“อนุทิน” ลั่นรัฐบาล เพื่อไทย-ภูมิใจไทย รวมกันได้ แม้แต่ก่อนผีไม่เผา

วปอ. 1 มี.ค.-“อนุทิน” ลั่น ดีไม่ดี ให้ดูรัฐบาลนี้ เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ยังรวมกันได้ แม้แต่ก่อน ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ โว สส.ภูมิใจไทย ลูกบ้านใหญ่ ส่งเรียนนอกหมด-ไม่เคยเห็นเด็ก ภท. ถือไอแพดอยู่ในสภาฯ แจงปมตั้งปลัดเหลืออายุงาน 6 ปี สั่งอะไรได้หมด ดีกว่าเหลือ 1 ปี แล้วต้องจุดธูปเรียกทุกวัน ไม่กังวล ปมที่ดินเขาใหญ่ เปลี่ยนไปอีก 5 มท. ก็ไม่จบ ยันไม่ใช่ภูมิใจขวางกาสิโน ลงนาม-ส่งร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ คืน ครม. แล้ว

นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ บรรยายเรื่องการสร้างผู้นำในการเผชิญกับสภาพสังคมโลก และภูมิภาคในสภาวการณ์ปัจจุบัน และอนาคต ให้กับนักเรียนหลักสูตรการบริหารความมั่นคงของสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 61 ณ หอประชุม วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ถนนวิภาวดี กทม.


นายอนุทิน​ กล่าวถึงการสร้างผู้นำ​จะเห็นได้ว่าผู้บริหารไม่ได้ดูเรื่องอาวุโสเพียงอย่างเดียว​ ไม่มีใครเข็ดเท่ากับเจอข้าราชการที่เหลืออายุราชการอีก 1 ปี แล้วบอกว่าเหลือ 1 ปีแล้ว อยากเกษียณแบบสบาย ก่อนยืนยันว่าไม่ได้บอกว่าตนไม่ชอบข้าราชการ​ ที่บอกว่าเหลืออีก 1 ปีแล้วอยากเกษียณแบบสบาย​ ถ้าท่านเลือกอย่างนั้น ท่านพัฒนาประเทศไม่ได้​ ต้องถอยไปเป็นหน่วยซัพพอร์ต ต้องเอาคนที่มีเวลามากพอและเชื่อในเรื่องเหล่านี้ และมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินมากพอเท่าที่จะมารับในการอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เพราะหากรัฐไม่เข้าทาง​ เอกชนก็ทำอะไรไม่ได้​ ต้องอำนวยความสะดวกอย่างมากที่สุด​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ ต้องได้คนที่เชื่อว่า​ ถ้าฉันทำด้วยเจตนาที่ดีแล้วมีความซื่อสัตย์สุจริต​ ไม่มี Personal agenda ช่วยเหลือคนได้บ้าง ไม่ได้ หรือไม่ช่วยเหลือใครเลย และสามารถที่จะยืนหยัดมั่นใจว่าทำในสิ่งที่ชอบแล้ว อะไรก็ทำร้ายเขาไม่ได้​ เพราะประเทศนี้ดันมีกฎหมายที่ออกซ้ายก็ได้ ออกขวาก็ได้ ทำให้คนไม่กล้า แต่สิ่งเหล่านั้น หากเราคิดกว้างๆ มันเกิดขึ้นก่อนประเทศไทย มันเกิดมีความขัดแย้งมากมาย มีการใช้อำนาจ บางทีก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่วันนี้ถ้ามัวแต่คิดถึงเรื่องร้องเพลงจงรัก อยู่นั่นว่า ฉันเป็นใครในอดีต

“ดีไม่ดี ก็ขอให้ดูรัฐบาลนี้ ภูมิใจไทยกับเพื่อไทยมารวมกันได้อย่างไร มันก็รวม แต่ก่อนผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ แต่สุดท้าย ใครจะบอกว่ามันตกลงกันได้ ก็ตกลงกันได้ แล้วเมืองไทยได้ไหม​ ก็ได้​ ประชาชนก็ได้” นายอนุทิน กล่าว


นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะที่ตนเข้ามาดูกระทรวงมหาดไทย เห็นหรือไม่ปลัดมหาดไทยคนนี้ที่ตนตั้งมา อีก 6 ปีเกษียณ เพราะฉะนั้นอะไรที่วางไว้มันจะยาว ทุกคนบอกตนหมด​ ตอนที่จะตั้งเขา​

