ปภ.รายงาน 13 จังหวัดน้ำยังท่วม เร่งช่วยผู้ประสบภัย

ปภ. 12 ต.ค.- ปภ.รายงานมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 13 จังหวัด เร่งให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง และปักหลักอยู่ช่วยฟื้นฟูเพื่อคืนพื้นที่ที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พิษณุโลก นครสวรรค์ สุโขทัย ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม รวม 56 อำเภอ 293 ตำบล 1,455 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,724 ครัวเรือน ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายให้กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 12 ต.ค. 67 เกิดสถานการณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 46 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี กาฬสินธุ์ หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ ตรัง สตูล และสงขลา รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 281 อำเภอ 1,245 ตำบล 6,488 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 254,734 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 53 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน ซึ่งปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พิษณุโลก นครสวรรค์ สุโขทัย ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 56 อำเภอ 293 ตำบล 1,455 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,724 ครัวเรือน แยกเป็น


ภาคเหนือ รวม 7 จังหวัด 27 อำเภอ 96 ตำบล 462 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,446 ครัวเรือน
1) เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.เมืองฯ อ.แม่ลาว อ.เวียงป่าเป้า อ.เวียงชัย และ อ.เชียงแสน รวม 17 ตำบล 80 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,046 ครัวเรือน อยู่ระหว่างฟื้นฟู
2) เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สารภี อ.หางดง อ.สันป่าตอง และ อ.เมืองฯ รวม 24 ตำบล 166 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,927 ครัวเรือน อยู่ระหว่างฟื้นฟู
3) ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองฯ รวม 6 ตำบล 32 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,601 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
4) ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่พริก รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
5) พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองฯ อ.บางกระทุ่ม อ.วังทอง อ.นครไทย และ อ.วัดโบสถ์ รวม 27 ตำบล 104 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,749 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6) สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองฯ อ.ศรีสัชนาลัย อ.กงไกรลาศ อ.คีรีมาศ และ อ.ทุ่งเสลี่ยม รวม 19 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,053 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
7) นครสวรรค์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองฯ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 70 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ภาคกลาง รวม 6 จังหวัด 29 อำเภอ 197 ตำบล 993 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 39,278 ครัวเรือน
1) ชัยนาท เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ และ อ.สรรพยา รวม 16 ตำบล 49 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 755 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
2) สิงห์บุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อินทร์บุรี อ.เมืองฯ และ อ.พรหมบุรี รวม 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 596 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
3) สุพรรณบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เดิมบางนางบวช อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง อ.ศรีประจันต์ อ.สามชุก อ.เมืองฯ อ.อู่ทอง และ อ.ดอนเจดีย์ รวม 43 ตำบล 211 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,892 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
4) อ่างทอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเศษชัยชาญ อ.ไชโย อ.เมืองฯ และ อ.ป่าโมก รวม 22 ตำบล 75 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 985 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5) พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.บางปะหัน รวม 102 ตำบล 601 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,430 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6) นครปฐม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.นครชัยศรี อ.บางเลน และ อ.กำแพงแสน รวม 10 ตำบล 43 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 620 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงนำรถขุดตักไฮดรอลิคยกสูง รถตักล้อยางเอนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุกเทท้าย รถขุดตักไฮดรอลิคแขนยาว เร่งขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง พร้อมทั้งปรับเกลี่ยถนน เส้นทางสัญจร ฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือนในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง และปักหลักช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่ลงมาปกคลุมแล้ว ส่งผลภาคเหนือ และภาคกลางด้านตะวันตกยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาฯ อากาศเย็นกับมีลมแรง

“มาดามอ้อย” ยันไม่ยอมความ-เจรจา ปมเงิน 71 ล้าน

“มาดามอ้อย” เปิดใจครั้งแรก สบายใจหลังเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ยืนยันไม่ได้ให้เงิน 71 ล้านบาท โดยเสน่หา รับใจสลาย จะไม่ยอมความหรือเจรจา