รัฐสภา 5 ก.พ.- กมธ.การปกครอง เรียกร้อง ดีอี-กสทช. เร่งดำเนินการตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต หลัง สมช. มีคำสั่งชัด เผย PEA ยันไม่เสียผลประโยชน์ ชี้ ขาดรายได้เพียงส่วนน้อยของรายได้ทั้งหมด
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงเรื่องการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าข้ามพรมแดนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในที่ประชุมกรรมาธิการ ว่า ได้สอบถามสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ถึงการโยนภาระกันไปมาระหว่าง PEA กับ สมช. ว่าตกลงแล้วใครเป็นผู้รับผิดชอบกันแน่ จึงได้ทราบข้อเท็จจริงว่า สมช.เป็นเจ้าภาพหลักที่จะดูแลเรื่องความมั่นคงของชาติ ส่วน PEA จะดูแลความมั่นคงทางพลังงานเป็นหลัก
ขณะเดียวกัน ในที่ประชุมยังได้รับข้อมูลว่ามีการจ่ายไฟให้กับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ด้วย ทางกรรมาธิการ จึงอยากจะเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตัดไฟทันที หากพบข้อมูลหรือหลักฐานที่ชัดเจน ว่ากระทบต่อความมั่นคงของชาติ
ส่วนกรณีที่การตัดไฟอาจไปกระทบต่อประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมายในเมียนมา อาทิ ในโรงเรียนและโรงพยาบาลนั้น สมช. ชี้แจง ว่าได้แจ้งรัฐบาลเมียนมาไปแล้วว่าประเทศไทยจำเป็นที่จะป้องกันความปลอดภัยให้กับคนไทยในประเทศ และรัฐบาลเมียนมาก็เข้าใจสถานการณ์ดี
สำหรับเรื่องที่หลายฝ่ายเป็นกังวลว่าจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายกรวีร์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่าได้ประสานงานกับรัฐบาลเมียนมาอย่างต่อเนื่อง และได้ชี้แจงกับทางเมียนมาไปแล้วว่า ไทยมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศจึงต้องดำเนินการตัดไฟ
ส่วนกรณีข้อกังวลที่ไทยอาจจะถูกฟ้องร้องจากคู่สัญญานั้น นายกรวีร์ กล่าวว่า กฟภ. ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จะถูกฟ้อง แต่ทาง PEA มั่นใจว่าขั้นตอนต่างๆ ที่ทำเป็นไปด้วยความรัดกุม และมีคำสั่งมาจากหน่วยงานรัฐ รวมถึงรัฐบาลที่ดูแลเรื่องความมั่นคง ซึ่งมีสัญญาการจ่ายไฟอย่างถูกต้องทุกประการ จึงเชื่อว่ามีหลักฐานต่างๆที่จะสามารถสู้ในชั้นต่อๆไปได้
ส่วนที่บางฝ่ายบอกว่าสาเหตุที่ PEA ไม่ยอมตัดไฟเป็นเพราะเสียดายเรื่องรายได้ นายกรวีร์ ชี้แจงว่า สัดส่วนของการขายไฟเมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมดเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ไม่ถึง 1% ของรายได้ PEA และเมื่อมีคำสั่งก็ได้ดำเนินการตัดไฟทันที ฉะนั้นยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเสียผลประโยชน์แน่นอน
ทั้งนี้ กรรมาธิการจึงอยากจะฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ให้เร่งรัดตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสัญญาณโทรศัพท์ ตามที่ สมช.ได้สั่งการไป ขณะเดียวกัน ทางกรรมาธิการก็จะทำหนังสือส่งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไปติดตามการตัดไฟ ระงับการส่งน้ำมัน และตัดโทรคมนาคมต่างๆด้วยว่าได้ดำเนินการไปแล้วหรือไม่.-315 -สำนักข่าวไทย