“โอ้โหเหลืออีกตั้ง 6 ปี​ บ้าหรือเปล่า​ ทำไมถึงไม่ตั้งคนโน้น เพื่อนผมสนิทกัน เหลืออีกปีเดียว สนิทกว่าคนที่ผมตั้งด้วย แต่ในภาพมันไม่ต่อเนื่อง แต่ตั้งตรงนี้ เขาก็จะมองยาว และเขาสามารถแสวงหาความร่วมมือต่างๆได้ วันนี้เขาจะไปขอความร่วมมือใครทุกคนก็ให้หมด ผู้ว่าฯ ก็ให้ ปลัดกระทรวงที่อยู่กระทรวงอื่นๆ ก็ให้ความร่วมมือ เพราะเดี๋ยวผมก็ขอความร่วมมือท่านบ้าง สั่งอะไรไปท่านก็ได้ครับ ผมไม่กังวล ต่อให้มีปัญหาผมมีเวลาที่จะไปแก้ แต่ถ้าเจอปลัด 1 ปี ผมต้องจุดธูปทุกวัน ว่าสั่งอย่างนี้ไป เขาจะทำหรือเปล่า แต่ก็เห็นใจเขาเขาไม่ทำขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 เดือนสุดท้าย พอสั่งอะไรไป ผมขอเวลาอำลาชีวิตราชการก่อน มันไม่ได้“ นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้เราจะต้องจะคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนที่ได้ทุกอย่าง ได้ทุกอย่างคือต้องโบราณด้วยและก้าวหน้าด้วย ทุกอย่างต้องอยู่ในคนๆ เดียวกัน ถ้าคนที่เราจะสร้างมาปฏิเสธขนบธรรมเนียมประเพณีทุกอย่าง ไม่สนใจอะไรเลยเจอหน้าก็ไม่ยกมือไหว้ ไม่เข้าวัดเข้าวา ทำงานอย่างเดียว อันนี้ก็ไม่ได้ AI อย่างเดียวก็ไม่ไหว มันก็ต้องมีใช้ทั้งพระเดชพระคุณ ใช้ความเชื่อประสบการณ์ที่ผ่านมาการแสวงหาความร่วมมือมาผนวกกับเทคโนโลยีต่างๆ และเดินหน้าไป


นายอนุทิน กล่าวว่า ในพรรคการเมืองที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคตนแก่ที่สุดในพรรค เวลาก็งวดมาทุกที วันนี้ตนเอาคนเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมา แต่จริงๆก็ไม่เด็ก อายุ 30-40 ปี แต่ตนถือว่าได้เปรียบหน่อย เพราะเด็กเหล่านี้คือลูกของบ้านใหญ่ แต่บ้านใหญ่ก็ดี บ้านใหญ่ในบ้านของผมทุกคนส่งลูกเรียนนอกจบดีๆ ทุกคนเพราะฉะนั้นเขามี 2 วิญญาณในตัวเอง อย่างวันเสาร์ไปงานบวช งานแต่งงาน งานศพ โกนผมไฟ ทำขวัญนาคอยู่ แต่ถ้าเขามากรุงเทพฯ มาด้วยข้อมูล มาด้วย AI มาด้วยการไปแสวงหาเรื่องราวต่างๆ ที่จะมาอภิปรายในสภา

“หากเป็นรุ่นผม หากให้ไปทำเรื่อง Entertainment Complex ผมก็บอกว่าเคยไปมาเก๊า เวกัส หรือแอตแลนติกซิตี้มา ผมก็คงพูดได้แค่นั้น แต่พวกนี้เขาจะไปหาว่า Entertainment Complex จะสร้างรายได้สร้างโอกาสได้อย่างไร มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอย่างไร และจะต้องใส่เรื่องของคาสิโน การพนันเข้าไปเท่าใด ถึงจะไม่ทำให้ประเทศถูกมองว่าเป็นประเทศที่ส่งเสริมการพนัน เขาจะใช้ความเก๋าบวกองค์ความรู้ ในขณะที่คนรุ่นตนใช้ความเก่าเพียงอย่างเดียว มันต่างยุคต่างสมัยกัน” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าคุยกับพวกกรรมการบริหารพรรคยุคใหม่ ซึ่งก็แซวเขาตลอด ว่าหากเอากระดาษไปปิดชื่อแจ็คเก็ตพรรคภูมิใจไทย ตนคิดว่าพูดกับพรรคประชาชนอยู่ เป็นคนที่ไฟแรง เขามีเอกลักษณ์ของเขาพรรคประชาชนเป็นพรรคที่ไฟแรง เป็น innovative ไม่กลัวใคร เอาเรื่องข้อมูลต่างๆ แต่เด็กรุ่นใหม่ของผมยังมีพื้นฐานที่มาจากความเป็นบ้านใหญ่เห็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ดูแลชาวบ้านอย่างไร ตรงนี้เขายังมีอยู่ตรงนี้ถือว่าสิ่งที่ตนได้เปรียบ สร้างคนเหล่านี้ขึ้นมาในพรรคของตน เพื่อให้นำพาพรรคต่อไป

