กทม. 14 ต.ค. – “ประธาน กมธ.ฟอกเงิน” ยันไม่มีล็อบบี้แน่นอน คนยกหูขอเคลียร์ “ดิ ไอคอน” ซัดชายนิรนามอ้างเป็น กมธ. สามารถเคลียร์ได้ เป็นพวกต้มตุ๋น-นักฉวยโอกาส เหน็บไม่มีตำแหน่งแห่งหน-ศักดิ์ศรีพอเจรจากับใคร ขอรอดูผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ย้ำสัปดาห์หน้าเชิญ “หน่วยงานเกี่ยวข้อง-บอส” เข้าแจง แนะเจ้าหน้าที่ทำคดีแบบกลุ่มจะได้เสร็จเร็วขึ้น
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (ปปง.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลิปเสียงชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็น กมธ. และเคลียร์เรื่องดิ ไอคอน ให้ได้ว่า ตนยืนยันอย่างชัดเจนว่า กมธ.ปปง. ทำทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการเจรจาหรือทำอะไรที่ให้ประชาชนเดือดร้อน ไม่เคยมีการเจรจาต่อรอง ไม่เคยมีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นใน กมธ.คณะนี้
ส่วนมีคนติดต่อเข้ามาขอเคลียร์เพื่อไม่ให้พิจารณาเรื่องดิ ไอคอน หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวยืนยันว่าไม่มี และวันพุธนี้ (16 ต.ค.) จะมีการพิจารณาเรื่องนี้เบื้องต้นตามเดิมว่าจะเชิญหน่วยงานใดมาบ้าง รวมถึงนักกฎหมายเข้ามาหารือ เนื่องจากเราต้องการดูข้อกฎหมายที่ชัดเจนว่าจะเอาผิดในส่วนของผู้เป็นเจ้าของดิ ไอคอน ว่าอย่างไร เบื้องต้นมีความผิดปกติอย่างแน่นอน ประชาชนก็เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จึงค่อนข้างชัดเจนแล้วในขณะนี้ เพราะฉะนั้นเราคงจะหาข้อมูลเตรียมไปด้วย และติดตามส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐที่ดำเนินการเรื่องนี้ในวันพุธ และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามา กมธ. ในสัปดาห์หน้า
“ให้ไปติดตามดูว่า กมธ. จะดำเนินการอย่างไร การดำเนินการของ กมธ. จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าไม่ได้มีใครมาล็อบบี้หรือเจรจาได้ ใครก็แล้วแต่ที่ถูกอ้างว่าเจรจาได้ ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน” นายเลิศศักดิ์ กล่าว
นายเลิศศักดิ์ ย้ำว่าเรื่องดิ ไอคอน เป็นความเสียหายของประชาชนจำนวนมาก และจะกลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับคนที่จะมาลงทุนหรือซื้อสินค้า รวมถึงเข้าสู่ธุรกิจในรูปแบบนี้ ดังนั้น ตนอยากให้การดำเนินคดีเป็นบทเรียนสำคัญ และเอาผิดผู้ที่ประสงค์ไม่ดีกับประชาชนทั่วไป เราจะตามจนถึงที่สุดแน่นอน
ส่วนคนที่แอบอ้างเป็น กมธ. จะเรียกว่าเป็นนักต้มตุ๋นได้หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า คงจะทำนองนั้น ถ้าคลิปเสียงนี้เป็นความจริงก็ถือว่าเป็นนักฉวยโอกาส ไม่ได้มีตำแหน่งแห่งหนอะไรใหญ่โต หรือมีศักดิ์ศรีเพียงพอที่จะเจรจาอะไรกับใครได้ เป็นแค่นักต้มตุ๋นธรรมดา
เมื่อถามว่าผู้เสียหายและมูลค่าเยอะมากจะทำให้กระบวนการตรวจสอบเอาผิดล่าช้าขึ้นหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ แนะนำว่าตอนนี้ตำรวจสอบสวนกลางกำลังรับแจ้งความ ซึ่งการดำเนินคดีตนคิดว่าอาจจะต้องมีหน่วยงานหรือใครที่เข้าไปช่วยให้มีการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ที่เรียกว่าคลาสแอ็คชั่น แบบกรณีบริษัทสตาร์ค ซึ่งก็สะดวกและทำให้ไปในทิศทางเดียวกัน ตนคิดว่าต้องมีหน่วยงานกลางเข้ามาดูเรื่องการดำเนินคดี กำลังดูอยู่ว่าใครจะออกมาดำเนินการในเรื่องนี้ ในส่วนของ กมธ. เองถ้าเราทำได้ก็อยากจะช่วยอำนวยความสะดวก
ส่วนจะมีการเชิญดาราที่เกี่ยวข้องมาหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ ระบุว่าคงต้องเชิญหลายฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง อาจจะไม่ได้จบเพียงครั้งเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อเชิญหน่วยงานของรัฐ ผู้เสียหายและผู้ที่เป็นผู้บริหารบริษัทเข้ามาบางครั้งก็ไม่พูดคุยจบภายใน 2-3 ชั่วโมง ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ได้ประชุมครั้งเดียวอย่างแน่นอน.-315-สำนักข่าวไทย