รองโฆษกรัฐบาล เผยท่องเที่ยวเชียงใหม่ฟื้น นทท.คึกคัก

ทำเนียบ 1 ธ.ค. – “ศศิกานต์” ย้ำท่องเที่ยวเชียงใหม่ฟื้น นทท.คึกคัก คาดปี 67 ท่องเที่ยวเติบโตร้อยละ 7 สร้างรายได้กว่า 43,000 ล้านบาท


น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยสถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่กลับมาคึกคัก ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ นักท่องเที่ยวเริ่มหนาแน่น เดินชิวรับบรรยากาศต้อนรับลมหนาว จากแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวภายหลังสถานการณ์อุทกภัย รัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวภูมิภาคภาคเหนือ ส่งเสริมการตลาดด้วยบิ๊กอีเวนต์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีถึงต้นปีหน้า เพื่อกระตุ้นการเดินทางช่วงไฮซีซั่น ส่งผลให้การท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ส่งสัญญาณบวก พร้อมต้อนรับและส่งมอบความสุขแก่นักท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้

น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า พื้นที่ภาคเหนือ ถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมส่งมอบความสุขให้นักท่องเที่ยวผ่านโครงการ Chiang Mai Festival City จัดเต็มบิ๊กอีเวนต์ในพื้นที่เชียงใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งนี้ ภายหลังสถานการณ์อุทกภัย การท่องเที่ยวฟื้นตัวแล้ว โดยในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา ยอดจองห้องพักเต็มในโรงแรมหลายแห่ง และมีเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศเข้าสู่สนามบินเชียงใหม่เพิ่มขึ้น


รัฐบาลเดินหน้าสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้คึกคัก ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงในภูมิภาคภาคเหนือในช่วงไฮซีซั่นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นปี 2568 เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวรับลมหนาวในช่วงเดือนปลายเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2567 ได้แก่ งาน Amazing Chiang Mai Meat & Camp 2024 วันที่ 5 -8 ธันวาคม 2567 อีเวนต์สำหรับผู้ชื่นชอบ Camping และรับประทานเนื้อ เช็กอินถ่ายภาพในบรรยากาศธรรมชาติสไตล์ชาวแคมป์, งาน “ฟู้ด เฟสติเวอร์” วันที่ 11 – 15 ธันวาคม 2567 เทศกาลอาหารสุดยิ่งใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ รวบรวมอาหารถิ่นจาก 5 ภูมิภาคและร้านอาหารชื่อดังจากทั่วประเทศกว่า 70 ร้าน และการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดังและศิลปินในท้องถิ่น และ ร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับงาน Amazing Chiang Mai Countdown 2025 วันที่ 21- 31 ธันวาคม 2567 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ กิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ประดับตกแต่งไฟ การแสดงโดรน การฉาย Illumination & 3D Mapping พร้อมพลุสุดอลังการ

“คาดว่า ในปี 2567 ภูมิภาคภาคเหนือจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 22.3 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 138,537 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่จะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 8.6 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 43,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว -314-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก