กทม. 11 พ.ย.-“พลพีร์” สส.ภูมิใจไทย วอนรัฐ ชัดเจนเงินช่วยชาวนา และค่าชดเชยตัดอ้อย ถามต้องรออะไร
นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา เขต 9 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาที่ได้รับร้องเรียนและถามถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ความชัดเจนในการช่วยเหลือชาวนา ‘ไร่ละ 1,000 บาท’ และเงินชดเชย ‘ตัดอ้อยสด 120 บาทต่อตัน’ ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงเดือนทอดกฐิน หลังได้ลงพื้นที่ร่วมทำบุญกับชาวบ้าน จะมีคำถามเกี่ยวกับ 2 เรื่องนี้ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข. ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 ตนมองว่าไม่ได้ให้ความชัดเจนหรือกระจ่างกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่กำลังอยู่ในระหว่างช่วงเกี่ยวข้าวแต่อย่างใด
สำหรับโครงการเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท และไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวของรัฐบาลแต่ก่อนนั้น ไม่ใช่เพียงแต่จะช่วยค่าเมล็ดพันธุ์ หรือชดเชยรายได้ช่วงราคาข้าวตกต่ำ แต่มันคือการลดภาระต้นทุนการปลูก เกี่ยว เก็บ ให้พี่น้องเกษตรกรสามารถมีรายได้เพิ่มมากขึ้น นำไปต่อยอด ลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ พัฒนาผลผลิตทางการเกษตรนี้ ซึ่งเป็นสินค้า เป็นอาหารหลัก เป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งของประเทศ ให้ได้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
นายพลพีร์ กล่าวว่า ในขณะที่ทั่วโลกกำลังรณรงค์แคมเปญ Net Zero Emissions หรือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รัฐบาลไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญนี้ พยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ลดฝุ่น PM2.5 แต่สวนทางกับนโยบายที่จะช่วยชดเชยรายจ่ายที่พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยต้องแบกรับมากขึ้นจากการตัดอ้อยสดไม่เผา นโยบายชดเชย 120 บาทต่อตัน กลับเงียบหายไป จนขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
“ผมจึงอยากเป็นกระบอกเสียงหนึ่งจากประชาชนอำเภอห้วยแถลง อำเภอจักราช และตำบลตลาดไทร,โนนตูม ของอำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา วิงวอนให้กระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งพิจารณาหาข้อสรุป และชี้แจงถึงแนวทางให้ชัดเจนกับพี่น้องประชาชน และหากเป็นไปได้ อยากฝากรัฐบาลพิจารณาเงินชดเชยการตัดอ้อยสดให้มากกว่า 120 บาทต่อตัน เพื่อจูงใจ และได้รับความร่วมมือจากผู้ปลูกอ้อยเพิ่มมากขึ้น ให้พี่ๆ เกษตรกรเหล่านี้ได้ตื่นมาอย่างอุ่นใจ หายเหนื่อย ไม่ท้อใจ ว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง หรือไม่ให้ความสำคัญ” นายพลพีร์ กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย