“ภูมิธรรม” แจงตัดไฟแล้ว จุดที่มีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ทำเนียบ 30 ม.ค.- “ภูมิธรรม” แจงตัดไฟฟ้าพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปแล้ว ระบุหากลักลอบส่งไฟต้องตรวจสอบ ส่วนกรณี “ทรัมป์” ตัดงบฯ ช่วยเหลือผู้ลี้ภัย รอยูเอ็นเคลียร์ คาดใช้เวลา 3 เดือน ระหว่างนี้ไทยดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงจากกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า การตัดไฟฟ้าไม่ให้ความช่วยเหลือพื้นที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งจังหวัดเมียวดี ให้ไปถามหน่วยงานความมั่นคงโดยตรง ว่า ขณะนี้ไทยจ่ายไฟให้กับเมียนมา 2 จุด บริเวณสะพานมิตรภาพไทย- ลาวเข้าสู่เมวดี และชายแดนแม่ฮ่องสอน แต่จุดที่มีปัญหา คือ อำเภอแม่ระมาด กับอำเภอแม่สอด ได้ตัดไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนปี 66 รวมถึงเรื่องระบบอินเทอร์เน็ต และยังได้สั่งการเพิ่มเติมว่า ผู้ใดให้ไฟฟ้าเขาใช้ก็ถือว่าสมรู้ร่วมคิด ฝ่ายความมั่นคงก็จะดำเนินการ หากพื้นที่มีปัญหาจะใช้เครื่องปั่นไฟก็เป็นเรื่องภายใน แต่ยืนยันว่า เราจัดการสั่งตัดไฟฟ้าไปแล้ว หากมีการลักลอบใช้ก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป

ขณะที่การประชุมวันนี้ เป็นการประชุมร่วมกันของทุกหน่วยงาน ทั้งกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กอ.รมน. และฝ่ายข่าวที่เกี่ยวข้อง ซึ่งครั้งนี้จะเพิ่มมาตรการซีลชายแดน นอกจากชายแดนปกติ เนื่องจากเส้นทางธรรมชาติมีระยะทางยาวหลายกิโลเมตร การใช้ 51 อำเภอ 76 สถานีตำรวจ เป็นการซิลอีกชั้นหนึ่ง พยายามจัดการกับจุดพักยาต่างๆ ทางเข้าและออก ซึ่งจะมีการประเมินในรอบ 6 เดือน หากทำได้ดี จะส่งผลต่ออาชญากรรมอื่นๆ ด้วย


ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่าไทย จะถูกปรับลดอยู่ในระดับเทียร์ 2 เรื่องสิทธิมนุษยชน นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะถือว่าเป็นการทำหน้าที่ แต่หากไม่ทำเลยและนิ่งเฉยก็จะเกิดคำถามขึ้น แต่สิ่งที่ทำ คือ ไม่ใช่แค่เรื่องยาเสพติด ก็ต้องดูเรื่องสิ่งต่างๆตามแนวชายแดนด้วย ทั้ง คอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ ทุกอย่างจะรวมศูนย์อยู่ในเรื่องนี้ด้วย ยืนยัน ได้มีการพูดคุยระดับผู้นำเหล่าทัพแล้ว และอยากให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลมอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงทำหน้าที่แล้ว ก็จะมีการบูรณาการทำงานร่วมกัน อยากให้ประชาชนมั่นใจและสบายใจ ว่าจะให้เหตุผลเป็นรูปธรรมที่สุด เมื่อประเมินผลแล้วก็จะสรุปแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยครั้งต่อไปจะรวมพื้นที่ภาคใต้ ที่มีปัญหา 3 จังหวัดชายแดน

ขณะที่กรณีศูนย์ผู้ลี้ภัยที่สหรัฐอเมริกา ประกาศตัดงบฯ ดูแลสาธารณสุข ซึ่งจะกระทบต่อโรงพยาบาลชายแดนในไทยนายภูมิธรรม ยอมรับว่า รัฐบาล ได้รับผลกระทบเรื่องนี้ เพราะเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับการช่วยเหลือ แต่การดำเนินการมีหน่วย IRC และสหประชาชาติ เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นไทย ก็จะพยายามช่วยเหลือตามศักยภาพ ทั้งนี้ทางสหประชาชาติ จะใช้เวลา 3 เดือนในการพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งสหประชาชาติก็ไปดำเนินการ ไม่ใช่เรื่องของไทย ไทยก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่

ส่วนข้อเสนอให้รับรองผู้ลี้ภัยให้ทำงานถูกกฎหมายในประเทศไทย นายภูมิธรรม ชี้แจ้งว่า ได้รับฟังเรื่องนี้จากพรรคประชาชน แต่อยากให้มองความเป็นจริง ว่าจะให้รับรองทั้งหมดต้องถามคนไทยด้วยจะรับได้หรือไม่ บางครั้งคิดดีแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะจะมีปัญหาตามมาอีกมาก ยืนยันว่า รัฐบาลรับผิดชอบอยู่แล้ว รวมทั้งมีภาคประชาชนเข้ามาช่วยเหลือ ขณะเดียวกันเรียกร้องฝ่ายค้าน อยากให้มีแนวคิดบวก และศึกษาข้อเท็จจริงบ้างก่อนที่จะวิพากย์วิจารณ์จนรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ต้องหาข้อมูลให้ครบถ้วน


