นายกฯ ยกคณะลุยสระแก้ว เกาะติดปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

สระแก้ว 28 ก.พ.-นายกฯ ยกคณะลุยสระแก้ว เกาะติดปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขอบคุณเจ้าหน้าที่และภาคเอกชน จับมือบูรณาการแก้ปัญหา ตรวจศูนย์คัดกรองฯ พร้อมรับ 119 เหยื่อขบวนการคอลเซ็นเตอร์กลับไทยพรุ่งนี้

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมลงพื้นที่ด้วย


เมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางถึง ร.12 พัน.3 รอ. (ค่ายสุรสิงหนาท) ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยวันนี้นายกฯ แต่งกายอย่างทะมัดทะแมง นายกฯ เป็นประธานประชุม ติดตามความคืบหน้าการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การตัดสายสัญญาณสื่อสารผิดกฎหมายการลดเสาส่งสัญญาณสื่อสารและอินเตอร์เน็ต ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจจะมาตรวจติดตามดูงาน โดยก่อนหน้านี้รองนายกฯ ได้ลงมาดูในพื้นที่ก่อนแล้ว ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า ปัญหาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศเรา ต้องขอบคุณและชื่นชมฝ่ายความมั่นคงและตำรวจ ที่ช่วยกันดูแลสิ่งที่เกิดขึ้น และจัดการปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีมาก วันนี้จะมาดูหลังจากมีข้อสั่งการไปแล้ว ได้ทำอะไรไปบ้าง เป็นการติดตามผลว่ามีอะไรที่จะทำเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ และฝ่ายความมั่นคงต้องการอะไรเพิ่มเติมจากรัฐบาล รวมถึงจะสื่อสารประชาชนว่าต้องอย่างไร เพื่อทำงานร่วมกัน


“ขอบคุณทุกคนที่มาในวันนี้ และได้เจอภาคเอกชน ที่จะเข้ามารายงาน เป็นการทำงานแบบบูรณาการทั้งฝ่ายรัฐและเอกชน เพื่อสื่อสารให้ประชาชนทราบ ว่าตอนนี้เป็นอย่างไร เพราะมีความหนักใจอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่อยู่บ้าน อาจไม่คล่องตัวเรื่องเครื่องมือสื่อสารอาจจะโดนหลอกหรือไม่อย่างไร ต้องมาดูกันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ภายหลังประชุมนางสาวแพทองธาร ได้ไปตรวจเยี่ยมศูนย์คัดกรองตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ จ.สระแก้ว ซึ่งใช้ค่ายสุรสีห์เป็นศูนย์เฉพาะกิจ ในการคัดกรองคนไทยจากขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ถูกจับกุมในฝั่งปอยเปต จำนวน 119 คน แบ่งเป็นชาย 60 หญิง 59 คน เยาวชน 4 คน ต่ำสุดอายุ 17 ปี ซึ่งจะเดินทางข้ามแดนมายังประเทศไทยในวันพรุ่งนี้

โดยศูนย์แห่งนี้ จะตรวจสอบสถานะของบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติ กระบวนการทำงานของศูนย์ฯ มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย และในขณะเดียวกันก็มีมาตรการตรวจสอบและดำเนินคดีสำหรับผู้ที่มีประวัติอาชญากรรม เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและความปลอดภัยแก่สังคมโดยรวม


โดยระหว่างตรวจศูนย์คัดกรองฯ นางสาวแพทองธาร ได้สอบถามถึงระยะเวลาที่ผู้ที่ส่งตัวกลับจะอยู่ในการคุ้มครอง เจ้าหน้าที่ระบุว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน และดูจุดคัดกรองทางการแพทย์ที่จะตรวจสุขภาพกายและใจ ของผู้ที่ถูกส่งกลับ และห้องพักคอยที่เตรียมไว้รอรับ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา