุณแพ้คุณสู้ไม่ได้เฉยๆ แล้วคุณก็มาร้องใช่หรือไม่ ส่วนเรื่องเคลียร์กัน เราไม่ทราบ ปล่อยให้ไปว่ากันเอง
“ดีเอสไอจะหาหลักฐานมากกว่า กกต.ได้อย่างไรเพราะความชอบธรรมอยู่ที่ กกต. แต่ถ้าดีเอสไอทำ เขาเรียกว่าหลักฐานที่ไม่ชอบธรรม ยังไม่มีมติให้ทำคุณไปทำมาก่อน สิ่งที่คุณหามาก่อนมันกลายเป็นการหามาได้โดยไม่ชอบธรรม และโดนตีตกว่าคุณไปเอามาจากไหน หลักฐานก่อนหน้านี้ จะไม่มีใครยอมรับ” นายสรชาติ กล่าว
นายสรชาติ ย้ำว่า สว. ไม่มีใครกังวลเลย แต่กังวลมากกว่าหาก กกต. มอบอำนาจให้ดีเอสไอเป็นคนทำทั้งหมด แบบนี้จะอันตราย กกต. เขาทำไปเยอะแล้ว และมีอำนาจในการขยายเวลาด้วย จะมาบอกว่าจะครบ 1 ปีแล้วไม่ได้ สามารถขอขยายเวลาได้ สว.ตอนนี้ตั้งหลักและทำงานไปเรื่อยๆ ทำงานให้คุ้มประโยชน์ที่สุด
เมื่อถามว่าพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ไปกระทรวงมหาดไทย จะถูกโยงหรือไม่ นายสรชาติ กล่าวว่า เขาเคยอยู่เคยไปมาก่อนอยู่แล้ว แต่ถ้าพลเอกเกรียงไกรและนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังไม่รู้จักกันมาก่อน ก็จะเป็นภาพที่น่ากลัว เพราะฝ่ายนิติบัญญัติทำไมต้องไปอยู่กับฝ่ายบริหาร แต่แบบนี้ไม่ใช่ เพราะเขาเคยอยู่ด้วยกันมาก่อน จึงไม่น่าแปลกใจ ปกติเขาก็ไปกินข้าวกันมาก่อนอยู่แล้ว เป็นประธานคณะทำงานมาก่อนที่จะมาเป็น สว.อยู่แล้ว แต่ถ้าไม่เคยรู้จักกันเราไปจะเป็นภาพที่ไม่สวย.312 .-สำนักข่าวไทย