รัฐสภา 9 ต.ค. – กมธ.การทหาร สว. เตรียมบุกกองทัพเรือสัตหีบ ศุกร์นี้ หาความจริง “พลทหาร” ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจริงหรือไม่ พร้อมลงสงขลา เยียวยาจิตใจครอบครัว
คณะกรรมาธิการ การทหาร และความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำโดยนางสาววิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ สว. ในฐานะโฆษก กมธ. แถลงข่าว กรณีพลทหารศิริวัฒน์ ใจดี เสียชีวิตระหว่างการฝึก กรมสารวัตรทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยนางสาววิธาวีร์ กล่าวว่า เบื้องต้นของการประชุม กมธ. ได้ปรึกษาหารือประเด็นเร่งด่วนนี้ เนื่องจากเป็นที่ประชาชนและสังคมให้ความสนใจ ซึ่ง กมธ. มีความเห็นในแนวทางเดียวกันว่าควรมีการเร่งดำเนินการ สร้างความชัดเจนและเยียวยาบรรเทาอย่างเหมาะสม รวมถึงต้องมีการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบกำลังพลทางทหารให้สอดคล้องกับภารกิจความมั่นคงในปัจจุบันอย่างแท้จริง โดยพลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธาน กมธ. ได้ห่วงใยและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการเสียชีวิตระหว่างการฝึกถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จำเป็นต้องเร่งดูแลและสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนอย่างเร่งด่วน ดังนั้น กมธ. จึงมีความมุ่งมั่นทำงานเชิงรุกต่อภารกิจอย่างเป็นที่พึ่งที่ที่หวัง ในการติดตามและช่วยส่งเสริมสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงทั้งระบบเพื่อให้เป็นไป เพื่อความสงบสุขของประชาชน และการพัฒนาประเทศเป็นสำคัญ
นางสาววิธาวีร์ กล่าวว่า ในที่ประชุมประธาน กมธ. ได้มอบหมายภารกิจด่วน มอบหมายนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เลขานุการ กมธ. ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อให้กำลังใจและเยี่ยมเยียนครอบครัวพลทหารผู้เสียชีวิต พร้อมรับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สำหรับนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงเบื้องต้นรายงานต่อกมธ. เพื่อส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ให้เกิดความเป็นธรรม รวมถึงมอบหมายว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ รองประธาน กมธ. คนที่สาม และนาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษากมธ. ในการลงพื้นที่รับฟังข้อมูลเบื้องต้นจากหน่วยงาน ณ ศูนย์ฝึกฯ ของกรมสารวัตรทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเพื่อรับทราบข้อมูลที่สำคัญ ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นางสาววิธาวีร์ กล่าวว่า ที่ประชุม กมธ. ได้มอบหมายคณะอนุกมธ.กิจการทหาร ทหารผ่านศึกและสรรพกำลังความมั่นคงเพื่อการช่วยเหลือประชาชนและการพัฒนาประเทศให้ไปพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบกำลังพลทางทหารให้สอดคล้องกับภัยคุกคามเป็นกองทัพที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพต่อภารกิจความมั่นคงในปัจจุบันและในอนาคตอย่างแท้จริง
ขณะที่นาวาตรี วุฒิพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรานิ่งนอนใจไม่ได้ จึงประสานไปยังกองทัพเรือ เพื่อดำเนินการเข้าพื้นที่โดยเร่งด่วน คาดว่าวันศุกร์นี้ (11 ต.ค.) จะมีการเข้าพื้นที่ เรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ปกติ จะมาบอกว่าเป็นเรื่องปกติมันไม่ใช่ ถือเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วน กระทบกระเทือนต่อขวัญและกำลังใจทหารประจำการและพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
“หลายคนบอกว่าเป็นการฆาตกรรม เป็นอุบัติเหตุ หรือร่างกายที่ไม่พร้อม เพราะฉะนั้น ตรงนี้ต้องไปปรึกษาทางการแพทย์ว่าอาการที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเพราะอะไร ด้วยความปรารถนาดีต่อกองทัพและบุคลากรในกองทัพ รวมถึงขวัญกำลังใจของพี่น้องประชาชน ถ้าเขาอยู่ยังไม่ดีพอ ถือเป็นปัญหาของกองทัพที่ต้องปรับปรุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขวิทยาเบื้องต้น การประถมพยาบาลเบื้องต้นที่มีปัญหา ที่เห็นในข่าว ดังนั้น การแก้ไขปัญหาจะต้องเร่งดำเนินการหลายมิติ เราคงไม่เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง พอเรียกมาก็เป็นอย่างที่เห็นครับ เดี๋ยวก็ไม่ได้ตัวจริงสักที ก็เลยไปพบเลย อาจจะการเริ่มต้นจากการไปพบผู้บัญชาการทหารเรือ จากนั้นไปพบกองพันสารวัตรทหาร” นาวาตรี วุฒิพงศ์ กล่าว.-319 -สำนักข่าวไทย