ส่วนกรณีชาวอุยกูที่อยู่ในประเทศไทย ที่ทางการจีนต้องการให้ส่งตัวกลับ ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชน และสหรัฐ คัดค้านเรื่องนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นความต้องการของแต่ละฝ่าย ที่สำคัญต้องยึดถือฝ่ายไทย โดยไทยคำนึงถึงสิทธิเอกราชอธิปไตยของไทยเป็นหลัก และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ดังนั้นเรายึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งใครจะดำเนินการจัดการทุกอย่าง หากเป็นผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้นเมื่อเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ก็ไม่จำเป็นต้องมาจับกุมขังนานถึง 10 ปีเช่นนี้ เป็นปัญหาที่ไทยจะต้องแก้ไข ซึ่งตามหลักสากลจะต้องส่งไปยังประเทศที่ 3 โดยมีการส่งไปแล้วกว่า 100 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรี ที่เหลือยังไม่มีความชัดเจน หากจะดำเนินการด้านใดก็เกิดปัญหาทั้งสิ้น จะต้องดูว่าจะทำอย่างไร แต่ต้องเคารพในอธิปไตยของไทย พร้อมย้ำ ไทยจะดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเข้มงวด คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และข้อตกลงที่ว่าจะไม่ส่งใครไปในพื้นที่อันตราย ไม่ต้องกังวล ส่วนการดำเนินการต่อไปอาจจะไม่ได้คุยกันผ่านสื่อ ยืนยันไม่มีใครกดดันไทยได้

ส่วนกรณีที่หลายประเทศออกมาเตือนให้พลเมืองตนเองระวังการเดินทางมาประเทศไทย อาจถูกหลอกลวงไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝ่ายความมั่นคงจะต้องจับตาด้านใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่ากังวล เพราะไม่มีเหตุการณ์ใดที่จะต้องขึ้นหมายแดง แต่ไทยก็จะทำหน้าที่ดูแลให้ดีที่สุด.-316 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฝากขังทิดแย้ม

ฝากขัง-ค้านประกัน “ทิดแย้ม” และพวก ยักยอกเงินวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พร้อมพวกอีก 2 คน ไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว คดียักยอกเงินวัดเล่นพนันออนไลน์ เมื่อเวลา 10.39 น. พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” และหญิงคนสนิทออกจากห้องควบคุม ขึ้นรถตู้ นำตัวไปฝากขัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน โดยทั้ง 2 มีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ตอบคำถามและให้สัมภาษณ์ใดๆ เมื่อทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเงินจำนวนดังกล่าวนั้นได้นำไปเล่นการพนันหรือไม่ และเงินจำนวนทั้งหมดเป็นเงินของวัดหรือไม่ “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ยกมือแสดงสัญลักษณ์ปฏิเสธไม่ขอพูด และไม่ขอตอบคำถามใดๆ พร้อมกับเดินอย่างสงบนิ่งขึ้นรถตู้ออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะที่การสอบปากคำทั้งคู่ ยังคงให้การภาคเสธ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้คัดค้านการประกันตัว ทั้ง 2 เนื่องจากเป็นคดีเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการทุจริต มูลค่าความเสียหาย จำนวนมาก อีกทั้งหากได้รับการประกันตัวหวั่นผู้ต้องหายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและหลบหนีคดี ซึ่งยากต่อการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีในภายหลัง อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ทนายความพร้อมกับลูกศิษย์ เตรียมคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ยื่นขอประกันตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” เช่นเดียวกับหญิงคนสนิททางญาติก็เตรียมคำร้องพร้อมกับหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวเช่นเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย

‘ยุน ซ็อก-ยอล’ อดีต ปธน.เกาหลีใต้ ลาออกจากพรรคพีพีพี

โซล 17 พ.ค. – นายยุน ซ็อก-ยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งกล่าววันนี้ว่า เขากำลังจะลาออกจากพรรคพลังประชาชน หรือ พีพีพี ที่มีแนวนโยบายอนุรักษ์นิยม นายยุน ซึ่งประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปี่ที่แล้ว และต่อมาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ได้รับเสียงเรียกร้องจากสมาชิกพรรคพีพีพีให้เขาลาออกจากตำแหน่งเพื่อเรียกเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมจากกลุ่มผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่มีแนวนิยมสายกลาง ซึ่งไม่มองการกระทำของของนายยุนออกไปในเชิงลบ นายยุน โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า เขาขอแสดงความขอบคุณต่อสมาชิกพรรคและเพื่อนร่วมงานที่ไว้วางใจและสนับสนุนเขา แม้ว่าเขาจะมีข้อบกพร่อง แต่โปรดสนับสนุนนายคิม มุน-ซู ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคพลังประชาชน การประกาศลาออกจากพรรคของนายยุน เกิดขึ้นในขณะที่นายคิมมีคะแนนตามหลังนายอี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคเสรีประชาธิปไตยอย่างมาก จากผลสำรวจความคิดเห็นของกัลลัปเกาหลี ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายนนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

คุมฝากขัง “เอกพจน์” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจไซเบอร์คุมตัว “เอกพจน์” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ไปขออำนาจศาลอาญารัชดา ฝากขัง พร้อมบอกตอนนี้ตัวใครตัวมัน เมื่อเวลา 08.45 น. พนักงานสอบสวน ตำรวจไซเบอร์ สอท.3 เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เบิกตัวนายเอกพจน์ หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ พระคนสนิท อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 604/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค.68 ข้อหา “พ.ร.บ.การพนันร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออีเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐามผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขัง ทั้งนี้ ระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถ นายเอกพจน์ เปิดเผยว่า อดีตเจ้าวาสวัดไร่ขิงหรือทิดแย้มให้กดเงินและโอนเงินให้กับนางสาวธัญญวัฒน์ จริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร โดยโอนให้หลายครั้ง แต่ละครั้งก็หลักล้าน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าตอนนี้ยังนับถืออดีตเจ้าคุณแย้มหรือไม่ หรือไม่ นายเอกพจน์ตอบว่าตอนนี้ตัวใครตัวมัน ก่อนจะขึ้นรถควบคุมตัวไปที่ศาลอาญารัชดา .-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 17 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคของไทยมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย