รัฐสภา 2 ธ.ค. – เครือข่ายวิทยุภาคปชช.ยื่น สว. สอบ กสทช. ทำผิดกฎหมายประมูลคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียง ระบบ FM “นันทนา” จ่อตั้งกระทู้ถามนายกฯ
นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. และนายชิบ จิตนิยม สว. และคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา รับหนังสือจากนายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา ประธานองค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการวิทยุ กระจายเสียงภาคประชาชนแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบ การดำเนินการของคณะกรรมการ กสทช.และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. กรณีกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียงระบบ FM ประเภทธุรกิจที่จังหวัดลำพูน ที่ปกติใช้งบประมาณประมูลหลักแสนบาท แต่มีการย้ายแม่ข่ายไปจังหวัดเชียงใหม่ทำให้มูลค่าสูงถึงกว่า 19 ล้านบาททำให้รัฐเสียหายกว่า 10 ล้านบาทรวมทั้งกระทบวิทยุชุมชนที่อยู่ใกล้แม่ข่าย และที่ผ่านมาไม่ใช่ย้ายเครือข่ายข้ามจังหวัด แต่มีการย้ายข้ามเขตข้ามภาค ล่าสุดย้ายไปที่จังหวัดอุทัยธานี นอกจากนี้ยังพบว่ามีบริษัทเอกชนเข้ามาประมูลคลื่นความถี่ 13 คลื่น แล้วทิ้งไป 3 เครื่อง ซึ่งในระเบียบหากจะทิ้งก็ต้องยกเลิกทั้งหมด และไม่จ่ายเงินให้ กสทช.ซึ่งเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยเพิกเฉย จะถือว่ามีความผิดตามมาตรา 157 เพราะทำให้รัฐเสียหาย
นางสาวนันทนากล่าวว่า สว. จะตรวจสอบด้วยการยื่นกระทู้ถาม ไปยังนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้กำกับโดยตรง เพื่อตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลความไม่ปกติในการประมูลคลื่นความถี่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการจัดตั้งองค์กรอิสระ ขึ้นมาดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องโทรคมนาคม และคลื่นความถี่ เป้าหมายหลักคือต้องการ ให้คลื่นความถี่กระจายไปยังคนชายขอบ ผู้เปราะบางและผู้ที่ไม่สามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ได้ แต่ถ้ากลายเป็นการประมูลแล้วได้ประโยชน์ กับผู้ที่ดำเนินการธุรกิจขนาดใหญ่ จะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลัก ที่ต้องการให้คลื่นความถี่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน
นายชิบกล่าวว่าเรื่องของกสทช.มีหลายเรื่องที่ได้พูดคุยหลายวาระ พรุ่งนี้กรรมาธิการการเทคโนโลยีฯ ชุดใหญ่จะเดินทาง ไปยังกสทช. และจะหยิบยกปัญหามาพูดคุยเพื่อทราบแนวทาง ในเบื้องต้นก่อนลงลึกในรายละเอียด นอกจากนี้กรรมาธิการหลายคณะให้ความสนใจเรื่อง กสทช. ทั้งนี้นอกจากเรื่องผู้ประกอบการวิทยุแล้ว ยังมีผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ยังเตรียมรวบรวมรายละเอียดเพื่อยื่นมาให้ตรวจสอบขอความชัดเจนเรื่องการประมูลด้วย
นางสาวนันทนาและนายชิบยังได้รับหนังสือจากตัวแทนผู้ประกอบการวิทยุชุมชนที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางเข้ายื่นเรื่อง เรียกร้องให้ทางภาครัฐเข้ามาดูแลว่า จะช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบางที่ดำเนินธุรกิจวิทยุชุมชนอย่างไร เนื่องจากในปีหน้าจะมีการยุติการให้บริการกิจการวิทยุชุมชนทั้งหมด และผู้ประกอบการต้องเข้าสู่การประมูล ต้องมีการแข่งขันและใช้เงินจำนวนมากในการเข้าถึงคลื่นความถี่ และขอให้ภาครัฐเข้ามาดูแล ผู้ประการวิทยุชุมชนทั้งประเทศไม่ใช่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง.-319 -สำนักข่าวไทย