“สิ่งที่ตนไม่เคยเห็น คือเด็กพรรคภูมิใจไทยถือไอแพดอยู่ในสภา ก่อนเข้าอภิปรายมีการปิดห้องทำงานส่วนตัว เขามีการซ้อมของเขา วันนี้จะถูกอภิปรายอะไร ก็จะมีการเตรียมข้อมูลและไม่มีหลุดเฟรม เขาซ้อมในห้องของเขา และเวลาเขาออกมาก็จะ Perfect พูดสอดคล้อง นี่คือประเทศไทยในอนาคต ไม่มีมั่ว ทุกอย่างต้องทำตามรูปแบบและกรอบที่ถูกวางไว้ด้วยความเปลี่ยนแปลงของโลก เพราะฉะนั้นเด็กเหล่านี้ที่กำลังจะขึ้นมาและมีความสนใจการเมือง เขามีโอกาสมากมายที่จะสื่อสาร สามารถทำงาน มีรายได้และค่าจ้าง ที่เป็นหลักแสนหลักล้านได้ แต่พอเขาอินในเรื่องการเมืองขึ้นมาเขาก็จะทำอย่างเต็มที่ วันนี้หากพูดกับเขาต้องมีข้อมูล ที่เท่าเขาหรือใกล้เคียงกับเขา สู้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราค่อยๆ ถอยออกมา“ นายอนุทิน กล่าว

ขณะเดียวกันในช่วงท้าย​ นักเรียน วปอ.​มีการตั้งคำถามต่อนายอนุทิน​ ว่าการผลักดันชาวอุยกูร์​กลับจีน​ และมีการถกเถียงกันในสภาฯ​ มุมมองในฐานะผู้นำมองอย่างไร และถูกต้องแล้วหรือไม่​ นายอนุทิน กล่าวว่า​ ขึ้นอยู่กับมุมมอง ซึ่งชาวอุยกูร์มีพื้นฐานมาจากตุรกี เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศนั้น เขามีความรู้สึกว่าเขาเป็นคนอีกประเภทหนึ่ง และเท่าที่ทราบมาคนเหล่านี้มีศาสนาที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายมุสลิม และเมื่อจีนปฏิวัติประเทศเป็นระบอบการปกครอง​ ซึ่งคนเหล่านี้ยังเชื่อมั่นในระบบประเพณี ก็เกิดความขัดแย้ง ต้องใช้ความเด็ดขาด อำนาจอยู่ที่ปลายกระบอกปืน​ พอถึงจึดที่เขาต่

นอกจากนี้ มีการตั้งคำถามถึงเรื่องที่ดินว่ามีกี่ประเภท​ และมีการร่วมกับนายทุนปลูกทุเรียน​ จะมีการออกกฎหมายมาแก้ไขหรือไม่​ นายอนุทิน​ ว่า​ นายอนุทิน กล่าวว่า แม้กระทั่งตัวเองก็โดน ในการตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟเขาใหญ่​ แ​ต่ตนไม่สามารถตอบได้ว่าที่ดินมีกี่อย่าง เพราะมันมีตั้งแต่โบร่ำโบราณนานเดิม แต่ทั้งหลายทั้งปวงขึ้นอยู่กับว่าได้มาอย่างไร ถ้าอย่างในกรณีของครอบครัวตน สนามกอล์ฟที่อยู่ปากช่อง ตอนที่ตนไปดูชาวบ้านกำนันผู้ใหญ่บ้าน พาไปดูแปลงที่ขาย แต่สิ่งที่เราซื้อมา คือเราซื้อโฉนดไม่ได้ซื้อเอกสารสิทธิ์ มีการเปลี่ยนมือมา 6-7 ครั้งแล้ว ซึ่งนี่คือกุศโลบายว่าเวลาซื้อที่ดิน ต้องไปกรมที่ดิน ไม่เหมือนกับทำสัญญา 2 คน เพราะฉะนั้นรู้ว่า หากได้มาโดยไม่ถูกต้อง จึงต้องมีองค์กรของรัฐเข้ามาคุ้มครอง การเสียค่าธรรมเนียมก็เปรียบเหมือนเป็นการรับรองว่าจะสามารถโอนให้ หากบอกอย่างนั้น ก็โดนกันหมด ทั้งที่ดินเขากระโดง​ อัลไพน์​ กรมที่ดินจ่ายค่าชดเชยเป็นหมื่นล้าน พอมีเรื่องขัดแย้งอะไรทางการเมือง มันก็จะมีเหตุ สักพักพอทำอะไรไม่ได้ก็จะเงียบไป อย่างเขากระโดงก็เหมือนกัน รถไฟต้องไปฟ้องศาลว่าที่ดินตรงไหนเป็นของรถไฟ แต่ที่ดินตรงนั้นมันไม่ได้ได้มาในสมัยนายชัย​ ชิดชอบ​ มันได้มาก่อน​ ถือครองเพียง 200 ไร่ใน 5,000 ไร่ แต่ต้องมาลงในตระกูลชิดชอบเท่านั้น ถนนวิ่งเต็มในที่ 5,000 ไร่ แล้วจะเป็นของการรถไฟได้อย่างไร เป็นของกรมทางหลวงใช่หรือ​ไม่​

“ผมไม่กังวลในเรื่องนี้ แม้แต่พ้นตำแหน่ง มท.1 ไปแล้ว เปลี่ยนอีก 5 มท.ก็ยังไม่จบ​ และผมทำได้อย่างเดียวเพียงทำตามคำสั่งศาล ไม่รู้ว่าระบบอย่างนี้ทำมาได้อย่างไร ถามว่าวันนี้กล้าไปซื้อที่ดินปากช่องเขาใหญ่หรือไม่” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน​ ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่มีนโยบายกาสิโน แต่มาร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีนโยบายเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ บวกกาสิโน​ แต่เมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาล​ และเมื่อพรรคภูมิใจไทยมีอะไรก็ใส่ขึ้นเข้าไป อย่างนโยบายกัญชา แต่เพื่อไทยไม่มี เขาก็ต้องรับ เมื่อมาร่วมรัฐบาลก็ต้องสนับสนุน โดยมีกรอบอย่างไร​ เวลาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องหาจุดลงตัวกันให้ได้ และทำให้รู้สึกว่าไม่ได้เป็นการดึงออกจากหน่วยงานหนึ่งออกไป ก่อนเล่าย้อนว่าในร่างแรก ไม่ให้อำนาจของกระทรวงมหาดไทย โดยให้อำนาจกับนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษากฎหมาย จึงไม่เห็นด้วย กลับไปหารือกับ คณะกรรมการและเกิดการถกเถียงกัน จนออกมาเป็นร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ ที่ให้อำนาจกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับนายกรัฐมนตรีได้ ยืนยันว่า ไม่ใช่ภูมิใจขวาง แต่จริงๆ แล้ว บางที มท.1 กับ นายกรัฐมนตรีพรรคเดียวกัน แต่เมื่อไม่เป็นพรรคเดียวกันมีไหม ก็เคยมี ในสมัยนายชวน​ หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก ซึ่งขึ้นอยู่กับบริบททางการเมือง ซึ่งวันนี้ไม่มีพรรคใดได้เกินกว่ากึ่งหนึ่ง ก็ต้องมานั่งเจรจากัน

”อย่างพรรคของตนในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คุมกระทรวงคมนาคม สาธารณสุข และท่องเที่ยว เป็นรัฐบาลผสมเช่นกัน พอหลังเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นลำดับ 1 และพรรคตนเป็นลำดับ 2​ เพื่อไทยก็เจรจาว่าอยู่คมนาคมมา และสาธารณสุขมาแล้ว 4 ปี ต้องสับเปลี่ยนหมุนกันบ้าง ไม่ให้อยู่ต่อ​ ถ้าตนบอกว่าอยู่วัฒนธรรมก็ได้บริบททางการเมืองมันรู้อยู่แล้ว ว่ามีกี่เสียงควรขอ แบบนี้ หรือพูดง่ายๆ ว่าแทบเป็นสูตรสำเร็จ ว่าหากมีรัฐบาลผสมอย่างนี้ พรรคใดควรได้กระทรวงใด ไม่ต้องมีใครเก่งกว่าใครหรือเขี้ยวกว่าใคร“ นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนาม ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ว่ากระทรวงมหาดไทย พิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดแหล่งท่องเที่ยว อันเป็นประโยชน์ให้เกิดการลงทุน และนำรายได้เข้าสู่ประเทศ จึงขอยืนยันและเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติม ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ววานนี้ ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]